โดย สรกล อดุลยานนท์
รู้สึกไหมครับว่า เรื่องความสัมพันธ์กับต่างประเทศและความมั่นคง
ยิ่งนานวันยิ่งเลวร้ายลงเรื่อยๆ
ไม่ได้ว่าคุณกษิต ภิรมย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ไม่มีฝีมือ
เพียงแต่สงสัยว่าทำไมตั้งแต่ "อภิสิทธิ์" แต่งตั้ง "กษิต" ดูแลเรื่องต่างประเทศ
ความสัมพันธ์ระหว่างไทยกับเพื่อนบ้านจึงย่ำแย่ลงเรื่อยๆ
ไม่ว่าจะเป็นกัมพูชาหรือพม่า
ด่านชายแดนที่เคยเป็นประตูระหว่างเพื่อนบ้านก็อยู่ในสภาพลักปิดลักเปิดเป็นประจำ
ทั้งที่ชายแดนของไทยติดกับ "พม่า" และ "กัมพูชา" ประมาณ 70-80% ของทั้งหมด
"คนฉลาด" เขาต้องพยายามสร้างความสัมพันธ์ที่ดีกับเพื่อนบ้าน
การวัดผลงานตามหลักการบริหาร เขาไม่ได้วัดว่าได้ไปประชุมร่วมกันกี่ครั้ง จับมือกันกี่หน
แต่เขาวัดกันที่ "ผลงาน" ครับ
คุณอภิสิทธิ์กล้าบอกไหมว่าความสัมพันธ์ระหว่างไทยกับกัมพูชาและพม่าในยุค "กษิต" นั้นดีกว่าในอดีต
ยกหูคุยกันได้
เป็นเพื่อนที่พอเกิดเหตุไม่พอใจเรื่องเล็กเรื่องน้อย แต่ละคนไม่ติดใจกัน
หรือมีอะไรดีๆ ก็บอกเพื่อน ชวนเพื่อนไปลงทุน
กรณี 7 คนไทย คือคำตอบที่ดีที่สุด
"ผล" ที่แสดงออกมาเป็นคำตอบว่าการบริหารงานของรัฐบาลนั้นเป็นอย่างไร
เช่นเดียวกับเรื่อง "3 จังหวัดชายแดนใต้"
การบุกถล่มค่ายทหารเมื่อ 2-3 วันก่อน เป็นสัญญาณให้รู้ว่าการต่อสู้ได้ยกระดับขึ้นแล้ว
ใครที่บอกว่าสถานการณ์ 3 จังหวัดชายแดนใต้ดีขึ้น
คนนั้นละเมอ!!!
เพิ่งเห็นตัวงบประมาณด้านการทหารที่รัฐบาลไทยใส่เข้าไป 1.4 แสนล้านบาท ในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนใต้ในช่วงเวลาประมาณ 8 ปี
จากปี 2547 จำนวน 13,450 ล้านบาท ปี 2554 รัฐบาล "อภิสิทธิ์" ตั้งงบฯสำหรับดับไฟใต้ 19,102 ล้านบาท
สูงขึ้นเกือบ 50%
ตามหลักการบริหาร รัฐบาลใส่ "คน" และ "งบประมาณ" มากขึ้นทุกปี แต่สถานการณ์กลับเลวร้ายลงกว่าเดิม
ถ้าคนเป็นนักบริหาร เขาจะตั้งคำถามว่า 1.ตัวผู้บริหารทำงานเป็นหรือเปล่า 2.ใช้คนทำงานถูกต้องหรือเปล่า
หรือ 3.ยุทธศาสตร์การแก้ปัญหาของเราถูกต้องหรือไม่
ทำแบบเดิมๆ มา 8 ปี ใส่เงินและคนเข้าไปมโหฬาร แต่ "ผล" ที่ออกมากลับแย่ลงกว่าเดิม
สิ่งแรกที่ต้องทำคือ เปลี่ยนวิธีคิด วิธีทำงานใหม่
ตามหลักเศรษฐศาสตร์ งบประมาณด้านการทหารแม้จะเป็นเรื่องจำเป็น
แต่เป็นงบประมาณที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้
ใส่ลงไปเท่าไร ก็ไม่มีผลทางเศรษฐกิจงอกเงย
ดังนั้น หากรัฐบาลมีความสัมพันธ์ที่ดีกับเพื่อนบ้าน และทำให้ไฟใต้สงบลง
รัฐบาลจะได้มีงบประมาณไปใช้ในกิจการอื่นเพื่อก่อให้เกิดรายได้เพิ่มขึ้น
เรื่องแบบนี้คุณอภิสิทธิ์ควรจะ "คิดนอกกฎ-บริหารนอกกรอบ" บ้าง
ไม่ใช่มัวแต่ "คิดนอกกรอบ" เรื่อง "ชั่งกิโลไข่ไก่"
หรือเป็นวิธีคิดใหม่ทางการบริหาร
สร้าง "รอยยิ้ม" ให้กับคนไทย