บล็อคข่าวส่งเสริมคนดี (รักดีหามจั่ว รักชั่วหามเสา หามจั่วก็หนักนะ)

ข่าวจากสื่อ

บทความจากสื่อ

วันศุกร์ที่ 18 พฤศจิกายน พ.ศ. 2554

คำให้การของไก่อู

ที่มา มติชน


โดย สุริวงค์ เอื้อปฏิภาน

(ที่มา คอลัมน์สถานีคิดเลขที่ 12 หนังสือพิมพ์มติชนรายวัน ฉบับประจำวันที่ 18 พฤศจิกายน 2554)

พระ ราชกฤษฎีกา พระราชทานอภัยโทษ ในโอกาสวันที่ 5 ธันวาคม 2554 ซึ่งตามตัวเลขจะมีผู้ได้รับประโยชน์กว่า 2.6 หมื่นคน ในจำนวนนี้จะมีคนชื่อทักษิณด้วยหรือไม่

ยังคงเป็นประเด็นที่ต้องจับตามองกันต่อไป

ยังต้องโต้แย้งกันไปอีกหลายยก

แต่สำหรับอดีตนายกฯอีกคน นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ รวมทั้งอดีตรองนายกฯคู่บารมี นายสุเทพ เทือกสุบรรณ กำลังจะต้องเผชิญหน้ากับคดีสำคัญ

คดีที่สืบเนื่องจากเหตุการณ์เมื่อเดือนเมษายนจนถึงพฤษภาคมปี 2553

กำลังร้อนระอุขึ้นมาอีกครั้ง

เมื่อ พนักงานสอบสวนของกองบัญชาการตำรวจนครบาล ซึ่งได้รับโอนสำนวนคดี 16 คดีจากกรมสอบสวนคดีพิเศษ เพื่อมาสรุปรวบรวมพยานหลักฐานเพิ่มเติม

โดยเป็น 16 สำนวน ที่กรมสอบสวนคดีพิเศษชี้เอาไว้เบื้องต้นว่า น่าจะเกิดจากการกระทำของเจ้าหน้าที่ทหาร

กำลังเร่งสอบปากคำเจ้าหน้าที่ทหารที่เกี่ยวข้องอย่างขะมักเขม้น

กระทั่งถึงคิวพยานปากสำคัญ

พ.อ.สรรเสริญ แก้วกำเนิด ซึ่งในขณะเกิดเหตุ ดำรงตำแหน่งโฆษกศูนย์อำนวยการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉินหรือ ศอฉ.

ได้เข้าให้ปากคำต่อพนักงานสอบสวน ไปเมื่อวันที่ 15 พฤศจิกายนที่ผ่านมา

ความสำคัญของพยานปากนี้สำหรับพนักงานสอบสวน ถือเป็นพยานที่จะให้รายละเอียดสายการบังคับบัญชา ขั้นตอนการสั่งการในเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น

ตามข่าวบอกว่า ครั้นถึงเวลาเข้าให้การก็ไม่ทำให้ผิดหวัง

เพราะ พ.อ.สรรเสริญได้ให้รายละเอียดอย่างชัดเจน

เน้นๆ เลยว่า โดยระบบของกองทัพ โดยอำนาจของกองทัพ โดยภารกิจของกองทัพ จะไม่สามารถสั่งให้ทหารนำอาวุธยุทโธปกรณ์เข้ามาปฏิบัติการในใจกลางกรุงเทพ มหานครได้

ดังนั้นที่ทหารลากปืน ลากรถถัง รถหุ้มเกราะ ออกมาเต็มถนนไปหมดนั้น ไม่เกี่ยวข้องกับการสั่งการของกองทัพแต่อย่างใดทั้งสิ้น

แล้วใครสั่ง แล้วอำนาจอะไรมากำหนดให้ทหารเข้ามาปฏิบัติการกลางเมืองหลวงเช่นนั้นได้

คำให้การของโฆษก ศอฉ.ระบุว่า ไม่ใช่คำสั่งของกองทัพ แต่เป็นคำสั่งของ ศอฉ.

แล้ว ศอฉ.มาจากไหน

พ.อ.สรรเสริญให้การว่า ศอฉ.เป็นองค์กรที่เกิดขึ้นมาด้วยลายเซ็นของคนชื่ออภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ และมีนายสุเทพ เทือกสุบรรณ ทำหน้าที่ผู้อำนวยการ

ด้วยอำนาจของ ศอฉ.นี่เอง ที่สั่งการให้ทหารพร้อมอาวุธเข้ามาปฏิบัติการกระชับพื้นที่

ดังนั้น ทั้งหลายทั้งปวงที่ทหารเข้ามาปฏิบัติการ ล้วนเป็นคำสั่งของผู้บังคับบัญชาแห่ง ศอฉ.

รายละเอียดคำให้การคงจะมีอะไรมากมายกว่านี้

แต่ที่หลุดรอดเป็นข่าวออกมา เน้นให้เห็นว่า ผู้แทนของทหารเข้าให้การในแง่สายการสั่งการชัดเจนแล้ว

มัดแน่นไปที่ผู้มีอำนาจสั่งการ ในศอฉ.

ผลในทางคดี ก็จะนำไปสู่ขั้นตอนการดำเนินคดีกับผู้สั่งการได้ชัดเจนขึ้น

แต่อันที่จริงก็ไม่ใช่เรื่องผิดคาด เพราะกองทัพเป็นหน่วยงานที่ปฏิบัติตามคำสั่งของอำนาจการเมือง

ในยุคหนึ่งอำนาจการเมืองใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน สั่งการให้ทหารเข้าปะทะกับม็อบ เปื้อนเลือดไปตามๆ กัน

ในยุคปัจจุบัน อำนาจการเมืองไม่ใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน มอบหมายให้ทหารเข้าปะทะกับน้ำ เพื่อช่วยเหลือประชาชน

เต็มไปด้วยเสียงชื่นชมจากสังคม

ข่าวส่งเสริมคนดี

จำนวนผู้เข้าเยี่มมชม

link to affordable web hosting
Powered by web hosting provider .

สถิติการเข้าชม DMNEWS

eXTReMe Tracker