อ้ายเสือ..ถอย!-นาย อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ทวีตข้อความผ่านtwitterว่า พรรคไม่มีนโยบายปิดยูทูป และเฟซบุ๊ค หลังจากรองโฆษกพรรค ติ่ง-มัลลิกา ออกมาแถลงข่าวก่อนหน้านี้เสนอให้ปิดเพื่อปกป้องสถาบันกษัตริย์จากพวกหมิ่น พระบรมเดชานุภาพ แล้วโดนวิจารณ์หนัก ล่าสุดติ่ง-มัลลิกาได้ทวีตตอบหัวหน้าพรรคของเธอว่า"สอดคล้องค่ะ"
โดย ทีมข่าวไทยอีนิวส์
29 พฤศจิกายน 2554
คืบหน้าช่วยเพื่อนในคุก-นาง ธิดา ถาวรเศรษฐ เขียนบันทึกความก้าวหน้าช่วยเหลือเพื่อนนักโทษคดีการเมือง คาดได้ยื่นประกัน 101 นักโทษคีดการเมืองในกลางเดือนหน้า ส่วนการย้ายที่คุมขังมาที่บางเขนแยกจากอาชญากรทั่วไปพร้อมแล้ว และได้ขอร้องคนที่โจมตีว่า ขอให้มาเป็นส่วนหนึ่งแห่งการกระทำเพื่อช่วยเหลือนักโทษการเมืองให้สัมฤทธิผล จะดีกว่า
นายแพทย์สลักธรรม โตจิราการ บุตรชายนางธิดา ถาวรเศรษฐ รักษาการประธานนปช.เขียนเปิดเผยในเฟซบุ๊ควันนี้ ว่า ล่าสุดคุณแม่เล่าให้ฟังว่า พล.ต.อ.ประชา พรหมนอก รัฐมนตรียุติธรรม ได้แจ้งว่า สถานที่ใหม่ที่จะให้นักโทษการเมืองอยู่นั้น ระยะแรกพร้อมแล้ว จะเริ่มย้ายให้เร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้ คิดว่าสภาพสถานที่นั้นเอื้ออำนวยต่อคุณภาพชีวิตและสวัสดิภาพของนักโทษการ เมืองทั้งหลายมากกว่าสภาพที่ปัจจุบัน แต่ยังติดปัญหาว่านักโทษการเมืองในต่างจังหวัดจะทำอย่างไร
ส่วนเื่เรื่องการประกันตัว ล่าสุดสมาคมทนายแห่งประเทศไทยเข้ามาช่วยทำงานกับกรมคุ้มครองสิทธิ กระทรวงยุติธรรมในการประกันตัวนักโทษการเมือง ในกลางเดือนธันวาคม ข้อมูลทั้งหมดน่าจะเรียบร้อยพร้อมดำเนินการยื่นเรื่องประกัน
คุณแม่ฝากประกาศว่า แม้เราจะได้รับความช่วยเหลือจากสมาคมทนายความ กลุ่มทนายเพชรพงศ์ บ้านเลขที่111 รวมถึงทนายอาสา เช่นคุณอานนท์ แต่เรายังต้องการทนายมาช่วยทวงความยุติธรรมเป็นจำนวนมากโดยเฉพาะการประกัน นักโทษคดี พรก.และคดี112 ถ้าทนายท่านใดรักความเป็นธรรมกรุณาติดต่อ อ้อย เลขาคุณแม่ได้ที่086-093-7706 หรือที่สำนักงานกองทุนยุติธรรม อิมพีเรียลลาดพร้าวชั้น5ในเวลาราชการครับ
เรื่องนี้สืบเนื่องจากรักษาการประธานนปช.เข้าพบรัฐมนตรียุติธรรมเมื่อวันที่ 23 พฤษจิกายนที่ผ่้านมา ขอให้รัฐบาลปฏิบัติตามข้อเสนอของ คอป.ซึ่งได้ข้อตกลง 2 เรื่้องคือการย้ายที่คุมขังให้นักโทษคดีการเมืองต่างหากจากอาชญากรทั่วไป และให้ปล่อยตัวโดยกรมคุ้มครองสิทธิจะเป็นผู้ยื่นประกันตัว
วันเดียวกันนางธิดา เขียนบันทึกหัวข้อ ปฏิบัติการช่วยเหลือผู้ถูกคุมขังในคดีอันเนื่องจากความขัดแย้งทางการเมือง โดยกล่าวถึงสถานการณ์ล่าสุดว่า ในเร็ว ๆ นี้ผู้ต้องขังเหล่านี้จะได้รับสิทธิแยกไปคุมขังในที่เหมาะสม อาจจะเป็น โรงเรียนนายสิบตำรวจบางเขน ซึ่งจำเป็นต้องปรับปรุงเพิ่มเติม เราก็หวังว่าในระหว่างรอคอยอิสรภาพ ผู้ถูกคุมขังจากคดีอันเนื่องจากความขัดแย้งทางการเมือง จะมีชีวิตที่ผ่อนคลายมากขึ้น ได้รับความสะดวกสบายเพิ่มขึ้น จากที่เคยถูกคุมขังในเรือนจำเช่นเดียวกับผู้ประกอบอาชญากรรมทั่วไป
สำหรับการประกันตัวนั้น ถ้าผู้ถูกคุมขังใดประสงค์จะแยกประกันโดยหลักทรัพย์เดิม และทนายเดิมที่มีอยู่ ก็รีบแจ้งที่ นปช. ด่วนด้วย ที่หมายเลขโทรศัพท์ 02-9349481 แฟ็กซ์ 02-9349467 หรือ E-Mail : hec2011@hotmail.co.th , คุณวัฒน์ 089-5133197, คุณข้าวเหนียว 086-0937706 เพราะจะได้นำเสนอ ส่วนผู้ถูกคุมขังที่เหลือทั้งหมดที่ประสงค์จะให้รัฐบาลและกรมคุ้มครองสิทธิ ประกันตัวทุกท่าน
ก็หวังว่าจะได้รับการประกันตัวเพิ่มขึ้น และเราก็ต้องต่อสู้กันต่อไป เพื่อช่วยเหลือพี่น้องเราทุกคน เรามิได้เน้นคนหนึ่งคนใด คดีใดเป็นพิเศษ แต่เราทำเพื่อทุกคน ผู้ที่พยายามโจมตีกล่าวร้าย นปช. ก็ไม่ว่ากัน แต่ขอให้คุณเป็นส่วนหนึ่งแห่งการกระทำเพื่อช่วยเหลือให้สัมฤทธิผลจะดีกว่า กระมัง !
นางธิดาเขียนบันทึกเรื่อง ปฏิบัติการช่วยเหลือผู้ถูกคุมขังในคดีอันเนื่องจากความขัดแย้งทางการเมือง ว่า การปฏิบัติภาระหน้าที่เฉพาะหน้าของคณะกรรมการ นปช. ส่วนกลางตามที่แถลงไว้ ณ วันที่ 1 ธันวาคม 2553 อันเป็นการแถลงเปิดตัวคณะกรรมการ นปช.ส่วนกลาง ในสถานการณ์ที่คณะกรรมการชุดเดิมต้องถูกจับกุมคุมขังและหลบหนีไปเกือบทั้ง หมด คนที่เหลืออยู่ก็ถูกคุกคามว่าจะจับกุมอยู่เกือบทุกวัน เช่น คุณจตุพร พรหมพันธ์ ก็ถูกอธิบดี DSI เวลานั้น ขู่จับกุมเกือบทุกสัปดาห์ คณะกรรมการชุดรักษาการจึงต้องเกิดขึ้นในสถานการณ์ยากลำบากของขบวน
ข้อแรกของภาระหน้าที่ คือ การรณรงค์ให้ปล่อยตัวหรือได้รับการประกันตัว ทั้งแกนนำ มวลชนเสื้อแดง และผู้ถูกจับกุมคุมขังโดยมิชอบทั้งหลายให้ได้รับการประกันตัว เพื่อดำเนินคดีอย่างรัฐที่มีนิติธรรม
ข้อ 2 การช่วยกันเยียวยาผู้ถูกกระทำและครอบครัว ทั้งการประกันตัวและต่อสู้คดี
ข้อ 3 การเรียกร้องความยุติธรรม อันหมายรวมที่จะเอาคนผิดมาลงโทษ และการใช้อำนาจรัฐที่เป็นนิติรัฐนิติธรรม ด้วยมาตรฐานเดียวกันต่อประชาชนผู้ถูกกล่าวโทษและจับกุมคุมขัง
ข้อ 4 การยกระดับการต่อสู้ของประชาชนให้สูงขึ้นด้วยองค์ความรู้ มิให้ลื่นไถลไปกับความคิดสุ่มเสี่ยง หรือการยอมจำนนอย่างไร้หลักการ
ข้อ 5 ต่อสู้ ผลักดัน จัดตั้งรัฐบาลประชาชน ภายใต้เป้าหมายยุทธศาสตร์ใหญ่เฉพาะหน้า คือการยกเลิกรัฐธรรมนูญ 2550 และกฎหมายที่ไม่เป็นธรรมทั้งปวง และองค์กรที่มาจากผลการทำรัฐประหาร
ถ้าคนที่ติดตาม นปช. ในการแถลงข่าวมาตลอดก็จะรู้เป้าหมายยุทธศาสตร์ ซึ่งมีอยู่นานแล้วว่า ไม่ต่างอะไรกับแนวทางนิติราษฎร์ และเราก็แถลงสนับสนุนมาตลอด จนบางคนกล่าวว่า เราเอากลุ่มนิติราษฏรมาผูกโยงกับ นปช. รึเปล่า บางคนไม่เห็นด้วย
แต่เราได้แถลงเป็นประจำถึงเป้าหมายยุทธศาสตร์ นโยบาย และภาระหน้าที่ของ นปช. ซึ่งเราต้องปฏิบัติตามหลักการนี้ ไม่ใช่เรื่องสนับสนุนหรือไม่สนับสนุนกลุ่มใด แต่เราเดินไปตามหลักการที่วางไว้ และได้รับการเห็นชอบมาก่อนแล้ว เมื่อเป็นไปตามแนวเดียวกัน การพูดสนับสนุนก็เป็นธรรมดาที่พูดกันเป็นประจำ ปัญหาเรื่องสนับสนุนนิติราษฎรหรือไม่ จีงมีเฉพาะผู้ที่ไม่ติดตามเรื่องราวของเราเท่านั้น จีงไม่ทราบหรือทราบแต่ตั้งใจจะให้ร้ายป้ายสีก็เป็นได้
ในการปฏิบัติตามหลักการ มติของ นปช. ที่วางไว้นั้น บางเรื่องต้องมีขั้นตอน ระยะเวลา และสถานการณ์มาเกี่ยวข้อง แต่เราเดินหน้าปฏิบัติไปให้บรรลุให้ได้
ขณะนี้เราได้รวบรวมรายชื่อผู้ต้องขังอันเกิดจากความขัดแย้งทางการเมืองไว้ 101 ราย เพื่อทำภาระหน้าที่ช่วยเหลือชีวิตความเป็นอยู่ การประกันตัวและต่อสู้คดี ซึ่งประชาชนทั่วไปก็ได้ช่วยกันมากมาย เพราะลำพังกลุ่ม นปช. ไม่มีกำลังทรัพย์และทนายเพียงพอที่จะช่วยได้สมบูรณ์ทุกราย ทนายอาสา และประชาชนอาสาจึงเป็นส่วนเติมเสริมแต่งให้การช่วยเหลือดีขึ้น
ณ บัดนี้ ในการเร่งรัดรัฐบาลในขั้นตอนกระบวนการยุติธรรมที่ไม่ใช่เรื่องของตุลาการ เราได้พยายามที่จะเร่งให้รัฐบาลนี้และกลไกความยุติธรรมอื่น ๆ อำนวยความยุติธรรมแก่ประชาชนผู้ถูกกระทำให้ได้มากที่สุด ดังที่เราได้เจรจากับคณะของกระทรวงยุติธรรม มีทั้ง รัฐมนตรี ประชา พรหมนอก ท่านปลัดกระทรวงยุติธรรม ท่านรองปลัดกระทรวงยุติธรรม และตัวแทนอธิบดีกรมราชทัณฑ์ อธิบดีกรมคุ้มครองสิทธิ โดยได้ขอความเป็นไปได้ 4 ข้อคือ
1. ให้ดำเนินการประกันตัวทุกรายในคดีอันเนื่องจากความขัดแย้งทางการเมือง (มิได้จำกัดเฉพาะคดีอันเนื่องมาจากการชุมนุมในเดือน เมษายน-พฤษภาคม ปี 2553)
2. ให้จัดที่คุมขังแยกจากผู้ถูกคุมขังอื่น ๆ
3. ให้ทบทวนการตั้งข้อหาที่รุนแรงเกินจริง
4. ให้ชลอคดีที่ดำเนินอยู่ โดยรอข้อมูลที่ยังไม่ครบถ้วนทั้งเหตุแห่งปัญหา และมาตรการทางกฎหมายและประโยชน์สาธารณะ รวมทั้งมาตรการทางอาญาเรื่องความยุติธรรมในระยะเปลี่ยนผ่าน
ทางกระทรวงยุติธรรมรับไป 2 ข้อแรก เพราะเดิมหน่วยงานรัฐบาลจะไม่รวมคดี 112 และ พรบ. คอมพิวเตอร์ฯ แต่เรายืนยันข้อเสนอ คอป., ปคอป. และมติ ครม. เรื่อง คดีหมิ่นฯ ตามมาตรา 112 และผิด พรบ. คอมพิวเตอร์ฯ ทางกระทรวงฯ จึงรับสิทธิของผู้ต้องขังเหล่านี้รวมไว้ตามข้อเสนอ ปคอป. และข้อเรียกร้องของเราด้วย
ผลก็คือ เร็ว ๆ นี้ผู้ต้องขังเหล่านี้จะได้รับสิทธิแยกไปคุมขังในที่เหมาะสม อาจจะเป็น โรงเรียนนายสิบตำรวจบางเขน ซึ่งจำเป็นต้องปรับปรุงเพิ่มเติม เราก็หวังว่าในระหว่างรอคอยอิสรภาพ ผู้ถูกคุมขังจากคดีอันเนื่องจากความขัดแย้งทางการเมือง จะมีชีวิตที่ผ่อนคลายมากขึ้น ได้รับความสะดวกสบายเพิ่มขึ้นจากที่เคยถูกคุมขังในเรือนจำเช่นเดียวกับผู้ ประกอบอาชญากรรมทั่วไป
สำหรับการประกันตัวนั้น ถ้าผู้ถูกคุมขังใดประสงค์จะแยกประกันโดยหลักทรัพย์เดิม และทนายเดิมที่มีอยู่ ก็รีบแจ้งที่ นปช. ด่วนด้วย ที่หมายเลขโทรศัพท์ 02-9349481 แฟ็กซ์ 02-9349467 หรือ E-Mail : hec2011@hotmail.co.th , คุณวัฒน์ 089-5133197, คุณข้าวเหนียว 086-0937706 เพราะจะได้นำเสนอส่วนผู้ถูกคุมขังที่เหลือทั้งหมดให้รัฐบาลและกรมคุ้มครอง สิทธิ ประกันตัวทุกท่าน
ก็หวังว่าจะได้รับการประกันตัวเพิ่มขึ้น และเราก็ต้องต่อสู้กันต่อไป เพื่อช่วยเหลือพี่น้องเราทุกคน เรามิได้เน้นคนหนึ่งคนใด คดีใดเป็นพิเศษ แต่เราทำเพื่อทุกคน ผู้ที่พยายามโจมตีกล่าวร้าย นปช. ก็ไม่ว่ากัน แต่ขอให้คุณเป็นส่วนหนึ่งแห่งการกระทำเพื่อช่วยเหลือให้สัมฤทธิผลจะดีกว่า กระมัง !
*********
เรื่องเกี่ยวเนื่อง
-เปิดหลักฐานกระบวนการอยุติธรรมไทยไม่ปรองดอง ฟันอีกคดีหมิ่น-ถ่วงคดีก่อการร้ายยึดสนามบินครบ3ปี
-ย้าย101นักโทษการเมืองไปพลตร.บางเขน รัฐเป็นเจ้าภาพยื่นประกันรวมอากงSMSขึ้นกับศาลเมตตา