ที่มา facebook ของนพดล ปัทมะ เผยแพร่เมื่อเวลา09.40 น.วันอาทิตย์ที่ 20 พฤศจิกายน 2554 (คลิ้กที่ภาพเพื่อขยายใหญ่)
นายนพดล ปัทมะ อดีตรัฐมนตรีต่างประเทศ ทนายความประจำตระกูลชินวัตร ผู้แทนทางกฎหมายในประเทศไทยของ พ.ต.ท.ดร.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ได้โพสต์รูปภาพจดหมายซึ่งเขียนด้วยลายมือใส่กระดาษ เขียนโดย พ.ต.ท.ทักษิณ โดยมีเนื้อหาดังนี้
ที่ดูไบ สหรัฐอาหรับเอมิไมเรตส์
20 พฤศจิกายน 2554
พี่น้องไทยที่เคารพรัก
เนื่องด้วยขณะนี้บ้านเมืองอยู่ในภาวะวิกฤตจากปัญหาน้ำท่วม ผมเป็นห่วงและต้องการให้ประเทศและพี่น้องประชาชนผ่านพ้นวิกฤตโดยเร็ว ซึ่งต้องการความสามัคคีปรองดองภายในชาติ จึงจะร่วมกันฟันฝ่าภัยธรรมชาติในครั้งนี้ได้ ผมขอสนับสนุนทุกมาตรการที่จะนำไปสู่ความปรองดองในชาติและไม่อยากเห็นความ พยายามใดๆที่จะทำให้บรรยากาศนี้เสียหาย และผมพร้อมที่จะเสียสละความสุขส่วนตัวทั้งๆที่ผมไม่ได้รับความเป็นธรรมมาก ว่า 5 ปีแล้ว เพื่อพี่น้องประชาชนผมจะอดทน
จากการเสนอพระราชกฤษฎีกาพระราชทานอภัยโทษประจำปี ซึ่งปีนี้เป็นปีที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯทรงพระเจริญพระชนมายุครบ 84 ปี จึงมีข่าวว่า อาจจะมีผมรวมอยู่ด้วย ผมมั่นใจในหลักการที่ว่ารัฐบาลจะไม่ทำการใดๆที่ให้ประโยชน์แก่ผมหรือบุคคล หนึ่งบุคคลใดเป็นการเฉพาะ ยิ่งไปกว่านั้นการกระทำใดๆในช่วงนี้ ต้องเป็นไปเพื่อนำประเทศสู่ความปรองดองและฝ่าฟันวิกฤตจากภัยธรรมชาติน้ำท่วม ใหญ่เท่านั้น
อีกทั้งพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวยังทรงพระประชวรอยู่ เราต้องไม่ทำให้พระองค์ทรงหนักพระราชหฤทัยเป็นอันขาด กระผมก็มั่นใจว่า ท่านนายกฯของเรามีแนวคิดและความตั้งใจเช่นเดียวกันกับผม
สำหรับพี่น้องที่สนับสนุนผม ห่วงใยผม ก็ขออย่าได้ผิดหวังเพราะเมื่อแสงแห่งธรรมปรากฎ ทุกอย่างจะจบเอง เพราะบ้านเมืองจะอยู่ในภาวะขัดแย้ง อย่างนี้ตลอดไปไม่ได้
ท้ายนี้ ผมขอเรียกร้องทุกฝ่ายที่รักชาติบ้านเมืองจริง ต้องรู้จักคำว่า "FORGIVE AND FORGET"คือรู้จักให้อภัยซึ่งกันและกัน ลืมเรื่องเก่าๆ เข้าสู่มิติใหม่ของวันพรุ่งนี้เพื่อบ้านเมืองและลูกหลานเราครับ
ด้วยความเคารพรักและคิดถึง
(ลายมือชื่อ) พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร
พันธมิตรชักไปไม่เป็นอ้างจดหมายทักษิณยังกั๊ก
ทางด้านASTVผู้จัดการ สื่อกระบอกเสียงของพันธมิตรที่นัดกันชุมนุมต่อต้านการออกพรฎ.ในวันจันทร์ที่ 21 นำเสนอรายงานข่าวสั้นๆในหัวข้อข่าวเรื่อง "แม้ว"โผล่ป้อง"รบ.ปู"เชื่อไม่ขออภัยโทษเพื่อตนคนเดียว โดยนำเสนอข่าวดังนี้
พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เขียนจดหมายด้วยลายมือโพสต์ในกระดานข้อความเฟซบุ๊คส่วนตัวของ นายนพดล ปัทมะ ที่ปรึกษาทางกฎหมายส่วนตัว โดยจดหมายมีใจความส่วนหนึ่งว่า เนื่องด้วยบ้านเมืองขณะนี้ ประสบภาวะวิกฤตน้ำท่วม จึงอยากให้พ้นวิกฤต ซึ่งต้องการความสามัคคีในชาติ และส่วนตัวพร้อมที่จะสละความสุขส่วนตัว แม้ที่ผ่านมาจะไม่ได้รับความเป็นธรรม มากว่า 5 ปี แต่จะอดทน
ทั้งนี้จากการที่จะเสนอร่างพระราชกฤษฎีกาอภัยโทษ ที่อาจมีชื่อของตนเองรวมอยู่ด้วยนั้น ส่วนตัวมั่นใจว่า รัฐบาลจะไม่ทำการใดๆ ที่จะเป็นประโยชน์แก่ตนเอง หรือบุคคลใดเป็นการเฉพาะ
สำหรับจดหมายฉบับนี้ พ.ต.ท.ทักษิณ ได้ลงวันที่วันนี้ (20 พ.ย. ) และสถานที่คือ ดูไบสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์
จากนั้นไม่นานได้ขึ้นพาดหัวใหญ่ในหน้าแรกในหัวข้อข่าว "นช.แม้ว" ร่อน จม.ขอชาติปรองดอง อ้างรัฐไม่อภัยโทษเพื่อตน วอนทุกฝ่ายลืมเรื่องเก่า โดยไม่มีท่าทีใดๆของแกนนำพันธมิตรในรายงานข่าวชิ้นนี้
ขณะที่ นายปานเทพ พัวพงษ์พันธ์ โฆษกพันธมิตร ผู้มีบทยาทสูงในการนัดหมายการชุมนุมวันจันทร์ที่ 21 เขียนลงเฟซบุ๊คส่วนตัว ในช่วงเวลา 12.00 น. ว่า
จดหมาย ของทักษิณ ยังกั๊กและไม่ชัดเจน เพราะคำว่าเชื่อมั่นในหลักการที่ว่ารัฐบาลไม่ได้ออกพระราชกฤษฎีกาเพื่อ ทักษิณคนเดียว แปลว่า 1.แยกตัวเองว่า ตัวเองออกมาไม่รู้ว่าครม.ร่างพระราชกฤษฎีกาอย่างไร 2.พระราชกฤษฎีกา อภัยโทษ ไม่ได้ใช้กับทักษิณคนเดียวอยู่แล้วเพราะมีนักโ่ทษคนอื่นๆได้รับประโยชน์ด้วย เพียงแต่กรณีนี้มีข่าวว่าเอาทักษิณเป็นตัวตั้งเท่านั้น
เพียงแต่จดหมายฉบับนี้ออกมาก่อนพันธมิตรฯชุมนุม 1 วัน ย่อมทำให้เกิดความไขว้เขวว่าทักษิณถอยแล้ว ทั้งๆที่ความเป็นจริงคณะรัฐมนตรียังไม่เคยปฏิเสธข่าวเนื้อหาร่างพระราช กฤษฎีกาเลยแม้แต่น้อย
นายปานเทพให้สัมภาษณ์ไทยรัฐออนไลน์ ว่า ทั้ง พ.ต.ท.ทักษิณ และรัฐบาลยิ่งลักษณ์คงได้มีการประเมินสถานการณ์และวิเคราะห์แล้ว เห็นว่า มีแรงต้านคัดค้านการขออภัยโทษ พ.ต.ท.ทักษิณ ไม่น้อยไปกว่าเดิม และมีมากยิ่งขึ้นด้วย นายปานเทพให้คำจำกัดความว่า "หากยังดำเนินการที่ขัดกับหลักกฎหมาย ความรู้สึกและประเพณีที่เคยปฏิบัติกันมา รัฐบาลและผู้นำอาจจะอยู่ในประเทศไม่ได้ก็เป็นได้ และอาจเกิดการเผชิญหน้าของกลุ่มมวลชน
ประกาศยุติชุมนุม ม็อบที่ขนมาจากใต้อลเวง
ต่อมาในเวลา 17.40 น. นายปานเทพ เปิดเผยผ่านรายการ “ชั่วโมงข่าวสุดสัปดาห์” ทางเอเอสทีวี ว่า ตามที่ พล.ต.อ.ประชา พรหมนอก รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ได้ประกาศแล้วว่าจะใช้พระราชกฤษฎีกาพระราชทานอภัยโทษ ตามที่รัฐบาลประชาธิปัตย์ได้ทำมาแล้วในปี 2553 ทุกประการ เท่ากับว่า พ.ต.ท.ทักษิณ จะได้ไม่ได้รับประโยชน์จากการพระราชทานอภัยโทษครั้งนี้
ดังนั้น แกนนำพันธมิต เห็นว่า เมื่อรัฐบาลเปลี่ยนท่าที และถอยจากประเด็นนี้แล้ว จึงหมดเงื่อนไขที่จะเดินทางไปยังสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาในวันจันทร์ที่ 21 นี้ ดังนั้น จึงขอประกาศยุติการชุมนุมตามที่นัดหมายแต่เดิม แต่เปลี่ยนเป็นกิจกรรมย่อยพบปะพูดคุย และแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกับแกนนำและผู้ปราศรัย โดยจัดเวทีกลางแจ้งที่บ้านเจ้าพระยา วันจันทร์ที่ 21 เวลา 10.00-18.00 น.
การประกาศยุติม็อบดังกล่าวส่งผลให้พันธมิตรอารมณ์ค้างพากันเขียนด่าแกนนำในท้ายข่าวดังกล่าวมาก เช่น
พอมีจดหมายจาก นช.แม้ว และลิ่วล้อออกมาพูดแก้ พธม.ก็เชื่อง่ายๆอย่างนี้หรือ... อยากเรียกชุมนุมก็เรียก อยากเลิกก็เลิกง่ายๆแบบนี้... ไม่เห็นด้วยเลย/ใหญ่
โธ่..แค่นายประชา พรหมนอก พูดแค่นี้ก็เชื่อมันแล้วหรือ แบบนี้จะทำงานใหญ่ได้หรือ เพราะนายประชา พูดอะไรบ้างที่เป็นความจริง มันพูดกลับไปกลับมาเหมือนนายทักษินพ่อมันนั่นแหละ ความจริงไหนๆก็มากันแล้วไล่มันไปทั้งหมดดีไหม จะปล่อยให้มันปรับตัววางแผนเล่นงานพวกเราในภายหลังทำไม
รับเงินใครมาหรือเปล่า ค่าจ้างเลิกม็อบน่ะ
แถลงข่าวขึงขัง นึกว่าเอาจริง ชักเข้าชักออกอย่างนี้ ไม่ไหวเหมือนกันนะ
พันธมิตร
ไรว๊ะ ชักเข้าชักออก , ดันกลับลำซะแล้ว นึกว่ารัดถะบานอยากจะลองของ , อารมณ์ยิ่งไม่ดีอยู่ น้ำท่วมบ้าน กะว่าจะรวมบัญชีไปเลย ...เซ็ง
การ ประกาศชุมนุมดังกล่าวสร้างความอลเวงให้กับม็อบพันธมิตรที่เดินทางมาจาก จังหวัดสงขลาเป็นอันมาก เนื่องจากได้ออกเดินทางมาเมื่อตอนบ่าย กำลังเข้าสุราษฏร์ธานี แล้วก็มีโทรศัพท์ปลายสายบอกว่า....." ยกเลิกชุมนุม "? ตอนนี้เลยกำลังอลหม่านว่าจะกลับสงขลา หรือไปกรุงเทพฯต่อ หรือแวะซื้อไข่เ็ค็มไชยา หากมีรายงานคืบหน้า ผู้สื่อข่าวจะแจ้งให้ทราบต่อไป
คำแปลฉบับภาษาอังกฤษ ( Translation of Dr. Thaksin Shinawatra's letter dated 20 November 2011 )
Dubai, U.A.E.
20 November 2011
Dear Fellow Thai People,
As our country has been going through a crisis from the big flood, I am concerned and want our country and all Thai people to pass through this crisis quickly and that requires harmony and reconciliation in our country in order to overcome this natural disaster. I support all measures that will lead to national reconciliation and do not want to see any attempt that will sour the atmosphere and I am prepared to sacrifice my personal happiness even though I have not received justice during the last five years. I will be patient for the sake of the people.
As the Royal Decree which will provide for annual royal pardon is being proposed and as H.M. the King will become 84 years’ old this year, and as there has been rumor that my name will be included in the list of individuals to be proposed for royal pardon, I trust in the principle that the government will not do anything that will benefit me or any individual specifically.
Moreover, any action to be taken during this period of time must be merely taken so as to bring national reconciliation to our country and to overcome the crisis due to national disaster from big flood.
As H.M. the King has been ill, we must certainly not make H.M. the King worried and I am confident that our Prime Minister shares my belief and intention.
With respect to Thai people who have supported and cared for me, please don’t be disappointed as when the light of justice emerges, all will be settled as the country will not be under the state of conflict forever.
Finally, I call upon all parties who truly love Thailand to know the words “forgive and forget” by forgiving each other and forget the past in order to face new dimensions of tomorrow for the sake of our country and younger generations.
With Best Regards
Police Lt. Col. Thaksin Shinawatra