เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 17 พ.ย. ที่รัฐสภา ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ในการประชุมวันนี้ที่ฝ่ายค้านตั้งกระทู้ถามสดเรื่องพระราชกฤษฎีกาขอพระราช ทานอภัยโทษพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ทั้งที่เป็นเรื่องลับนั้น จะพยายามชี้แจงให้ได้มากที่สุด แต่ว่าลงรายละเอียดไม่ได้มาก ยืนยันได้ว่ารัฐบาลชุดนี้ไม่ทำอะไรที่ผิดกฎหมาย และไม่ทำอะไรเพื่อคนๆ เดียวโดยเด็ดขาด กรอบกฎหมายเป็นอย่างไรต้องเป็นไปตามนั้น แนวคิดนโยบายของรัฐบาลแต่ละรัฐบาลก็มีความแตกต่างกันได้
เมื่อถามว่า การคืนความเป็นธรรมให้ พ.ต.ท.ทักษิณ กลับบ้านที่ทางพรรคเพื่อไทยกำลังชูนโยบายและต้องเป็นไปตามนั้นใช่หรือไม่ ร.ต.อ.เฉลิม กล่าวว่า ไม่ขอพูดในรายละเอียด พระราชกฤษฎีกาก็มีการกำหนดหลักเกณฑ์วิธีการไว้ ไม่ได้กำหนดตัวบุคคล ถ้ามีพระราชกฤษฎีกาแล้ว ก็ต้องประกาศในพระราชกิจจานุเบกษาตามขั้นตอนต่อไป
เมื่อถามว่าร.ต.อ.เฉลิมเคยพูดก่อนว่าบุคคลที่พูดเรื่องความลับก่อนเป็นการ ล่วงเกินพระราชอำนาจ แต่ในอีกมุมหนึ่งก็มีการมองว่าทางรัฐบาลกำลังระคายเคืองเบื้องพระยุคลบาท ร.ต.อ.เฉลิม กล่าวว่า ไม่แสดงความเห็นในเรื่องนี้ เพราะเป็นเรื่องมิบังควร
นักข่าวสถานีโทรทัศน์ถามต่อว่า เรื่องนี้มีความชัดเจนมาตั้งแต่ต้นว่า นายกรัฐมนตรีมอบหมายให้ร.ต.อ.เฉลิมดูแลเรื่องการขอพระราชทานอภัยโทษ และร.ต.อ.เฉลิมเองก็เคยออกเอกสารให้กับทางสื่อมวลชนเกี่ยวกับเรื่องหลักการ ในการขอพระราชทานอภัยโทษ ยังยืนยันเนื้อหาในเอกสารที่เคยทำหรือไม่ ร.ต.อ.เฉลิม กล่าวว่า ไม่เคยทำ และไม่เคยออกเอกสาร นักข่าวเข้าใจผิดพลาดแล้ว ไม่มีการเซ็นเอกสาร เรื่องนั้นเป็นเรื่องพระราชกฤษฎีกาของปี 2550 กับ ปี 2553 มาบอกสื่อมวลชน เพียงแต่ประมวลให้สื่อมวลชนได้รู้เท่านั้นเอง
เมื่อถามว่า ก็มีการตั้งคณะกรรมการมาทุกชุดรัฐบาลอยู่แล้ว แต่วันนี้แนวคิดของรัฐบาลที่จะทำพระราชกฤษฎีกาจะมีความแตกต่างอย่างไรกับ สิ่งที่เคยทำกันมา และเหตุผลที่จะแตกต่างเพราะอะไร ร.ต.อ.เฉลิม กล่าวว่า นักข่าวรายนี้ก็เข้าใจผิดซ้ำสอง ไม่ใช่แนวคิดรัฐบาล กระทรวงยุติธรรมที่มีการตั้งคณะกรรมการขึ้นมานั้นก็เพื่อมาดูกำหนดกฎเกณฑ์ แต่ต้องอยู่ภายใต้กรอบกฎหมาย เมื่อกรรมการทำเสร็จก็จะส่งยื่นต่อรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ก่อนเสนอต่อคณะรัฐมนตรี แล้วจึงส่งเรื่องไปคณะกรรมการกฤษฎีกา ซึ่งถ้าเห็นว่าไม่ผิดกฎหมายก็เป็นเรื่องที่ทำได้ และเมื่อรายงานต่อข้างบนก็จะมีองคมนตรีมาตรวจสอบอีกครั้ง
นักข่าวคนเดิมถามว่า สิ่งที่รัฐบาลยังไม่ชัดเจน อาจทำให้กลายเป็นปัญหาน้ำผึ้งหยดเดียว จนทำให้คนไทยเกิดการปะทะกัน ร.ต.อ.เฉลิม กล่าวว่า น้ำผึ้งหยดเดียวมีที่ไหน น้ำผึ้งมีแต่หนึ่งขวด
เมื่อซักต่อว่า ทำไมไม่ให้ความจริงต่อสาธารณะ ร.ต.อ.เฉลิม กล่าวว่า มันยังไม่ถึงเวลา
เมื่อนักข่าวคนเดิมซักต่อในประเด็นที่เกี่ยวโยงถึงสถาบัน ร.ต.อ.เฉลิม กล่าวว่า คุณกล้ามาก ถ้ายืนให้สัมภาษณ์ต่อไป อาจติดคุก ตนไม่ตอบ ไม่มีอะไรขัดแย้ง ทุกอย่างเป็นไปตามกฎหมาย
นักข่าวคนเดิมถามอีกว่า ถ้าเกิดว่าไปเปิดความลับในช่วงเวลาที่ใกล้กับพิธีมหามงคล จนเกิดปัญหาตามมา คณะรัฐมนตรีจะรับผิดชอบไหม ร.ต.อ.เฉลิม กล่าวว่า เป็นคำถามที่ไม่น่าถาม เห็นเป็นนักข่าวมานาน ไม่อยากจะต่อว่า ก็อะไรที่มันยังเปิดไม่ได้ แล้วจะเปิดเองได้อย่างไร