ที่ศูนย์ประชุมสิริกิติ์ เมื่อวันที่ 16 พฤศจิกายน นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ในฐานะผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร ให้สัมภาษณ์กรณีรัฐบาลออก พ.ร.ฎ.พระราชทานอภัยโทษ ว่า ตนและพรรคประชาธิปัตย์ยอมรับเรื่องนี้ไม่ได้ ถือเป็นการทำลายระบบนิติรัฐ เป็นการสร้างปัญหาวิกฤตรอบใหม่ ที่สำคัญกระบวนการที่ทำมีพิรุธ ไม่โปร่งใส เป็นการแปลงหลักการสำคัญที่ปฏิบัติกันมาโดยตลอด คือการเสนอให้มีการพระราชทานอภัยโทษ โดยยกหลักการคนทำผิดต้องรับโทษต้องสำนึกผิดแล้วจึงให้อภัยโทษออกไป ถือเป็นสิ่งที่น่ากลัวมาก เพราะเท่ากับว่าคนหนีคดีก็สามารถได้รับประโยชน์ไปด้วยจะเป็นตัวบ่อนทำลาย กระบวนการยุติธรรมในประเทศ หากยกออกไปก็เท่ากับว่ารัฐบาลกำลังส่งสัญญาณครั้งใหญ่ว่า การทุจริตคอร์รัปชั่นไม่ใช่เรื่องสำคัญ เพราะฉะนั้น ยอมรับตรงนี้ไม่ได้
นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า เกิดข้อสงสัยว่า นายกฯจงใจไม่เข้าประชุม ครม. และเมื่อมาถึงขนาดนี้ นายกฯจะพูดแค่ว่าไม่ทราบเรื่อง ให้ไปถามรองนายกฯคงจะไม่ได้ เรื่องนี้หัวหน้ารัฐบาลต้องทราบแล้ว จึงควรแสดงจุดยืนกับประชาชนอย่างชัดเจนว่าจะแก้ไขหรือไม่ และถ้าไม่แก้ไขพรรคประชาธิปัตย์ก็จะเดินหน้าในการคัดค้านอย่างถึงที่สุด และสิ่งที่จะเริ่มต้นได้ในเวลานี้คือ การตั้งกระทู้ถามสดในสภา และนายกฯจะปฏิเสธความรับผิดชอบไม่ได้ เพราะสุดท้ายนายกฯจะต้องเป็นผู้รับสนองพระบรมราชโองการ และตนคิดว่าในฐานะหัวหน้ารัฐบาล กำลังทำในสิ่งที่จะทำให้เกิดปัญหาความวุ่นวายแตกแยกเกิดขึ้นในสังคม นายกฯอยู่ในฐานะที่จะยับยั้งแก้ไขได้ก็ควรจะทำ ขอเรียกร้องว่าถ้าสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีการับเรื่องดังกล่าวไปตรวจก็ขอให้ ยืนยันรูปแบบของกฎหมายที่ได้ทำกันมาช้านาน อย่าได้ทำให้มันผิดเพี้ยนไป เพราะจะเป็นตัวทำลายระบบยุติธรรมในอนาคต
หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์กล่าวด้วยว่า เราจะขอความชัดเจนนายกฯ เพราะการประชุม ครม.เมื่อวันที่ 15 พ.ย. เป็นการประชุมลับ ทั้งที่ในสมัยก่อนเรื่องแบบนี้ก็ไม่ได้มีการประชุมลับ อยากให้นายกฯแสดงจุดยืนที่ชัดเจนภายใน 1-2 วันนี้ เพราะไม่ใช่เรื่องที่คิดนาน ต้องตอบสังคมว่าจะเดินหน้าทำหรือไม่ ถ้าเดินหน้าพรรคประชาธิปัตย์ก็ต้องทำหน้าที่ของเรา และถ้านายกฯใช้การเงียบ หรือการหนีปัญหาไปประชุมอาเซียนก็ถือเป็นคำตอบในตัวว่านายกฯก็มีส่วนสำคัญ หรืออาจเป็นตัวการด้วยซ้ำ เพียงแต่ทำเรื่องนี้แบบไม่ตรงไปตรงมา
"ขอให้หยุดเถอะครับ อย่าดึงดันเดินหน้าเรื่องนี้ต่อไปเลย ชัดมากว่าทำเพื่อ พ.ต.ท.ทักษิณคนเดียว แต่ที่แย่คือการไม่ทำตรงไปตรงมา ต้องการให้นายกฯทบทวนเรื่องนี้ ถ้ายังไม่ทบทวนฝ่ายค้านก็จะพิจารณากันต่อไป แต่ในชั้นนี้นายกฯมีโอกาสแก้ไขและทำเรื่องนี้ให้ถูกต้อง" นายอภิสิทธิ์กล่าว