"I am an American citizen, and what happened was in America."-ผมเป็นพลเมืองอเมริกัน,แล้วนี่มันเกิดอะไรกับอเมริกา?-โจ กอร์ด้อน กล่้าวหลังทราบคำตัดสิน(AP)
"I would like to stay and see some positive Thailand. I want to see the real, amazing Thailand, not the messy Thailand."-เมื่อพ้นโทษผมจะอยู่ในประเทศไทย ผมอยากดูว่าจะมีอะไรในทางบวกสำหรับไทย ผมต้องการอย่างนั้นจริงๆ มหัศจรรย์เมืองไทย ผมไม่หวังจะได้เห็นความยุ่งยากสำหรับประเทศนี้-โจ กอร์ด้อนกล่าวกับAP
The U.S. Embassy's consul general, Elizabeth Pratt, told reporters in Bangkok after the ruling that Washington considered Gordon's punishment "severe because he has been sentenced for his right to freedom of expression."-เจ้าหน้าที่กงศุลใหญ่ สถานทูตสหรัฐฯในไทย เอลิซาเบ็ธ แพร็ตต์ตอบคำถามผู้สื่อข่าวในกรุงเทพฯหลังทราบคำตัดสินว่า รัฐบาลวอชิงตันเห็นว่าการลงโทษโจ กอร์ด้อนรุนแรงเกินไปสำหรับข้อหาที่เขามีสิทธิเสรีภาพในการแสดงออก-AP
ข่าวดีในข่าวร้าย-วันเดียวกันนี้นักโทษการเมืองคนเสื้อแดงได้ออกจากคุกสู่อิสรภาพหลายราย ถ่ายรูปหมู่เพื่อนนักโทษการเมืองเสื้อแดงที่พ้นโทษจากเรือนจำ หากวันนั้นไม่ใช่พวกเขา ก็อาจเป็นเรา ที่ต้องติดคุก(ที่มา:facebookป๋าจอมฯ)
โดย ทีมข่าวไทยอีนิวส์
8 ธันวาคม 2554
ตัดสินคดีโจกอร์ด้อนวันนี้ 2 ปี 6 เดือน เทพีเสรีภาพยืนหลับ
สำนักข่าวAP รายงานว่าผู้พิพากษาตะวัน รอดเจริญได้ตัดสินจำคุกนายโจ กอร์ด้อน วัย 55 ปี พลเมืองอเมริกัน ฐานหมิ่นพระบรมเดชานุภาพเป็นเวลา 2 ปีครึ่ง
โดยศาลตัดสินให้จำคุกโจเป็นเวลา 5 ปี แต่เพราะสารภาพจึงลดลงกึ่งหนึ่งเหลือ 2 ปี 6 เดือน
"ผมเป็นพลเมืองอเมริกัน แล้วนี่เกิดอะไรขึ้่นกับอเมริกา?"โจ กอร์ด้อนกล่าวและวิจารณ์ว่านี่เป็นกระบวนการยติธรรมแบบไทยๆ"ในประเทศไทย พวกเขาส่งคนเข้าคุกแม้ไม่ได้พิสูจน์ว่าทำผิด"
กงสุลของสถานทูตสหรัฐอเมริกา เอลิซาเบธ แพรตต์กล่าวกับผู้สื่อข่าวหลังจากที่ทราบผลตัดสินคดีว่า ทางการวอชิงตันเห็นว่าเป็นการลงโทษที่"รุนแรงเพราะเขาได้รับการพิพากษาตัดสินในเรื่องสิทธิเสรีภาพในการแสดงออกของเขา"
นายอานนท์ นำภา ทนายความของโจ กอร์ด้อน เปิดเผยทางเฟซบุ๊คว่า ช่วง 9 นาฬิกาวันนี้ศาลอาญาได้ตัดสินจำคุกโจ กอร์ด้อนว่ากระทำความผิดหมิ่นพระบรมเดชานุภาพ ฐานแปลหนังสือ The King never smiles เผยแพร่ทางอินเตอร์เน็ตเป็นเวลา 2 ปี 6 เดือน
ก่อนหน้านี้ทนายอานนท์กล่าวว่า วันนี้จะเป็นอีกวันนึงที่ผมเซ็งมากๆ เพราะต้องไปฟังศาลอ่านคำพิพากษา ลงโทษจำเลยคดีหมิ่นพระบรมเดชานุภาพอีกคดีหนึ่ง คุณโจ กอร์ดอน เป็นอีกหนึ่งคนที่ผมทึ่งในความเป็นคนของเขามากๆ เขารับสารภาพว่าเป็นผู้แปลหนังสือ " The King never smile" และเผยแพร่ทางเน็ต เขาคือคนที่มีส่วนในการสร้างหนังเรื่อง "ทองปาน" เป็นผู้ที่แต่งเพลงให้วงคาราวานหลายเพลงแต่ไม่เคยได้รับเครดิดแม้แต่ครั้งเดียว
คุณโจ กอร์ดอน รักการถ่ายภาพ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ดอกไม้ใบหญ้า สิ่งที่ได้จากการทำคดีนี้คือ "เสรีภาพ มิสามารถอ้างได้ในผืนแผ่นดินนี้" วันนี้ โซ่ตรวนจะพันธนาการเขาต่อหน้าศาลไทย และใต้เสียงหัวเราะของใครบางคน เจอกัน พรุ่งนี้ ๐๙.๐๐ น. ที่ศาลอาญา
อนึ่ง โจ (เลอพงษ์) กอร์ดอน ชาวไทยสัญชาติอเมริกัน-ไทย ถูกเจ้าพนักงานสอบสวน กรมสอบสวนคดีพิเศษ (DSI) จับกุมตัวที่บ้านพักจังหวัดนครราชสีมา เมื่อวันที่ 24 พ.ค. ที่ผ่านมา โดยโจทก์ฟ้องว่า จำเลยกระทำผิดโดยนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ ซึ่งข้อความที่เป็นการดูหมิ่น หมิ่นประมาท แสดงความอาฆาตมาดร้ายพระมหากษัตริย์ อันเป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา โดยใช้นามแฝงว่า "สิน แซ่จิ้ว" พร้อมประกาศตนว่า กูไม่ใช่ฝุ่นใต้ฝ่าตีนบุคคลใด นอกจากนี้ยังบังอาจแปลหนังสือ The King Never Smiles ซึ่งเป็นหนังสือต้องห้ามภายในราชอาณาจักร
ก่อนหน้านี้ เมื่อวันที่ 10 ต.ค.54 นายโจ (เลอพงษ์) กอร์ดอน รับสารภาพต่อหน้าบัลลังก์ว่า “ผมไม่ต่อสู้คดี ยอมรับสารภาพ” จากเดิมที่เขาให้การปฏิเสธทั้งในชั้นจับกุม และชั้นสอบสวน โดยศาลนัดฟังคำพิพากษาในวันที่ 9 พ.ย. แต่ถูกเลื่อนออกไปเป็นวันที่ 8 ธ.ค.54 เนื่องจากสถานการณ์น้ำท่วม
หนังสือ"The King Never Smile" ที่โจ เลอพงษ์ถูกกล่า่วหาเป็นผู้แปลและเผยแพร่นั้น ตีพิมพ์ในภาษาอังกฤษโดยสำนักพิมพ์มหาวิทยาลัยชั้นเยล ทางราชการไทยได้สั่งห้ามนำเข้ามาภายในประเทศ ถูกใช้เป็นแบบเรียนเพื่ออ่านประกอบการเรียนการสอนวิชา "ไทยศึกษา" ของมหาวิทยาลัยเยล ซึ่งมีศิษย์เก่าที่มีชื่อเสียงหลายคน เช่น อดีตประธานาธิบดีจอร์ช ดับเบิลยู บุช ,บิล คลินตัน และฮิลลาลี คลินตัน
ก่อนหน้านี้เมื่้อปลายเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา โจ กอร์ดอน ได้เขียนจดหมายเปิดผนึกถึงประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา ประเทศที่ได้ชื่อว่า “สิทธิมนุษยชน” ถูกบังคับใช้อย่างกว้างขวางและเท่าเทียม ทว่า ชายคนนี้ คนที่ต้องหาในคดีหมิ่นพระบรมเดชานุภาพในประเทศไทย ไม่เคยสัมผัสแต่เพียงนิดเดียว…ดังต่อไปนี้(รายละเอียดฉบับภาษาอังกฤษอ่านข่าว:จดหมายจากคุกถึงทำเนียบขาว ท่านประธานาธิบดีเสรีภาพอเมริกันถูกย่ำยีโดยประเทศโลกที่3อย่างไทย)
กราบเรียน ท่านประธานาธิบดีโอบาม่า
ผมเขียนจดหมายนี้ถึงท่าน เป็นเรื่องความเป็นความตายของผมในคุกที่กรุงเทพ,ประเทศไทย ทางการไทยจับกุมผมด้วยข้อหาหมิ่นพระบรมเดชานุภาพ และกฎหมายความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ รัฐบาลไทยใช้กฎหมายนี้กับนักกิจกรรม ปัญญาชน นักข่าว นักเขียน และนักการเมือง โดยคุมขังคนเหล่านี้ในเรือนจำนานนับทศวรรษในหลายกรณีแล้ว
ผมไม่สามารถต่อสู้คดีนี้ในกระบวนการยุติธรรมไทยได้แต่เพียงลำพัง เพราะว่า มันเป็นกระบวนการที่ฉ้อฉล อคติ และละเมิดสิทธิมนุษยชน ซ้ำร้ายยังเต็มไปด้วยการปฏิบัติที่ไม่ยุติธรรม เป็นต้นว่า ในกรณีของผม มีการจองจำโดยไม่ให้ประกันตัว ผมจึงรู้สึกว่าน่าสลดใจที่เสรีภาพในการแสดงออกของเราชาวอเมริกัน ได้ถูกละเมิด ย่ำยี และลดทอนคุณค่าลงโดยประเทศโลกที่สามอย่างไทย
ผมอยากเรียกร้องให้อเมริกันชนทั้งมวลลุกขึ้นเถิดเพื่อสนับสนุนการปกป้องต่อเกียรติภูมิของรัฐธรรมนูญแห่งสหรัฐอเมริกาที่บัญญัติให้เสรีภาพในการแสดงออกเป็นข้อบทที่สำคัญยิ่ง ทว่ารัฐบาลไทยไม่ยอมรับ รัฐบาลอเมริกันควรต้องพิทักษ์ปกป้องและประณามที่ไทยใช้กฎหมายอันมิชอบนี้เป็นเครื่องมือปกป้องสถาบันกษัตริย์ให้พ้นไปจากการวิพากษ์วิจารณ์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งคนอเมริกันเช่นผมที่โดนกระทำอยู่ในเวลานี้ และเพรียกหาอิสรภาพ ประเทศไทยต้องปล่อยผมจากคุกตั้งแต่บัดนี้
ขอพระเจ้าทรงอำนวยพระพรท่านประธานาธิบดี และอเมริกา
ด้วยความเคารพยิ่ง
โจ กอร์ด้อน
เรือนจำกรุงเทพฯ ประเทศไทย
ฝรั่งตื่นกลัวออกคำเตือนอย่าิเผลอกดlikeเฟซบุ๊ค หากเดินทางเที่ยวไทยอาจติกคุกแบบโจ กอร์ด้อน
ภาพประกอบรายงานข่าวจากเว็บไซต์ Thai Travel News ซึ่งเป็นเว็บไซต์แนะนำการท่องเที่ยวในประเทศไทยสำหรับชาวต่างประเทศ โดยอ้างคำกล่าวรัฐมนตรีICTของไทยว่า การกดShareหรือlikeเฟซบุ๊คข้อความหรือภาพที่หมิ่นพระบรมเดชานุภาพ อาจเอาผิดชาวต่างชารติไม่ได้เพราะอยู่นอกอำนาจศาลไทย แต่หากเดินทางเข้ามาท่องเที่ยวเมืองไทยเมื่อไหร่ก็จะถูกดำเนินคดีพระราชทานอภัยโทษซ้ำรอยนายกฯ-สภาที่ปรึกษาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ลงโฆษณาในนสพ.มติชนถวายพระพรเมื่อ 5 ธันวาคมที่ผ่านมา โดยบทอาเศียรวาทตอนหนึ่งว่า"ถวายชัยแซ่ซ้องก้องโลกันต์"ซึ่งต่อมาถูกท้วงติงจากปัณรส บัวคลี่ นักเขียนค่ายผู้จัดการว่า คำว่า "โลกันต์" หรือ "โลกันตร์" หมายถึง "นรกขุมที่ลงโทษแรงสุด" ซึ่งทำให้ความหมายของบทร้อยกรองในวรรคดังกล่าวและโดยรวมผิดเพี้ยนไป
ช่วงบ่ายวานนี้ปัณรสแจ้งว่า สภาที่ปรึกษาฯ ได้ทำหนังสือถึงสำนักราชเลขาธิการพระราชวัง เพื่อขอพระราชทานอภัยโทษแล้ว นับเป็นเหตุซ้ำรอยนายกรัฐมนตรีที่ทีมงานนำเสนอพระบรมฉายาลักษณ์ ร.8 ในการเชิญชวนพสกนิกรชาวไทยถวายพระพรในหลวง 5 ธันวา
Richard Barrow เขียนรายงานข่าวในเว็บไซต์ Thai Travel News เว็บไซต์แนะนำการท่องเที่ยวในประเทศไทยสำหรับชาวต่างประเทศว่า ชาวต่างชา่ติได้รับคำเตือนว่าพวกเขาอาจถูกจับกุมด้วยข้่อหาหมิื่นพระบรมเดชานุภาพ
ทั้งนี้ผู้ใช้เฟซบุ๊คที่กดshare หรือ likeข้อความที่หมิ่นพระบรมเดชานุภาพราชวงศ์ไทยจะถูกพิจารณาว่าเป็นการประกอบอาชญากรรม จากการเปิดเผยของรัฐมนตรีกระทรวงICT อนุดิษฐ์ นาครทรรพ เปิดเผยเมื่อสัปดาห์ก่อน ทั้งนี้รวมทั้งการคัดลอกข้อความดังกล่าวเผยแพร่ด้วย หลังจากเครือข่ายโซเชียลเน็ตเวิร์คอย่างเฟซบุ๊คถูกมองจากทางการไทยว่าเป็นสื่อกลางในการเผยแพร่ข้อความหรือรูปภาพหมิ่นพระบรมเดชานุภาพ ซึ่ีงขัดต่อกฎหมายอาญา และกฎหมายเกี่ยวกับการใช้คอมพิวเตอร์แพร่ระบาดทั้งทางตรงและทางอ้อม
ในวันที่ 8 ธันวาคมนี้ ศาลอาญาจะพิจารณาตัดสินคดีที่นายโจ กอร์ด้อน ชาวอเมริกันที่เกิดในประเทศไทย หลังจากมีการจับกุมคุมขังเขาไว้ตั้งแต่เดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา โทษฐานแปลหนังสือที่ทางการไทยสั่งไม่ให้นำ้เข้าไปเผยแำพร่ในราชอาณาจักร โดยมีเนื้อหาเกี่ยวกับพระราชประวัติของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯภูมิพลอดุลยเดช และได้เผยแพร่ยข้อความแปลทางออนไลน์ ต่อมานายกอร์ด้อนได้สารภาพต่อข้อกล่าวหา ทั้งนี้กอร์ด้อนไปใช้ชีวิตเป็นพลเมืองอเมริกันนานหลายปีที่โคโลราโด้ ทำให้เพิ่มความกังวลว่าจะมีการนำกฎหมายหมิ่นพระบรมเดชานุภาพมาบังคับใช้ต่อทั้งบุคคลสัญชาติไทยและชาวต่างชาติ
"ใครก็ตามที่กระทำขัดต่อกฎหมาย แม้กระทั่งชาวต่างชาติที่ใช้อินเตอร์เน็ตอยูู่นอกประเทศไทย หากมีการกดlikeหรือshareในเรื่องที่กฎหมายไทยห้ามไว้ แม้ขอบเขตกฎหมายไทยไม่อาจลงโทษคุณได้ แต่เมื่อใดก็ตามที่คุณเดินทางเข้าประเทศไทยเพื่อการพักผ่อนวันหยุดยาว คุณก็จะถูกดำเนินคดี"น.อ.อนุดิษฐ์ระบุ
ข้อพิจารณาคือผู้ใช้เว็บไซต์โซเชียลเน็ตเวิร์คอาจไม่ทราบข้อกฎหมายนี้"คุณพึงต้องทราบว่าเมื่อใดที่คุณกดLikeในหน้าwallมันก็จะไปโชว์ให้เพื่อนในเฟซบุ๊คคุณทราบไปด้วย ก็็จะกลายเ็ป็นการเผยแพร่ข้อความผิดกฎหมายในทางอ้อม นี่เป็นข้อพิจารณาจากทางการไทย"จีรนุช เปรมชัยพร ซึ่งถูกดำเนินคดีในกฎหมายนี้เพราะผู้อ่านข้อความในเว็บไซต์ที่เธอเป็นแอดมินอยู่เขียนข้อความที่ทางการเห็นว่าหมิ่นพระบรมเดชานุภาพลงในท้ายข่าวในเว็บไซต์ของเธอ
การจับกุมดำเนินคดีฐานหมิ่นพระบรมเดชานุภาพพุ่งสูงขึ้นในระยะไม่กี่ปีมานี้เป็นเหตุให้เจ้าของเว็บไซต์และผู้ใช้เฟซบุ๊คต้องปฏิบััติการเซ็นเซอร์ตัวเองเพราะความกลัวว่าจะตกเป็นผู้ถูกดำเนินคดีฐานต่อต้านราชวงศ์ โดยเมื่อไวๆนี้ศาลอาญาของไทยเพิ่งตัดสินคดีนายอำพล หรือ อากง วัย 61 ปีให้จำคุก 20 ปีฐานส่งข้อความ 4 ข้อความที่ศาลตัดสินว่าเป็ฺนการหมิ่นพระบรมเดชานุภาพไปยังโทรศัพท์มือถือของเลขานุการส่วนตัวนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ขณะดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีไทยเมื่อกลางปีที่แล้วระหว่างมีการประท้วงใหญ่รัฐบาล แต่อากงได้ปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหาว่าเขาไม่ได้กระทำผิดตามคำตัดสินของศาล
ซ้ำเติมท่องเที่ยวหลังจากน้ำท่วมฉุดวูบ
มติชนออนไลน์รายงานว่า นายปิยสวัสดิ์ อัมระนันทน์ กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) เผยความเสียหายที่เกิดกับการบินไทยหลังจากเหตุการณ์น้ำท่วมที่หลายประเทศออกประกาศเตือนนักท่องเที่ยว ส่งผลให้ลูกค้าหลัก ได้แก่ จีน เกาหลี ญี่ปุ่น ลดลงร้อยละ 40-50
ส่งผลให้ปริมาณผู้โดยสารเฉลี่ยต่อเที่ยวบินของการบินไทยปรับลดลงในช่วงไตรมาส 4 จากปกติถือเป็นช่วงไฮซีซัน โดยปริมาณผู้โดยสารเฉลี่ยต่อเที่ยวบินเดือนพฤศจิกาจน 2553 เคยมีระดับสูงถึงร้อยละ 72 ลดลงเหลือร้อยละ 61 ในเดือนพฤศจิกายน 2554 ส่งผลให้ภาพรวมไตรมาสสุดท้ายต้องสูญเสียรายได้ประมาณ 3,000 ล้านบาท ทำให้ภาพรวมตลอดปี 2554 คงลำบากที่จะทำให้มีกำไรในปีนี้
โฆษกต่างประเทศสหรัฐว่ากังวลต่อคดีอากง แต่ไทยโบ้ยเป็นแค่ความเห็นส่วนตัว
APรายงานวานนี้ว่า โฆษกหญิง กระทรวงต่างประเทศ สหรัฐฯ Darragh Paradiso กล่าวว่า สหรัฐฯมีความเทิดทูนต่อสถาบันกษัตริย์ไทยอย่างสูง ทว่าก็เป็นกังวลอย่างยิ่งในการดำเนินคดีและตัดสินคดีหมิ่นพระบรมเดชานุภาพล่าสุดของไทยที่ไม่ได้สอดคล้องกับมาตรฐานสากลด้านเสรีภาพในการแสดงออก
ขณะที่อธิบดีสารนิเทศ กระทรวงต่างประเทศของไทยบอกว่าเป็นเพียง"ความเห็นส่วนตัว"ของโฆษกหญิงคนนี้เท่านั้น
คนไทยในอเมริกานัดสวมหน้ากากอากงประท้วงในLA
ชาวไทยในLA ได้นัดหมายกันสำหรับคนที่ไม่เห็นด้วยกับคามเป็นธรรมในการใช้ ม.112 ต่อ อากง และคนอื่นๆที่ต้องคดีมารวมพลังแสดงออกโดยการชูป้ายที่หน้า Thailand Plaza 5311 Hollywood Blvd, LA วัน อาทิตย์ที่ 11 ธ.ค.นี้ เริ่มเวลา บ่าย 3 โมงครึ่ง เป็นต้นไป โดยนัดกัีนสวมหน้ากากอากงในการประท้วงครั้งนี้ด้วย
สอบถามรายละเอียดได้ที่
คุณ รำไพ(เจหน่อย) 619-549-2515
คุณ สมบูรณ์(แป๊ง) 909-786-2506
คุณ ประเสริฐ 818-433-0091
คุณ เบญจะ 310-516-7671