เพราะรณรงค์แก้ไข ม.112 เป็นการสร้างความขัดแย้งในบ้านเมือง พร้อมไล่ให้โอนสัญชาติไปเคลื่อนไหวในประเทศที่ให้เสรีภาพในการวิพากษ์ วิจารณ์กษัตริย์ ลั่นที่ผ่านมาไม่เคยมีผู้บริสุทธิ์ถูกยัดเยียดความผิด ขู่ถ้าเคลื่อนไหวต่อไปจะต้องเผชิญหน้า "พลังของความจงรักภักดี"
มติชนออนไลน์ รายงานวันนี้ (27 ธ.ค.) ว่า นายอรรถพร พลบุตร ส.ส.เพชรบุรี ในฐานะรองโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงการเคลื่อนไหวของกลุ่มนิติราษฎร์ ที่จะรณรงค์แก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 ในวันที่ 15 มกราคมนี้ว่า กรณีนี้จะสร้างความขัดแย้งในบ้านเมืองให้มากยิ่งขึ้น และขอให้กลุ่มนิติราษฎร์โอนสัญชาติไปเคลื่อนไหวในประเทศที่ให้เสรีภาพในการ วิพากษ์วิจารณ์พระมหากษัตริย์ ไม่ควรถือสัญชาติไทย ซึ่งถือว่าสถาบันพระมหากษัตริย์เป็นแกนหลักของบ้านเมืองที่ผู้ใดจะล่วง ละเมิดมิได้
รองโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ยัง ตั้งข้อสังเกตว่า กรณีการแก้ไขมาตรา 112 เป็นประเด็นละเอียดอ่อนและจะนำไปสู่ชนวนความขัดแย้งจนบ้านเมืองลุกเป็นไฟ จนกระทั่งพรรคเพื่อไทยยังหลีกเลี่ยงที่จะแตะต้องมาตราดังกล่าว แต่กลุ่มนิติราษฎร์ยังไม่ยอมหยุด
"ผมจึงไม่เข้าใจความนึกคิดของอาจารย์กลุ่มเล็กๆ กลุ่มนี้ว่า การที่กฏหมายห้ามหมิ่นประมาท ดูหมิ่น หรือแสดงความอาฆาตมาดร้ายพระมหากษัตริย์ จะทำให้บ้านถล่มดินทลายหรือทำให้คนกลุ่มนี้ขาดใจตายหรืออย่างไร จึงต้องดิ้นรนทุกวิถีทางที่จะแก้ไขมาตรา 112 และบุคคลที่ตกเป็นผู้ต้องหาหรือจำเลยในคดีนี้ทุกคน ล้วนแต่มีพฤติการณ์ที่เข้าข่ายความผิดมีพยานหลักฐานชัดเจน ซึ่งมีสิทธิที่ต่อสู้เพื่อพิสูจน์ความถูกผิดของตนเอง ไม่เคยปรากฏว่า คนบริสุทธิ์ก็ถูกยัดเยียดความผิดหรือตกเป็นเหยื่อของมาตรา 112 คำพูดดังกล่าวจึงการบิดเบือนเพื่อตอบสนองเป้าหมายที่ก้าวไปไกลกว่าการแก้ไข มาตรา 112
ผมขอให้กลุ่มนิติราษฎร์หยุดการเคลื่อนไหวโดยเด็ดขาด และถ้ายังเคลื่อนไหวในประเด็นนี้ต่อไปก็จะเผชิญหน้ากับพลังของความจงรัก ภักดีที่กำลังหมดความอดทนต่อการกระทำของคนกลุ่มนี้ นายอรรถพรกล่าว