ส.ค.ส. พระราชทาน จาก.."พ่อแห่งแผ่นดิน"
ส.ค.ส. พระราชทาน ประจำปี 2555
ถึงจะมองไม่เห็นฝั่ง
เราก็ต้องพยายามว่าย
อยู่ท่ามกลางมหาสมุทร
โภคะทั้งหลาย
มิได้สำเร็จ
ด้วยเพียงคิดเท่านั้น
ปีใหม่ 2555 ที่กำลังจะมาถึง เชื่อว่าคนไทยทุกท่าน ต่างก็รอก้าวข้ามสู่ปีใหม่ด้วยใจที่เป็นสุข และถือเป็นพระมหากรุณาธิคุณยิ่ง เมื่อแต่ละปีที่ผ่านมา พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว “พ่อหลวงของคนไทย” ได้ พระราชทาน บัตรส่งความสุข ซึ่งพระองค์ทรงประดิษฐ์ขึ้นด้วยพระองค์เอง เพื่อพระราชทานให้แก่ชนชาวไทย เนื่องในโอกาสขึ้นปีใหม่เป็นประจำทุกปี ในวันสิ้นปี 31 ธันวาคม ของทุกปี
พระองค์ทรงพระราชทานพรปีใหม่มาตั้งแต่ปี พ.ศ. 2530
เดิมนั้น พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว จะทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทานพร เนื่องในโอกาสขึ้นปีใหม่ ทางสถานีวิทยุกระจายเสียงและสถานีโทรทัศน์ทุกสถานี ยังทรงปลีกเวลาจากพระราชกรณียกิจ มาปรุแถบโทรพิมพ์ พระราชทานพรปีใหม่ แก่เจ้าหน้าที่ผู้ถวายงาน โดยทรงใช้รหัสแทนพระองค์ว่า กส.9 เช่นเดียวกับที่ทรงใช้ติดต่อทางวิทยุสื่อสาร ทรงระบุท้ายโทรพิมพ์ว่า กส.9 ปรุ
ส.ค.ส. พระราชทานด้วยเครื่องคอมพิวเตอร์ส่วนพระองค์ เมื่อปี พ.ศ. 2531 โดยทรงพิมพ์ด้วยเครื่องพิมพ์ขาวดำ พระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้โทรสารพระราชทานไปหน่วยงานต่าง ๆ โดยข้อความใน ส.ค.ส. พระราชทาน แต่ละปี จะประมวลขึ้นจากเหตุการณบ้านเมือง เพื่อสะท้อนให้เห็นปัญหาและอุปสรรคต่าง ๆ ที่ประเทศไทยต้องประสบ ในรอบ 1 ปีที่ผ่านมา ในปีต่อ ๆ มา หนังสือพิมพ์รายวัน ได้นำลงตีพิมพ์ ในฉบับเช้าวันที่ 1 มกราคม เพื่อให้พสกนิกรชาวไทยได้ชื่นชมอย่างทั่วถึง
นับแต่ทรงใช้เครื่องคอมพิวเตอร์ประดิษฐ์ ส.ค.ส. พระราชทาน ทรงเปลี่ยนแปลงคำลงท้ายของ ส.ค.ส. พระราชทาน เป็น ก.ส. 9 ปรุง เนื่องจากทรงเปลี่ยนจากการ "ปรุ" ด้วยโทรพิมพ์ เป็นการ "ปรุง" ด้วยคอมพิวเตอร์ ถัดจากนั้น จะทรงระบุวันและเวลาที่ทรงประดิษฐ์ขึ้น เป็นรูปแบบเฉพาะ
ส.ค.ส. พระราชทาน ประจำปี 2530
พระราชทานเป็นปีแรก ทรงยังใช้คำว่า "กส. 9 ปรุ"
ส.ค.ส. พระราชทาน ประจำปี 2531
ทรงสอนให้ทุกคนคิดและทำในสิ่งที่ดี เพื่อให้บังเกิดแต่สิ่งดี ๆ ในชีวิต
ส.ค.ส. พระราชทาน ประจำปี 2532
ทรงให้นิยาม 4 ประการของความสุข ว่าคือความปรารถนาดีต่อกัน ความอนุเคราะห์ ความยินดี ความสงบ
ส.ค.ส. พระราชทาน ประจำปี 2533
ทรงให้มีความเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ มีสติ และปัญญา
ส.ค.ส. พระราชทาน ประจำปี 2534
ทรงชี้ให้คนไทยใช้ความเพียร อดทน สติ และปัญญา
ส.ค.ส. พระราชทาน ประจำปี 2535
ทรงให้คนไทยมุ่งทำวันนี้ให้ดีที่สุด
ส.ค.ส. พระราชทาน ประจำปี 2536
ทรงเน้นเรื่องการมองปัญหาให้ชัดเจนและตรงจุด การมีสติ คิดและทำอย่างสร้างสรรค์
ส.ค.ส. พระราชทาน ประจำปี 2537
ทรงกล่าวถึงโครงการพระราชดำริ เพื่อบรรเทาปัญหาจราจรในกรุงเทพมหานคร
ส.ค.ส. พระราชทาน ประจำปี 2538
ทรงให้ข้อคิดในการร่วมมือกันทำงาน เกี่ยวกับการพูด การฟัง
ส.ค.ส. พระราชทาน ประจำปี 2539
ทรงให้คนไทยตั้งมั่นอยู่ในความสมดุลในการแก้ปัญหา และการประสานประโยชน์เพื่อประเทศชาติ
ส.ค.ส. พระราชทาน ประจำปี 2540
ทรงกล่าวถึงพลังความคิด และให้คติในการพูด การคิด และการทำ
ส.ค.ส. พระราชทาน ประจำปี 2541
ทรงพระราชทานกำลังใจ ในการต่อสู้วิกฤตเศรษฐกิจ
ส.ค.ส. พระราชทาน ประจำปี 2542
ทรงให้คนไทยมีความเพียร เช่นเดียวกับพระมหาชนก
และทรงเน้นเรื่องเศรษฐกิจพอเพียงว่า เป็นทางแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจ
ส.ค.ส. พระราชทาน ประจำปี 2543
ทรงกล่าวถึงการเข้าสู่สหัสวรรษใหม่ และให้มองโลกในแง่ดี
ส.ค.ส. พระราชทาน ประจำปี 2544
ทรงให้ทบทวนบทเรียนจากอดีต เพื่อเตรียมตัวฟันฝ่าปัญหาในอนาคต
และตั้งมั่นอยู่ในความดี และความสุจริตใจ
ส.ค.ส. พระราชทาน ประจำปี 2545
ทรงกล่าวถึงปัญหาความขัดแย้ง ขัดแข้งขัดขากัน และให้แก้ปัญหาโดยใช้หัว
คือสมอง ควบคุมทุกส่วนของตัว รวมทั้งขอให้อยู่ในระเบียบ
ส.ค.ส. พระราชทาน ประจำปี 2546
ทรงกล่าวถึงสุนัขทรงเลี้ยง ว่าเป็นเพื่อนที่ดี
ส.ค.ส. พระราชทาน ประจำปี 2547
ทรงกล่าวถึงเหตุการณ์รุนแรงที่เกิดขึ้นทั่วโลก ภายหลังเหตุการณ์วินาศกรรม 11 กันยายน พ.ศ. 2544 ทรงให้คนไทยมีความรักสามัคคีกัน
พ.ศ. 2548
ในโอกาสขึ้นปีใหม่ พ.ศ. 2548 พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว มิได้พระราชทาน ส.ค.ส.
เนื่องจากเกิดเหตุคลื่นสึนามิซัดเข้าชายฝั่งทะเลอันดามันอย่างรุนแรง จากการเกิดแผ่นดินไหวในมหาสมุทรอินเดีย
ส.ค.ส. พระราชทานตั้งแต่ พ.ศ. 2549
ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทานเป็นภาพสี
นอกจากนี้ คำลงท้ายของ ส.ค.ส. พระราชทาน ตั้งแต่ปีดังกล่าวเป็นต้นมา จะมีข้อความ
"พิมพ์ที่โรงพิมพ์สุวรรณชาด ท.พรหมบุตร, ผู้พิมพ์โฆษณา Printed at the Suvarnnachad, D.Brahmaputra,
Publisher"(ใน ส.ค.ส. ปี 2549) และ "Printed at the Suvarnnachad Publishing, C.Brahmaputra, Publisher" (ใน ส.ค.ส. ปี 2550)
ส.ค.ส. พระราชทาน ประจำปี 2549
เป็นพระบรมฉายาลักษณ์ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ในฉลองพระองค์สีเขียว
มีภาพปักรูปคุณทองแดงที่กระเป๋าด้านซ้าย ทรงฉายคู่กับคุณทองแดง
ส.ค.ส. พระราชทาน ประจำปี 2550
เป็นพระบรมฉายาลักษณ์ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
ทรงฉายคู่กับคุณทองแดง และสุนัขทรงเลี้ยง ที่เป็นเหลนของคุณทองแดงอีก 9 สุนัข
ส.ค.ส. พระราชทาน ประจำปี 2551
เป็นพระบรมฉายาลักษณ์ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ในฉลองพระองค์ชุดปกติขาว
ทรงฉายคู่กับคุณทองแดง และสุนัขทรงเลี้ยง ที่เป็นเหลนของคุณทองแดงอีก 4 สุนัข
ส.ค.ส. พระราชทาน ประจำปี 2552
เป็นพระบรมฉายาลักษณ์ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ในฉลองพระองค์ชุดสูทสีเทา
ทรงฉายคู่กับสุนัขที่ทรงเลี้ยง 2 สุนัข
ส.ค.ส. พระราชทาน ประจำปี 2553
เป็นพระบรมฉายาลักษณ์ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ในฉลองพระองค์ชุดปกติสีชมพู
ทรงฉายคู่กับสุนัขที่ทรงเลี้ยง คือ "คุณทองแดง"
ส.ค.ส. พระราชทาน ประจำปี 2554
เป็นพระบรมฉายาลักษณ์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวในฉลองพระองค์สากลสีครีมผ้า ปักพระกระเป๋าเป็นผ้าลายริ้วสีเหลืองสลับเทา ฉลองพระองค์ชั้นในเป็นเชิ้ตขาว ทรงผูกเนคไทลายริ้วสีเหลืองสลับเทาประทับบนพระเก้าอี้
ด้านข้างพระเก้าอื้ที่ประทับทั้งสองข้างมีโต๊ะสูงโต๊ะด้านซ้ายวางแจกันแก้ว ก้านสูงปักดอกไม้หลากสี โต๊ะด้านขวาวางแจกันแก้วขนาดเล็กปักดอกไม้หลากสีเช่นกันทรงฉายกับสุนัขทรง เลี้ยง 2 สุนัข หรือคุณทองแดงที่ทรงเลี้ยงมาตั้งแต่ปี 2541 หมอบอยู่หน้าพระเก้าอี้ด้านขวาและคุณทองแท้ที่ทรงเลี้ยงมาตั้งแต่ปี 2542 หมอบอยู่หน้าพระเก้าอี้ด้านซ้าย
ด้านหลังพระเก้าอื้ที่ประทับเป็นม่านสีเทาอ่อนมีแจกันดอกไม้ขนาดใหญ่ปักดอก กุหลาบ และดอกไฮเดรนเยียหลากสีตั้งอยู่ 2 แจกัน แจกันด้านซ้ายมีตราพระมหาพิชัยมงกุฎประดับอยู่ ส่าวนแจกันด้านขวาผอบทองประดับอยู่ถัดไปด้านหลังทั้งสองด้านมีกระถางไม้ ประดับตั้งอยู่ มุมบนซ้ายมีตัวอักษรสีเหลืองข้อความว่า
ส.ค.ส. สวัสดีปีใหม่ ๒๕๕๔ มุมบนด้านขวามีข้อความภาษาอังกฤษ Happy New Year 2011
ด้านล่างของ ส.ค.ส. มีข้อความเป็นตัวหนังสือพิมพ์ด้วยสีน้ำเงินว่า ขอจงมีความสุขความเจริญ มุมล่างขวามีข้อความ ก.ส. 9 ปรุง 121923 ทค. 53 พิมพ์ที่โรงพิมพ์สุวรรณชาด ท.พรหมบุตร,ผู้พิมพ์ผู้โฆษณา Printed at the Suvarnnachad publishing, D Bramaputra, Publisher (กรอบของ ส.ค.ส. พระราชทานฉบับนี้เป็นภาพใบหน้าคนเล็ก ๆ เรียงด้านละ 3 แถวทุกหน้ามีแต่รอยยิ้ม)
แน่นอนว่าในโอกาสขึ้นปีใหม่ ในปีนี้ ชนชาวไทยทุกคนก็คงรอชื่นชม ส.ค.ส. พระราชทาน เหมือนดังเช่นทุกปี เพื่อเป็นแรงใจและกำลังใจ และศิริมงคลของชีวิตแก่ตนเอง
สำหรับในปี 2555 นั้น ชาวไทยทุกคนต่างเฝ้ารอ บัตรส.ค.ส.พระราชทาน เพื่อความเป็นสิริมงคล ในการนำพรจากพระองค์ท่านมาใส่เกล้าฯใส่กระหม่อม
และยังเป็นสิริมงคลเมื่อ สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร และพระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าศรีรัศมี์ พระวรชายาในสมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร พระราชทานบัตรอวยพร เนื่องในโอกาสวันขึ้นปีใหม่ พุทธศักราช 2555 แก่ปวงชนชาวไทย
บัตรอวยพรดังกล่าว มีทั้งหมด 4 หน้า
หน้าแรกมีพระราชลัญจกร ม.ว.ก. และข้อความภาษาอังกฤษว่า ‘Season’s Greetings and Best Wishes for a Very Happy New Year’ลายพระนามาภิไธย สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร และข้อความภาษาอังกฤษว่า From Their Royal Hignesses the Crown Prince and Princess of Thailand
หน้าที่สองเป็นพระฉายาลักษณ์สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร ทรงฉายร่วมกับพระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าศรีรัศมี์ พระวรชายาในสมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร พร้อมด้วยพระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าฑีปังกรรัศมีโชติ
หน้าที่สามเป็นพระฉายาลักษณ์พระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าฑีปังกรรัศมีโชติ ทรงฉายร่วมกับพระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าพัชรกิติยาภา
หน้าที่สี่เป็นพระฉายาลักษณ์ พระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าฑีปังกรรัศมีโชติ ทรงฉายร่วมกับพระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าสิริวัณณวรีนารีรัตน์
และในการนี้ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารีพระราชทาน ส.ค.ส. สวัสดีปีมะโรง 2554 การนี้ พระองค์ทรงประพันธ์ คำอวยพร ประกอบบัตรอวยพร ดังนี้
ปีมะโรงคือพระยานาคราช
ทรงอำนาจกว่าใครในแหล่งหล้า
จะอ่อนน้อมไม่แสดงซึ่งฤทธา
เลื้อยช้าช้าสง่างามตามครรลอง
โบราณว่าพญานาคท่านให้น้ำ
เพื่อช่วยบำรุงพืชสัตว์ทั้งผอง
น้ำอย่ามากอย่าน้อยไปพอเนืองนอง
ให้ตกต้องฤดูกาลสำราญเอย.
และเพื่อความเป็นสิริมงคลแก่ทุกท่าน จึงขอนำโอวาทจากสมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก ทรงประทานพระโอวาทวันขึ้นปีใหม่ พ.ศ.2555 เมื่อวันที่ 21 ธันวาคม 2554 มานำเสนออีกครั้ง ในใจความว่า ตามคตินิยมของคนไทยทั่วไป เมื่อปีเก่าผ่านไปปีใหม่กำลังจะมาถึง ต่างก็ปีติยินดี เพราะเป็นช่วงเวลาที่มีความหมายว่ารอบปีหนึ่งของชีวิตได้ผ่านพ้นไปโดยสวัสดี มีสุข เป็นเหตุให้ชีวิตผ่านพ้นมาถึงปีใหม่อันจะเป็นรอบใหม่ของชีวิต ที่ทุกคนมุ่งหวังและปรารถนาที่จะให้ดำเนินไปด้วยความสวัสดีมีสุข
สำหรับประชาชนชาวไทยในรอบปีที่ผ่านมาคือ พ.ศ.2554 นับเป็นมหามงคลสำหรับชาวไทยทั้งมวล เพราะเป็นมหามงคลวโรกาสพระราชพิธีเฉลิมพระชนมพรรษาครบ 7 รอบ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และในรอบปีใหม่ที่กำลังจะมาถึงคือ พ.ศ. 2555 ก็นับได้ว่าเป็นปีมหามงคลสำหรับชาวไทยอีกวาระหนึ่ง เพราะเป็นปีที่พระพุทธศาสนาประดิษฐานอำนวยสุขแก่ชาวโลกเป็นเวลายาวนานต่อ เนื่องมาครบ 26 ศตวรรษ หรือ 2,600 ปี พุทธศาสนิกชนทั่วโลกจึงจัดให้มีการเฉลิมฉลอง อันเป็นการรำลึกถึงพระสัมมาสัมพุทธเจ้า พร้อมทั้งพระธรรม และพระสงฆ์ เพื่อให้สถิตดำรงอยู่คู่โลกตลอดกาลนาน และการที่ชีวิตและวันเดือนปีจะดำเนินไปโดยสวัสดีนั้น ควรที่ทุกคนจะได้เรียนรู้และน้อมนำเอาพระธรรมคำสอนที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้า ได้ตรัสสั่งสอนไว้มาประพฤติปฏิบัติเป็นประจำวัน เพราะพระธรรมที่พระพุทธองค์ทรงสั่งสอนไว้นั้น คือความจริงของชีวิต ที่ทุกคนควรรู้ควรปฏิบัติ ซึ่งเมื่อน้อมนำมาปฏิบัติจริง ก็ย่อมจะให้ผลดีจริงแก่ชีวิตตามควรแก่การปฏิบัติ
เนื่องในวาระดิถีขึ้นปีใหม่ พ.ศ.2555 ขอพระราชทานถวายพระพรชัยมงคล ขออำนาจคุณพระศรีรัตนตรัยและพระราชกุศลบารมี อำนวยให้สมเด็จบรมบพิตรพระราชสมภารเจ้าทั้งสองพระองค์ พร้อมด้วยพระบรมวงศานุวงศ์เจริญพระราชสิริสวัสดิพิพัฒนสุขทุกประการ และขออำนาจคุณพระศรีรัตนตรัยและบุญกุศล อำนวยอวยพรชัยให้ประชาชนชาวไทยทุกหมู่เหล่าเจริญอายุ วรรณ สุข พล และประสบสันติสุขทั่วกัน