บล็อคข่าวส่งเสริมคนดี (รักดีหามจั่ว รักชั่วหามเสา หามจั่วก็หนักนะ)

ข่าวจากสื่อ

บทความจากสื่อ

วันศุกร์ที่ 18 พฤศจิกายน พ.ศ. 2554

"ชูวิทย์" หนุนพ.ร.ฎ.อภัยโทษ ซัดแหลกประชาธิปัตย์ช่างติ-แค่ลิเกลาโรง

ที่มา ข่าวสด


วันที่ 18 พ.ย. ผู้สื่อข่าว "ข่าวสด" รายงานว่า นายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ หัวหน้าพรรครักประเทศไทย กล่าวถึงการออก พ.ร.ฎ.พระราชทานอภัยโทษ ซึ่งอาจเอื้อประโยชน์ต่อพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ ที่กำลังเป็นที่ถกเถียงของสังคมขณะนี้ว่า ประเด็นนี้หลายคนเห็นว่าเป็นการช่วยเหลือ พ.ต.ท.ทักษิณ และมีนักการเมืองหลายคนออกมาให้สัมภาษณ์คัดค้าน ทั้งที่หลายคนต่างก็เคยได้ดีเติบโตมาเป็นรัฐมนตรีกระทรวงสำคัญๆ ในอดีตเพราะ พ.ต.ท.ทักษิณ แต่พอเวลาไม่มี พ.ต.ท.ทักษิณ เห็นชัดจากการเลือกตั้งครั้งที่ผ่านมา มีบางพรรคที่พูดว่าน้ำดี ก็พิสูจน์มาแล้วว่า สุดท้ายได้ ส.ส.มากี่คน ที่พูดได้เพราะกระแส อย่างไรก็ตาม ในความเห็นส่วนตัวเรื่องพ.ร.ฎ.พระราชทานอภัยโทษนั้นเชื่อว่ามุ่งไปที่การช่วยเหลือคนเพียงคนเดียวตามที่มีการวิจารณ์กันแต่ก็ขอถามว่า แล้วมันมีคนอื่นได้รับอานิสงค์ด้วยหรือไม่ เพราะเขาปล่อยคนเป็นหมื่น

“ผมไม่อยากพูดมากไป เพราะวันหนึ่งหากผมติดคุก คนในคุกมันฝนแปรงสีฟันให้แหลมและรอเสียบพุงผมอยู่ มันมีอยู่หลายหมื่นคนที่พลอยจะได้ประโยชน์จากเรื่องนี้ไปด้วย ผมคิดว่าเป็นเรื่องการเมืองแน่นอน และผมเชื่อว่าคนที่คิดเรื่องนี้มาก็ฉลาดล้ำลึก เพราะอ้างได้ถึงคนอีกสองสามหมื่นคนที่จะได้ประโยชน์พร้อมตัวเอง เราก็รู้กันอยู่ว่า เขาชอบยิงปืนนัดเดียวได้นกหลายตัว" นายชูวิทย์ กล่าว

เมื่อถามถึงกรณี ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกฯ ออกมาระบุพาดพิงถึงรัฐมนตรีในครม.ชุดนี้บางคนที่มาเผยแพร่ข่าว การออกมติครม.กรณี พ.ร.ฎ. อภัยโทษว่าเป็นหนอนบ่อนไส้นั้นมีใครบ้าง นายชูวิทย์ กล่าวว่า ตนไม่ทราบว่ามีใคร แต่ฟังผู้ใหญ่ในรัฐบาล บางคนเขาเอ่ยให้ฟังว่า มี 4 รัฐมนตรี คนที่ 1 เป็นรัฐมนตรีที่กำลังจะแต่งงาน คนที่ 2 เป็นรัฐมนตรีที่ชื่อสั้นๆ ไม่กี่พยางค์ แต่ความหมายยาว ตัวป้อมๆ คนที่ 3 เป็นรัฐมนตรีพรรคร่วมคุมกระทรวง อ. และคนที่ 4 เป็นรัฐมนตรีของพรรคเพื่อไทยเอง คุมกระทรวงใหญ่ แต่เพราะอยากเอาใจสื่อ บริหารงานก็งั้นๆ ไปได้เพราะมีผู้ใหญ่หนุน ประเภทน้ำเลี้ยงดี จึงเอาเรื่องนี้มาปูดจนกลายเป็นเรื่อง ส่วนจะเป็นใครนั้นตนก็ฟังเขามาอีกที จึงไม่รู้ว่าชื่อจริงชื่ออะไร

นายชูวิทย์ ยังกล่าวถึงกรณีที่พรรคประชาธิปัตย์ยื่นเรื่องอภิปรายไม่ไว้วางใจ พล.ต.อ.ประชา พรหมนอก รมว.ยุติธรรม ในฐานะ ผอ.ศปภ. เนื่องจากมีหลักฐานปรากฏชัดว่าจงใจใช้อำนาจหน้าที่ขัดรัฐธรรมนูญ 265 และ 266 และบริหารราชการล้มเหลวจงใจให้เกิดการทุจริต ว่า เรื่องนี้พรรคประเชาธิปัตย์คุยว่าเป็นหมัดเด็ด เพราะเรื่องสำคัญไม่ใช่จะใช้กระแสส่งท้ายก่อนปิดสมัยการประชุมสภา เพราะสมัยการประชุมครั้งหน้า จะเป็นสมัยสภานิติบัญญัติ ทำให้พรรคประชาธิปัตย์ไม่สามารถยื่นอภิปรายไม่ไว้วางใจได้ แต่หลายคนรู้ทันก็บอกว่า การเคลื่อนไหวครั้งนี้เหมือนลิเกมาโหมเอาช่วงจะลาโรงใกล้ปิดฉาก มันมีอะไรหรือไม่ และที่ผ่านมาในการประชุมพรรคร่วมฝ่ายค้านก็ไม่เคยเรียกตนเข้าร่วมประชุม แต่พอจะขอมติพรรคร่วมฝ่ายค้านกลับส่งคนมาขอลายเซ็นต์ให้ร่วมด้วย แม้กระทั่งในการอภิปรายเรื่องน้ำท่วมยังจัดให้ตนพูดเป็นคนท้ายๆ เขาไม่เคยให้เกียรติ เพราะเห็นพรรครักประเทศไทยมีแค่ 4 เสียง ก็ไม่เป็นไร ครั้งนี้ตนจึงไม่ได้เซ็นร่วมที่จะอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐมนตรีร่วมกับพรรคประชาธิปัตย์ ตามที่เขาต้องการ ถ้าให้เกียรติกัน แค่ให้ผู้ใหญ่ในพรรคประชาธิปัตย์ โทรมาบอกกล่าว ก็โอเค แต่มันไม่มี

"ช่างกลึงยังต้องพึ่งช่างชัก ช่างสลักยังต้องพึ่งช่างเขียน ช่างรู้ยังต้องพึ่งช่างเรียน ช่างติเตียนไม่ต้องพึ่งใคร แล้วชูวิทย์ มีประโยชน์อะไรมีแค่ 4 เสียงเอง ผมมันประเภทใบตองถึงเวลาห่อขนมถึงจะใช้ผม พอไม่มีประโยชน์ก็ไม่คิดถึงมันน่าช้ำใจในวาสนาชะตาชีวิต ผมไม่เคยได้ร่วมประชุมฝ่ายค้านเลยสักครั้งเดียว" นายชูวิทย์ กล่าว

ข่าวส่งเสริมคนดี

จำนวนผู้เข้าเยี่มมชม

link to affordable web hosting
Powered by web hosting provider .

สถิติการเข้าชม DMNEWS

eXTReMe Tracker