โดย น่ารัก ก็ไม่บอก
วันที่ 30 พ.ย. เวลา 13.00 น. น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เดินทางออกจากโรงพยาบาลพระราม 9 หลังเข้าพักรักษาตัวจากอาการอาหารเป็นพิษ และขึ้นเครื่องบินเดินทางไปเยือนสาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนาม
Re:
สำนัก ข่าวเอเอฟพีรายงานว่า น.ส.ยิ่งลักษณ์ พร้อมคณะเดินทางถึงท่าอากาศยานโหน่ยบ่าย กรุงฮานอย ในกำหนดการเยือนเวียดนามอย่างเป็นทางการ โดยน.ส.ยิ่งลักษณ์เดินทางต่อไปยังทำเนียบประธานาธิบดีเวียดนาม เพื่อเข้าร่วมพิธีต้อนรับอย่างเป็นทางการที่รัฐบาลเวียดนามจัดขึ้น โดยมีนายเหวียน เตินสุง นายกรัฐมนตรีเวียดนาม ต้อนรับ จากนั้นนายกฯทั้ง 2 ประเทศตรวจแถวทหารกองเกียรติยศ และหารือข้อราชการร่วมกัน ที่สำนักนายกรัฐมนตรี
โดยน.ส.ยิ่งลักษณ์กล่าวว่า ยินดีที่ได้เดินทางเยือนประเทศเวียดนามเป็นครั้งแรกหลังเข้ารับตำแหน่ง และได้รับการต้อนรับอย่างอบอุ่น ต้องขออภัยที่ไม่สามารถร่วมงานเลี้ยงอาหารค่ำได้ เนื่องจากป่วยอาหารเป็นพิษ และขอขอบคุณรัฐบาลเวียดนาม และสภากาชาดเวียดนาม ที่ให้การช่วยเหลือไทยที่ประเทศประสบปัญหาอุทกภัย
โดยน.ส.ยิ่งลักษณ์กล่าวว่า ยินดีที่ได้เดินทางเยือนประเทศเวียดนามเป็นครั้งแรกหลังเข้ารับตำแหน่ง และได้รับการต้อนรับอย่างอบอุ่น ต้องขออภัยที่ไม่สามารถร่วมงานเลี้ยงอาหารค่ำได้ เนื่องจากป่วยอาหารเป็นพิษ และขอขอบคุณรัฐบาลเวียดนาม และสภากาชาดเวียดนาม ที่ให้การช่วยเหลือไทยที่ประเทศประสบปัญหาอุทกภัย
Re:
Re:
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายกฯไทย หารือทวิภาคีกับนายกฯเวียดนาม ทั้ง 2 ฝ่ายเห็นพ้องต้องกันที่จะจัดตั้งคณะทำงานร่วมกันของแต่ละกระทรวง เช่น กระทรวงพาณิชย์ และกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ จะทำงานร่วมกันในเรื่องข้าว และยังหารือถึงการเชื่อมโยงการคมนาคมในภูมิภาค ซึ่งไทยให้ความสำคัญในการเชื่อมโยงเส้นทางคมนาคมกับประเทศเพื่อนบ้านในอนุ ภูมิภาค และการใช้ประโยชน์จากเส้นทางเศรษฐกิจตะวันออก-ตะวันตก ขณะที่เวียดนามพร้อมส่งเสริมการใช้ประโยชน์จากการเชื่อมโยงเส้นทางคมนาคม เช่นกัน
Re:
นายก รัฐมนตรี ได้ออกเดินทางเยือนสาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนามอย่างเป็นทางการเมื่อเวลา 13:00 น. เพื่อส่งเสริมและกระชับความสัมพันธ์ทวิภาคีกับเวียดนามให้มีความแน่นแฟ้น ยิ่งขึ้น โดยเฉพาะความร่วมมือบนผลประโยชน์ร่วมกันในเชิง “หุ้นส่วนทางยุทธศาสตร์” โดยเฉพาะอย่างยิ่งในปีนี้ เป็นปีที่ความสัมพันธ์ทางการทูตไทย-เวียดนามครบรอบ 35 ปี
นอกจากนี้ นายกรัฐมนตรีจะหารือข้อราชการกับนายกรัฐมนตรีเวียดนาม ในเรื่องการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำ ความร่วมมือกับประเทศเพื่อนบ้านในเรื่องแม่น้ำโขง และจะใช้โอกาสนี้ ขยายการค้าการลงทุนด้านการก่อสร้าง พลังงาน ความร่วมมือเรื่องข้าว และการท่องเที่ยว ซึ่งนายกรัฐมนตรีจะเชิญชวนให้เวียดนามเข้าร่วมโครงการนำร่อง ACMECS Single Visa เพื่อร่วมส่งเสริมการท่องเที่ยวระหว่าง2ประเทศ
Re:
โดย แม่ปังคุง
จากเฟซบุ๊คนายกนะคะ