บล็อคข่าวส่งเสริมคนดี (รักดีหามจั่ว รักชั่วหามเสา หามจั่วก็หนักนะ)

ข่าวจากสื่อ

บทความจากสื่อ

วันพุธที่ 28 มกราคม พ.ศ. 2552

คาถาลงทุนปี 52 เงินเย็นเล่นอะไรดี

ที่มา ไทยรัฐ

การที่รัฐบาล มาร์ค1 ยึดปรัชญา ยามเศรษฐกิจย่ำแย่ เปรียบเหมือนไฟกำลังไหม้บ้าน ไม่ควรคิดเสียดายน้ำ ใช้วิชาประชานิยม โปรยเงินสะบั้นหั่นแหลก แจกเพื่อหวังกระตุ้นเศรษฐกิจให้มีชีวิตชีวา ไม่ต่างจากวิธีการของรัฐบาลชุดก่อนๆ

ลำพังคนเดินดิน กินข้าวแกงอย่างเราท่าน คงต้องตั้งคำถามไปพร้อมๆกัน บรรยากาศวังเวงทางเศรษฐกิจแบบนี้ มีเงินเย็นอยู่กับตัวสักก้อน คิดจนหัวแทบทะลุ ยังคิดไม่ค่อยออกจะลงทุนทำอะไรดี จึงจะรอดพ้นปากเหยี่ยวปากกา

แต่ถ้าป้อนคำถามทำนองนี้ให้กับเซียนลงทุนอย่าง ดร.สุวรรณ วลัยเสถียร ประธานชมรมคนออมเงิน ต้นตำรับพ่อรวยสอนลูก เมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมา อาจารย์ สุวรรณเพิ่งไปให้คำชี้แนะออกอากาศทางทีวีระบบเค.ยู.แบนด์ ในรายการของคุณสุรนันทน์ เวชชาชีวะ ไว้น่าสนใจ

สภาพเศรษฐกิจปัจจุบัน บีบรัดให้คนส่วนใหญ่บริโภคน้อยลง คนระดับรากหญ้าก็ไม่ค่อยมีเงินใช้ เพราะถูกเลิกจ้างบ้าง ลดเงินเดือนบ้าง พนักงานถูกตัดโบนัสบ้าง

สินค้าพืชผลทางการเกษตรก็ราคาตกต่ำ แม้แต่คนมีเงินก็ไม่มีกำลังใจที่จะใช้เงิน เพราะไม่รู้ว่าเมื่อไหร่เศรษฐกิจจะฟื้นตัว

อาจารย์สุวรรณบอกว่า สำหรับผู้ที่ไม่ประสงค์จะเสี่ยง เวลานี้การฝากเงินสดไว้กับธนาคารพาณิชย์ ถึงแม้ดอกเบี้ยจะน้อย แต่ก็เป็นวิธีเบสิกเก่าแก่ ที่มีความเสี่ยงต่ำและปลอดภัยกว่าอีกหลายช่องทางการลงทุน

อย่างไรก็ตาม สำหรับนักลงทุนที่มีเงินเย็น และมีความกล้าได้ กล้าเสียขึ้นมาอีกหน่อย อ.สุวรรณบอกว่า อาจแบ่งสรรเงินส่วนหนึ่งนำไป ซื้อกองทุน

แต่มีข้อแม้ว่า ช่วงนี้ควรเป็น กองทุนตราสารหนี้ภาครัฐ เท่านั้น อย่างอื่น เช่น ตราสารหนี้ภาคเอกชน อาจารย์ยังไม่แนะนำ เพราะปัจจุบันตราสารหนี้ภาคเอกชนมีโอกาสที่จะผิดนัดชำระหนี้สูง

ส่วนนักลงทุนที่ใจกล้าบ้าบิ่นขึ้นมาอีกหน่อย หากคิดจะกระโจนเข้าไปเล่นหุ้นในช่วงนี้ อ.สุวรรณบอกว่า มีข้อควรคำนึงบางประการอยากฝากไว้

ประการแรก ให้เลือกดูแต่หุ้นที่มีเงินปันผลค่อนข้างดี เพราะบางแห่งให้เงินปันผลสูงถึง 7% ซึ่งเทียบแล้วเหนือกว่าดอกเบี้ยเงินฝากธนาคารพาณิชย์ทั่วไป

อย่างไรก็ตาม แม้จะเป็นหุ้นตัวที่มีประวัติ จ่ายเงินปันผลดี แต่ก็ยังมีข้อคิดสะกิดใจว่า ผลประกอบการก่อนหน้าที่ผ่านมา มิได้เป็นการประกันหรือการันตีเสมอไปว่า ปีปัจจุบันจะจ่ายปันผลดีเช่นนั้นอีก เพราะช่วงนี้เศรษฐกิจตกต่ำ

ข้อควรคำนึงถัดมา หากคิดจะเล่นหุ้นในช่วงเศรษฐกิจแบบนี้ ผู้เล่นควรต้องเปลี่ยนพฤติกรรมจากนักลงทุนระยะยาวมาเป็น นักค้าที่คอยเฝ้าติดตามความเคลื่อนไหวของหุ้นให้ดี หรือ มีโบรกเกอร์คอยเฝ้าให้

อาจารย์สุวรรณยกตัวอย่าง การเล่นหุ้นแบบนักค้าผู้หูไวตาไว สมมติซื้อหุ้นมาตัวหนึ่งในราคา 100 บาท หากหุ้นขึ้น 3 บาท เป็น 103 บาท ให้รีบเทขายทันที เอากำไรแค่ 3 บาทพอ

บางคนอาจบอกว่า ได้กำไรแค่ 3% น้อยมาก รีบเทขายไม่ใจเสาะไปหน่อยหรือ แต่ อ.สุวรรณเปรียบเทียบให้เห็นว่า หากเอาเงินก้อนเดียวกันไปฝากแบงก์ทั้งปี ยังไม่ได้ดอกเบี้ยถึง 3% เพราะถูกหักภาษีอีก

ฉะนั้น เทียบกันแล้ว สมมติว่า เดือนหนึ่งได้กำไรจากหุ้นแค่ 3% เล่นทั้งปี 12 เดือน ฟันกำไรไปแล้ว 36% ดีกว่าเอาเงินฝากธนาคาร 10 เท่าตัว

มีผู้ตั้งข้อสังเกต นอกจากพอร์ตการลงทุนที่คนส่วนใหญ่นิยมลงทุนกัน ไม่น่าเชื่อว่า วันนี้ เพชร กลายเป็นอีกทางเลือกของการลงทุน ที่ไม่ควรมองข้าม

ตลอดช่วง 1 ปีที่ผ่านมา ผู้ที่คลุกคลีอยู่ในวงการเครื่องประดับเพชร จะรู้ดีว่า เริ่มมีนักลงทุนทั้งรุ่นใหม่และหน้าใหม่ หันหลังให้กับการเล่นหุ้นในตลาด หลักทรัพย์ หันมากว้านซื้อเพชรเม็ดงามๆที่สวยได้มาตรฐานสากล เก็บไว้เพื่อการลงทุนกันมากขึ้น

ผู้รู้ในวงการค้าเพชรผู้หนึ่ง ให้สังเกตดูที่ราคากลางของเพชรซึ่งได้มาตรฐาน เมื่อปีที่แล้ว มีราคากลางเฉลี่ยกะรัตละ 500,000 บาท

เมื่อเทียบกับราคากลางของเพชร ในเกรดและขนาดเดียวกันเมื่อปี 2550 มีราคากลางโดยเฉลี่ยกะรัตละ 250,000 บาท จึงถือว่า ราคาดังกล่าวเป็นราคากลางที่สูงขึ้นเท่าตัว

การที่ราคากลางของเพชรน้ำงามที่ได้มาตรฐานสากล ขยับขึ้นมาประมาณเท่าตัว ผู้รู้คนเดิมบอกว่า เป็นเพราะความต้องการเพชรน้ำงามที่ได้มาตรฐานสากลในตลาดโลกมีสูงขึ้น แต่เพชรเกรดที่ได้ทั้งน้ำหนักและคุณภาพดังกล่าว เริ่มหายากขึ้น

นอกจากนี้ ราคาเพชรน้ำงามที่ได้มาตรฐานสากล ยังมีทิศทางปรับตัวสูงขึ้นโดยเฉลี่ย ปีละไม่ต่ำกว่า 20%

นั่นหมายความว่า เมื่อเทียบกับผลตอบแทนจากการลงทุนในสินทรัพย์ อย่างอื่น หากผู้ลงทุนมีข้อมูล ความรอบรู้เกี่ยวกับเพชร และรู้จักตลาดเพชรดีพอ การเก็งกำไรจากเพชร ถือเป็นอีกช่องทางหาเงินในยุคเศรษฐกิจฝืดที่ไม่ควรมองข้าม

แต่ก็อย่างว่า ใครจะลงทุนกับเพชรพลอยทั้งที คงต้องมีทุนหนาหรือหน้าตักกว้างสักหน่อย ในรายที่เบี้ยน้อยหอยเล็กรองลงมา ชั่วโมงนี้ ทองคำ อาจเป็นอีกทางเลือกที่น่าจับจ้อง

แหล่งข่าวผู้หนึ่งจากบริษัทออสสิริส หนึ่งในแหล่งลงทุนและให้คำปรึกษาเกี่ยวกับการลงทุนในทองคำแท่ง ที่ได้มาตรฐานสากล เปรียบเทียบให้เห็นถึงความน่าสนใจของทองคำแท่ง กับสินทรัพย์เพื่อการลงทุนประเภทอื่นว่า

ระหว่างทองคำแท่งกับตราสารหนี้ และเงินฝากธนาคาร โดยทั่วไปตราสารหนี้และเงินฝากธนาคารจะให้ผลตอบแทนที่ต่ำกว่า เมื่อเทียบกับทองคำแท่งดูได้จากผลตอบแทนย้อนหลังในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา ตราสารหนี้ภาครัฐ

เช่น พันธบัตรรัฐบาล ให้ผลตอบแทนโดยเฉลี่ยเพียง 2.37% เงินฝากธนาคารให้ผลตอบแทนเฉลี่ยระหว่าง 1.5-3%

ขณะที่ช่วงปี 2547-2551 การลงทุนในทองคำแท่งให้ผลตอบแทนโดยเฉลี่ยไม่ต่ำกว่า 12-13%

นอกจากนี้ ตั้งแต่ปี 2547 จนถึงเดือน ก.ย.2551 ราคาทองคำแท่งเปรียบเทียบเมื่อช่วงต้นปีกับปลายปี ในแต่ละปี พบว่า เมื่อถึงปลายปีราคาทอง จะสูงกว่าช่วงต้นปีอย่างต่อเนื่อง

ชี้ให้เห็นว่า การลงทุนในทองคำแท่ง ให้ผลตอบแทนที่น่าพอใจในระดับหนึ่ง

นอกจากนี้ เทียบระหว่าง ทองคำแท่งกับทองคำรูปพรรณ การลงทุนในทองคำแท่งดีกว่าลงทุนในทองรูปพรรณ ตรงที่ไม่ต้องเสียค่ากำเหน็จในการซื้อ

ระหว่างทองคำแท่งกับที่ดิน เป็นที่ยอมรับว่า ทองคำแท่งมีสภาพคล่องเหนือกว่าที่ดิน หรือสามารถแปรสภาพเป็นเงินสดได้ง่ายและรวดเร็วกว่าที่ดิน

ระหว่างทองคำแท่งกับหุ้น แหล่งข่าวบอกว่า แม้จะเปรียบเทียบกันค่อนข้างยาก เพราะความเสี่ยงและปัจจัยที่มากระทบต่างกันมาก

อย่างไรก็ตาม ราคาทองคำมักมีทิศทางเป็นบวก เมื่อเผชิญกับสถานการณ์ เลวร้ายทางเศรษฐกิจ หรือการเมือง เช่น เศรษฐกิจตกต่ำ การอ่อนค่าของอัตราแลกเปลี่ยนสกุลเงินสำคัญ หรือราคาน้ำมันปรับตัวสูงขึ้น เป็นต้น แต่ราคาหุ้นจะมีทิศทางเป็นลบ

คำถามก็คือ สรุปแล้วหากคิดจะลงทุนทองคำแท่งในช่วงนี้ อนาคตจะสดใสหรือดับวูบ แหล่งข่าวคนเดิมให้คำตอบอย่างมีจรรยาบรรณว่า

สำหรับนักลงทุนมือใหม่ ลงทุนทองคำแท่งช่วงนี้ เหมือนเล่นเก็งกำไร มีโอกาสเสี่ยงทั้งกำไรและขาดทุนสูง ข้อสำคัญก็คือ อย่ากำเงินร้อนหรือเงินมีดอกเบี้ยเข้ามาเล่น อย่าเล่นแบบไล่ราคา เวลาราคาทองขึ้นแรงๆอย่าตาม รอให้ราคาต่ำก่อนค่อยเข้าไปซื้อ หรือพูดง่ายๆ รอให้ราคาฐานอยู่ที่ต่ำกว่าบาทละ 13,200 บาทก่อน ค่อยเข้าไปยุ่งกับมัน

แหล่งข่าวรายนี้บอกว่า เขาไม่อยากเห็นแมลงเม่าฝูงใหม่ถูกเผาเกรียม จึงให้ข้อคิดเป็นประโยชน์ทิ้งท้าย

ช่วงนี้การลงทุนหลายอย่าง อยู่ที่เจ้ามือจะเล่นหรือปั˜น ไม่ใช่ เรื่องปกติวิสัยตามเทคนิค ฉะนั้น คาถาที่ว่า การลงทุนทุกอย่างมีความเสี่ยง ก่อนลงทุนผู้ลงทุนควรศึกษาข้อมูลให้ถ่องแท้ ยังขลังอยู่เสมอ”.

ข่าวส่งเสริมคนดี

จำนวนผู้เข้าเยี่มมชม

link to affordable web hosting
Powered by web hosting provider .

สถิติการเข้าชม DMNEWS

eXTReMe Tracker