บล็อคข่าวส่งเสริมคนดี (รักดีหามจั่ว รักชั่วหามเสา หามจั่วก็หนักนะ)

ข่าวจากสื่อ

บทความจากสื่อ

วันอังคารที่ 27 มกราคม พ.ศ. 2552

ปัจจัย ความเชื่อมั่น ต่อ อภิสิทธิ์ ประชาธิปัตย์ ปัจจัย การหา "เงิน"

ที่มา มติชน

คอลัมน์ วิภาคแห่งวิพากษ์


ขณะที่ดัชนีความเชื่อมั่นภาคอุตสาหกรรมจากการสำรวจล่าสุดของสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย ระบุตัวเลขที่ลดต่ำลงสุด-สุดในรอบ 5 ปี

ถามว่าความเชื่อมั่นต่อรัฐบาล นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ มีมากน้อยเพียงใด

ถามว่าความเชื่อมั่นต่อแนวทางในการแก้ไขปัญหาทางเศรษฐกิจของทีมเศรษฐกิจภายใต้ธงนำของ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ มีมากน้อยเพียงใด

ในเบื้องต้น นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ยืนยันจะเรียกความเชื่อมั่นให้ได้ภายใน 3 เดือน

ระยะต่อมา นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ แสดงความมั่นใจว่าทุกอย่างโดยเฉพาะปัญหาในทางเศรษฐกิจจะคลี่คลายได้ภายใน 1 ปี

กระนั้น หากรับฟังความห่วงใยจาก นายพิเชษฐ พันธุ์วิชาติกุล ก็ไม่ค่อยแน่ใจเท่าใดนัก

เช่นเดียวกับ หากรับฟังความห่วงใยในเรื่องการใช้ฐานข้อมูลของรัฐบาลจาก นายจุติ ไกรฤกษ์ ก็ไม่ค่อยแน่ใจเท่าใดนัก

เพราะว่า 2 คนนี้เป็นคนของพรรคประชาธิปัตย์ เพราะว่า 2 คนนี้ได้ชื่อว่าเหนียวแน่นมั่นคงอย่างยิ่งกับพรรคประชาธิปัตย์

น่าเศร้าก็ตรงที่ความไม่แน่ใจของ 2 คนนี้ตรงกับความไม่แน่ใจของอีกหลายๆ คน

ความไม่แน่ใจอันสำแดงออกมาของนักวิชาการจำนวนมาก ไม่ว่าจะมาจากจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ไม่ว่าจะมาจากมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ไม่ว่าจะมาจากสภาที่ปรึกษาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ

1 คือ ความไม่แน่ใจว่าการกระตุ้นเศรษฐกิจโดยกระบวนการหว่านโปรย แจกเงิน ไม่น่าจะตรงกับตัวปัญหา

เพราะไม่ได้แจกตรงไปยังคนว่างงาน หากแต่แจกไปยังคนมีรายได้

ยิ่ง นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ขยายกรอบการแจกจากผู้ประกันตนและข้าราชการที่มีรายได้ไม่ถึง 15,000 บาทต่อเดือน ไปยังพนักงานรัฐวิสาหกิจ

ยิ่งยิ้มเห็นแก้ม แย้มเห็นรายฟัน ของเป้าประสงค์อันแท้จริงของรัฐบาล

1 คือ ความไม่แน่ใจในฝีมือและความสามารถของรัฐบาลว่าจะหาเงินมาจากไหนนอกไปจากการกู้เงิน

ไม่ว่าจะเป็นการกู้จากธนาคารของรัฐ ไม่ว่าจะเป็นการกู้จากธนาคารโลก ธนาคารพัฒนาแห่งเอเชีย ก็คือ การกู้

นี่ย่อมละเอียดอ่อนต่อสัดส่วนที่เพิ่มขึ้นของหนี้สาธารณะ ละเอียดอ่อนต่อวินัยการคลัง

หากมองจากปัจจัย 2 ปัจจัยทั้งระดับโลก ทั้งระดับในประเทศ มาประสานเข้าด้วยกันยิ่งก่อให้เกิดภาวะใจหายในทางความรู้สึก

ปัจจัย 1 คือ ปัจจัยเศรษฐกิจโลกที่ถดถอยและชะลอตัวลง

ขณะเดียวกัน ปัจจัย 1 ซึ่งแสดงออกผ่านกระบวนการส่งออกไตรมาส 4 ปี 2551 โดยเฉพาะอย่างยิ่งเดือนพฤศจิกายนและเดือนธันวาคม คือ ปัจจัยที่ถดถอย ชะลอตัวลงเข้ามาอยู่ในแดนติดลบ

นั่นหมายถึงโอกาสที่เงินจะเข้าประเทศน้อยลง นั่นหมายถึงโอกาสที่จะนำไปสู่การลดกำลังการผลิตของแต่ละภาคอุตสาหกรรม

เงินเข้าน้อย และคนที่เคยทำงานก็จะต้องถูกปรับลดกลายเป็นคนตกงาน

การออกมาโยนหินถามทางในเรื่องการเพิ่มเพดานเงินกู้จาก 50% เป็น 55% ของจีดีพี แท้จริงแล้วก็เท่ากับเป็นการปูพรมเพื่อนำไปสู่การกู้เงินจากธนาคารโลกและธนาคารพัฒนาแห่งเอเชียเป็นสำคัญ

นั่นคือแนวโน้มที่ประเทศไทยจะก้าวไปบนวิถีเหมือนกับที่เคยเกิดขึ้นในวิกฤตการเงิน เมื่อปี 2540 อีกครั้งหนึ่ง เพียงแต่ครั้งนั้นเราต้องกู้เงินจากกองทุนการเงินระหว่างประเทศ ขณะที่หนนี้สายตามองไปยังธนาคารโลกและธนาคารพัฒนาแห่งเอเชีย

ตรงนี้เองภาพของรัฐบาล นายชวน หลีกภัย ได้หวนกลับมาตอกย้ำตราตึงอีกวาระหนึ่ง

มีอะไรแตกต่างกันระหว่าง นายชวน หลีกภัย กับ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นอกจากอายุขัย

แตกต่างตรงที่ นายชวน หลีกภัย จบจากธรรมศาสตร์และสำนักเนติบัณฑิตไทย แตกต่างตรงที่ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ จบจากอีตันและอ็อกซพอร์ด

ความเหมือนอยู่ตรงที่ไม่ว่านักเรียนนอก นักเรียนใน ล้วนอยู่ในกระบวนการของการกู้เงิน

ข่าวส่งเสริมคนดี

จำนวนผู้เข้าเยี่มมชม

link to affordable web hosting
Powered by web hosting provider .

สถิติการเข้าชม DMNEWS

eXTReMe Tracker