คอลัมน์ เหล็กใน
มีการระดมมือกฎหมายระดับหัวกะทิมาร่วมวางแผนแน่นปึ้ก เช่น นายบัณฑิต ศิริพันธุ์ นายสุทัศน์ เงินหมื่น นายบัญญัติ บรรทัดฐาน ฯลฯ
ยังไม่รวมมือดีระดับปฏิบัติการ อย่างนายทศพล เพ็งส้ม ส.ส.นนทบุรี และนายวิรัช ร่มเย็น ส.ส.ระนอง
ทุก ครั้งที่มีการประชุม นายชวนก็จะมานั่งหัวโต๊ะดูประเด็นด้วยตัวเอง และมักจะพูดอยู่บ่อยครั้งว่าที่กกต.มีมติยุบพรรคประชาธิปัตย์ เป็นเพราะถูกม็อบเสื้อแดงกดดัน
ขณะเดียวกันก็ตีกันคนอื่นว่าถ้าไม่มีข้อมูล ก็อย่ามาวิพากษ์วิจารณ์ เพราะจะเป็นการกดดันศาล
กรณี นี้ นายจาตุรนต์ ฉายแสง อดีตรักษาการหัวหน้าพรรคไทยรักไทย ก็เคยออกมาตั้งข้อสังเกตว่าขณะที่ห้ามคนอื่นพูด แต่พรรคประชาธิปัตย์ก็ออกมาแถลงรายวัน ในการสร้างความชอบธรรมและ แก้ต่างให้ตัวเอง
โดยเฉพาะการพูดเชื่อมโยงเพื่อทำลายน้ำหนักพยาน
ระหว่างต่อสู้คดีนั้น พรรคประชาธิปัตย์เกิดเรื่องอื้อฉาวมาแล้วครั้งหนึ่ง กรณีนายทศพรแอบไปเจอเจ้าหน้าที่ศาลรับมอบเอกสารบางอย่าง
เมื่อเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์มากๆ เข้า นายทศพล ก็ถูกเขี่ยออกไป
ล่าสุด มีคลิปอื้อฉาวกรณีนายวิรัช นัดพบพูดคุยกับเลขานุการประธานศาลรัฐธรรมนูญ
เนื้อหาที่หารือพูดคุยกันใครก็มองออกว่าเพื่ออะไร
เมื่อบานปลายเข้าเนื้อตัวเองมากๆ เข้า
บรรดาสารพัดโฆษกก็เรียงหน้าออกมาตอบโต้พัลวัน
อ้างว่านายวิรัชหลงกล ถูกจัดฉาก คลิปมีการตัดต่อ เพื่อทำลายสถาบันองคมนตรี และศาล
พร้อมอ้างว่ามีผู้อยู่เบื้องหลัง ใช้เงินลงทุนมหาศาล
อีหรอบเดียวกับวิธีการฝ่ายกฎหมายซักค้านพยานในศาลรัฐธรรมนูญ ที่มุ่งหักล้างทำลายน้ำหนักพยานเป็นสำคัญ
แทนที่จะต่อสู้ด้วยข้อเท็จจริง
กรณีนายบัณฑิตซักค้านพ.ต.อ.สุชาติ วงศ์อนันต์ชัย เป็นตัวอย่างที่ชัดเจนมาก
ขณะ เดียวกัน นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ก็ตั้งกรรมการสอบนายวิรัช ซึ่งโฆษกส่วนตัวก็ออกมาแถลงทำขึงขังขนาดว่าถ้าผิดถึงขั้นขับจากสมาชิกพรรคก็ ต้องทำ
กรรมการที่ร่วมสอบนายวิรัชนั้น บางคนก็เคยสอบกรณีทุจริตในโครงการชุมชนพอเพียงมาแล้ว
ผลสรุปออกมาก็ผิดแค่ระดับปลาซิว ปลาสร้อย และเรื่องดังกล่าวก็เงียบหายไป
สำหรับคดียุบพรรคนั้น ถ้าดูตามตารางเวลาแล้วราวกลางเดือนพ.ย.น่าจะจบได้
พรรคประชาธิปัตย์สู้ด้วยฝีมือล้วนๆ ใช้ฝีตีนหรือไม่
ข้อเท็จจริงมีให้เห็นแล้ว