นพ.สุรพงษ์ สืบวงศ์ลี รองนายกฯ และ รมว.คลัง ในฐานะเลขาธิการพรรคพลังประชาชน กล่าวว่า มีการวิพากษ์วิจารณ์ว่าเมื่อ พ.ต.ท.ทักษิณกลับมา ประเทศไทยมีนายกฯ 2 คน นายสมัคร สุนทรเวช ไม่ใช่นายกฯตัวจริงนั้น อดีตนายกฯได้พูดเอาไว้ชัดเจนว่า ท่านกลับมาเพื่อต่อสู้คดีตามกระบวนการยุติธรรม อยากกลับมาทำงานในมูลนิธิเพื่อพัฒนาการศึกษาหรืองานกีฬา จะเดินทางไปมาเพื่อดูแลสโมสรแมนเชสเตอร์ ซิตี้ การมาสนใจหรือคลุกคลีดำเนินการทางการเมืองเหมือนเดิม คงไม่เกิดขึ้นแน่นอน นายสมัครก็ทำหน้าที่บริหารประเทศอย่างเต็มที่ ส่วนกรณีที่มีกลุ่ม ส.ส.พรรคพลังประชาชน ออกมาเคลื่อนไหวแสดงความจงรักภักดีต่อ พ.ต.ท.ทักษิณ คงเป็นเรื่องปกติธรรมดา เพราะอดีตนายกฯเคยมีผลงานในช่วงของการบริหารประเทศ 5-6 ปีที่ผ่านมา ก็จะมีผู้ที่ชื่นชมการบริหารงานของท่าน คงจะไม่ให้เขาแสดงความชื่นชมคงไม่ได้ แต่คิดว่าทาง พ.ต.ท.ทักษิณคงไม่ต้องการจะกลับมาทำงานในบทบาทการเป็นนายกฯอีกแล้ว แต่คงจะให้การสนับสนุน หรือให้คำปรึกษาเรื่องการแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจหรือการทำงานเพื่อบ้านเมือง แต่จะไม่มีการแต่งตั้งให้มาดำรงตำแหน่งที่ปรึกษาอย่างเป็นทางการ หากเราต้องการปรึกษาประเด็นการแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจ ก็จะสอบถามไป ในกรณีที่เราต้องการความเห็น ความเชี่ยวชาญระดับโลก
ปัด “ทักษิณ” บงการรัฐบาลหุ่นเชิด
เมื่อถามว่า แสดงว่า พ.ต.ท.ทักษิณจะยังคงมีบทบาท อยู่เบื้องหลังต่อไป เลขาธิการพรรคพลังประชาชน กล่าวว่า คงไม่มี คนที่ทำหน้าที่ทางการเมืองในบทบาทฝ่ายบริหารจะต้องรับผิดชอบในสิ่งที่ตนเองทำ ถ้าจะมองในแง่ว่าจะต้องมีใครมาคอยกำกับ เราคงไม่ได้รู้สึกว่าเราต้องการที่จะทำตามคำสั่งของใคร การกระทำใดๆต้องเป็นเรื่องที่เรารวบรวมความเห็นและตัดสินใจด้วยตัวของเราเอง ส่วนข้อครหาว่าเป็นรัฐบาลหุ่นเชิดนั้น ในช่วง 2 สัปดาห์ที่ผ่านมา ก็เห็นได้ชัดว่านายสมัครมีการตัดสินใจที่เป็นตัว ของตัวเองหลายเรื่อง และยังได้ให้นโยบายแก่รัฐมนตรีในกรณีที่บางเรื่องที่ท่านเห็นว่าควรจะเปลี่ยนแนวคิดหรือ วิธีการ ท่านก็ให้นโยบายออกมาชัดเจน ดังนั้น เวลาจะเป็นเครื่องพิสูจน์ว่า การทำงานของนายกฯและคณะรัฐมนตรี เป็นการใช้วิจารณญาณของตัวเอง
อียูห่วงเสถียรภาพการเมืองไทย
ทั้งนี้ นพ.สุรพงษ์ให้สัมภาษณ์ภายหลังให้การต้อนรับ และหารือร่วมกับผู้แทนคณะกรรมาธิการยุโรป โดย นพ. สุรพงษ์กล่าวด้วยว่า ทางสหภาพยุโรป (อียู) แสดงความยินดีที่ไทยกลับมาสู่แนวทางประชาธิปไตย อียูยืนยันมาตลอดว่าสนับสนุนให้ไทยกลับคืนสู่ประชาธิปไตยโดยเร็วที่สุด วันนี้ไทยมีรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้งแล้ว ทางอียู ก็พร้อมที่จะร่วมกันพัฒนาและกระชับความสัมพันธ์ ทั้งด้านเศรษฐกิจและความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ ทั้งนี้อียูได้สอบถามถึงความมีเสถียรภาพและความแน่นอนทางการเมือง เพราะไม่แน่ใจว่าความแปรเปลี่ยนทางการเมืองจะมีผลต่อแนวคิดทางด้านเศรษฐกิจหรือไม่ ได้ยืนยันไปว่าไม่ว่าจะมีการเปลี่ยนแปลงทางการเมืองอย่างไร แต่ถ้าเป็นไปตามระบอบประชาธิปไตย ก็เชื่อว่าแนวคิดด้านการพัฒนาเศรษฐกิจก็จะไม่เปลี่ยนแปลง อย่างไรก็ตามทางอียูไม่ได้สอบถามเรื่องการเดินทางกลับประเทศของ พ.ต.ท.ทักษิณด้วย