โรงแรมเพนนินซูล่า 28 ก.พ. – “พ.ต.ท.ทักษิณ” ขอโทษประชาชนกับเรื่องความขัดแย้งทางการเมืองที่เกิดขึ้น ระบุเดินทางกลับไทยเพื่อพิสูจน์ความบริสุทธิ์ ยืนยันไม่ยุ่งเกี่ยวกับการเมือง ขอใช้ชีวิตกับครอบครัวอย่างมีความสุข พร้อมทำงานที่เป็นประโยชน์ต่อสังคมในฐานะคนไทยคน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เวลา 14.10 น. พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี พร้อมด้วย คุณหญิงพจมาน ชินวัตร ภริยา นายพานทองแท้ น.ส.พิณทองทา และ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร บุตรชายและบุตรสาว เดินทางมาที่โรงแรมเพนนินซูล่า โดยมีอดีต ส.ส.พรรคไทยรักไทยมารอต้อนรับ อาทิ นายเนวิน ชิดชอบ นางเยาวภา วงศ์สวัสดิ์ จากนั้นได้เดินไปห้องสกุณตลาบอลรูม เพื่อแถลงข่าวต่อสื่อมวลชน โดยก่อนเข้าห้องแถลงข่าว พ.ต.ท.ทักษิณ และครอบครัว กราบพระบรมสาทิสลักษณ์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ บริเวณหน้าห้องแถลงข่าว
จากนั้น พ.ต.ท.ทักษิณ และครอบครัว เดินเข้าห้องแถลงข่าว และได้ขึ้นไปยืนบนเวทีทั้งครอบครัว โดย พ.ต.ท.ทักษิณ แถลงว่า หลังเกิดเหตุการณ์ปฏิวัติ 19 กันยายน 2549 ตนมีความรู้สึกต้องการเดินทางกลับประเทศไทยตั้งแต่วันที่ 20 กันยายน 2549 เพราะมีน้ำใจนักกีฬา จบก็คือจบ แต่ทุกฝ่ายเห็นว่าอยากให้อยู่ก่อน ตนก็อยู่ และโทรศัพท์ติดต่อมายังคณะปฏิวัติ เพื่อบอกให้รู้ว่า ตนมีน้ำใจนักกีฬา จบก็คือจบ และต้องการให้ช่วยสร้างความปรองดองให้กับประเทศชาติ โดยนึกว่าจะอยู่ต่างประเทศเพียง 1-2 เดือน เพราะเป็นคนติดบ้าน รักครอบครัว รักประเทศไทย แต่เหตุการณ์ยังไม่ยุติ ทำให้ต้องอยู่ต่างประเทศเกือบ 18 เดือน ซึ่งถือว่านาน
พ.ต.ท.ทักษิณ กล่าวว่า วันที่เดินทางออกไปก็เป็นนายกรัฐมนตรี เดินทางไปเพื่อร่วมประชุมอาเซม ประชุมนาม และประชุมสหประชาชาติ เพื่อช่วยหาเสียงให้กับนายสุรเกียรติ์ เสถียรไทย ในการแข่งขันชิงตำแหน่งเลขาธิการสหประชาชาติ แต่วันนี้กลับมาถูกกล่าวหาด้วยข้อหาร้ายแรง ซึ่งรู้สึกเสียใจ สิ่งที่เกิดขึ้นกับตนเองและครอบครัว แต่ต้องขอแสดงความเสียใจกับประชาชนในเรื่องของความขัดแย้งทางการเมืองที่เกิดขึ้นในช่วงที่ผ่านมา คนที่เหนื่อยและลำบากที่สุด คือ ประชาชนโดยรวม ซึ่งตนต้องขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วย
“วันนี้ผมกลับมาหลังประชาชนไปใช้สิทธิเลือกตั้งกันแล้ว และได้ตัดสินใจเลือกไปแล้ว เมื่อเหตุการณ์คลี่คลาย มีการเลือกตั้งและประชาธิปไตยกลับคืนมา ผมจึงจำเป็นต้องพิสูจน์ความบริสุทธิ์และรักษาชื่อเสียงของผมที่ถูกทำลายอย่างไม่เป็นธรรม ผมอยากกราบเรียนทุกฝ่ายว่าผมกลับมาครั้งนี้ ผมไม่ต้องการยุ่งเกี่ยวกับการเมือง บางคนสงสัยว่านักการเมืองทำไมถึงไปมาหาสู่ผม แต่มันเป็นธรรมชาติไม่ใช่หรือ ที่คนที่รู้จักกันไม่ได้เจอหน้ากันนาน ๆ ต้องมาเยี่ยมเยียน ซึ่งเป็นวัฒนธรรมของเรา เพราะฉะนั้นที่คนเหล่านี้คิดถึงผม เพราะบางคน ผมมีโอกาสที่จะส่งเสริมให้พวกเขาได้ทำงานการเมือง เขาก็คิดถึงและไปเยี่ยมเยียน ซึ่งสิ่งนี้ไม่ได้หมายความว่าผมจะกลับมาสู่การเมือง วันนี้ผมเป็นคนไทยคนหนึ่ง ต้องการใช้ชีวิตอยู่ในประเทศไทย ผมไประเหเร่ร่อนทั่วโลก ขอยืนยันอีกครั้งว่าไม่มีแผ่นดินไหนที่จะให้ความอบอุ่นกับผมและครอบครัวเท่ากับแผ่นดินไทย เพราะฉะนั้นผมขอกลับมาอาศัยอยู่อย่างมีความสุข อย่างอบอุ่น และขอตายในผืนแผ่นดินไทยนี้” พ.ต.ท.ทักษิณ กล่าว
พล.ต.ท.ทักษิณ กล่าวอีกว่า ทุกคนที่ห่วงใยว่าตนจะมาแข่งขันทางการเมือง ขอให้สบายใจได้ว่า จะไม่ยุ่งเกี่ยวกับการเมือง จะขอใช้ชีวิตอย่างสันติและสร้างสรรค์ ไม่ว่าจะเป็นการใช้ชีวิตอยู่กับครอบครัว ปีนี้ตนอายุ 59 ปีแล้ว ชีวิตคนเราไม่ยาวนานมากนัก ถ้าช่วงสุดท้ายจะทำคุณประโยชน์ให้กับสังคม และได้อยู่กับครอบครัวอย่างมีความสุข เป็นสิ่งที่ทุกคนปรารถนา และตนปรารถนาเช่นนั้น จะขอใช้ชีวิตอยู่กับครอบครัว และขอพักผ่อนบำรุงความสุขให้ตัวเอง หลังจากที่ทำงานตรากตรำมาตลอดชีวิต ทั้งตอนสร้างเนื้อสร้างตัว และการทุ่มเททำงานให้กับบ้านเมือง และตนจะขอทำงานด้านสาธารณกุศล ทั้งด้านกีฬาและการศึกษา สิ่งไหนที่เป็นประโยชน์ พร้อมจะทำในฐานะประชาชนคนหนึ่งเท่านั้น
พ.ต.ท.ทักษิณ กล่าวด้วยว่า ขอขอบคุณประชาชนทุกคนที่เป็นกำลังใจให้ตลอดระยะเวลา 17 เดือน ทั้ง ๆ ที่ตนถูกใส่ร้ายป้ายสีต่าง ๆ นานา ก็ยังให้กำลังใจและให้โอกาสกลับมาในวันนี้ และหลายคนที่เดินทางไปรับ ก็ต้องขอโทษด้วยที่ไม่สามารถทักทายได้ เพราะเป็นเรื่องของระบบการรักษาความปลอดภัย สำหรับสื่อมวลชนหลายคนก็คุ้นหน้าคุ้นตา ขอให้ช่วยกันทำให้ประเทศไทยกลับมามีความมั่นคงอีกครั้ง และทำให้ประเทศยืนได้อย่างเข้มแข็งในภาวะเศรษฐกิจที่ผันผวนอย่างรุนแรง ขอให้ช่วยกันแก้ไขปัญหาภายในประเทศให้มากที่สุด เพื่อให้เข้มแข็งและเผชิญกับปัจจัยภายนอก เพื่อที่จะทำให้สามารถยืนหยัดอยู่ได้
ผู้สื่อข่าวรายงาน เมื่อกล่าวจบ พ.ต.ท.ทักษิณ และครอบครัวไหว้ขอบคุณ และ พ.ต.ท.ทักษิณ ไม่เปิดโอกาสให้สื่อมวลชนซักถาม โดยมอบหมายให้นายพงศ์เทพ เทพกาญจนา และ น.ส.ศันสนีย์ นาคพงศ์ อดีตสมาชิกพรรคไทยรักไทย เป็นผู้ตอบคำถามแทน
ทั้งนี้ ก่อนเดินทางไปยังโรงแรมเพนนินซูล่า พ.ต.ท.ทักษิณ เดินทางกลับไปยังบ้านพักที่ ซ.จรัญสนิทวงศ์ 69 และรับประทานก๋วยเตี๋ยวเนื้อเป็นอาหารกลางวันมือแรกหลังจากเดินทางกลับประเทศไทย.-สำนักข่าวไทย
อัพเดตเมื่อ 2008-02-28 17:06:33
