โดย สุชาติ ศรีสุวรรณ
(ที่มา คอลัมน์ที่เห็นและเป็นไป หนังสือพิมพ์มติชนรายวัน ฉบับประจำวันที่ 30 ตุลาคม 2554)
คือสภาพที่ทุกคนต้องยอมรับ
ถึง นาทีนี้ ทุกคน ทุกฝ่าย ไม่ว่าจะเป็นนักการเมืองหรือข้าราชการประจำต่างยอมรับสภาพแล้ว ว่าไม่สามารถป้องกันเมืองหลวง "กรุงเทพมหานคร" ไม่ให้จมอยู่ใต้มหาอุทกภัยได้
ความพยายามอย่างมากมายที่จะ ป้องกันกรุงเทพฯไว้ ยอมให้ต่างจังหวัดทยอยพินาศไปทีละจังหวัด ไม่ได้ช่วยอะไรเลย ที่สุดน้ำก็ท่วมกรุงเทพฯอยู่ดี
แผนรับมือสารพัดที่คิดว่าชาญฉลาด ไม่สามารถต้านทานธรรมชาติของน้ำได้
เรามีภูมิปัญญาไม่พอที่จะเข้าใจธรรมชาติของน้ำ
ไม่มีใครมีบารมีพอที่จะผนึกใจคนไทยทุกคนให้สู้ในทิศทางเดียวกัน
ความรู้ไม่พอ ความขัดแย้งแตกแยกที่เป็นอุปสรรคมากเกินไป ทำให้เราอ่อนแอเกินกว่าจะสู้กับน้ำที่หลั่งทะลักลงมา
เหมือนว่า เราแพ้แล้ว!
น้ำ กำลังค่อยๆ ไหลผ่านกรุงเทพมหานครลงทะเล พัดพาความสูญเสียมาตอกย้ำ นำหวาดผวามาให้ ผู้คนต่างหนีเอาตัวรอดไปต่างจังหวัด ไปอยู่ในที่ปลอดภัย
กรุงเทพฯไม่ร้าง แต่สภาพชวนให้ห่อเหี่ยวคืบคลานเข้าปกคลุม
จะเป็นเช่นนี้ต่อไปนับเป็นสัปดาห์ เป็นเดือน
เหมือนว่าเราแพ้แล้วนั้นจริง แต่ที่จริงกว่านั้นคือ ชีวิตเรายังต้องดำเนินต่อไป
ไม่ว่าจะอยู่นานแค่ไหน แต่ที่สุดแล้วสถานการณ์น้ำท่วมใหญ่จะต้องผ่านไป
ใน แต่ละชีวิต แม้จะเสียหายและสูญเสีย แต่น้ำท่วมไม่ได้พรากทุกอย่างไปจากเรา จะจัดการอย่างไรให้สิ่งที่เหลืออยู่เป็นประโยชน์ต่อการดำเนินชีวิตในวันข้าง หน้า
สร้างความหวังใหม่กันขึ้นมาจากความเป็นจริงในปัจจุบัน ปล่อยอดีตให้ผ่านไป
ใน ฐานะชุมชนและสังคม ความทุกข์ร่วมกันแม้จะมาจากความสูญเสีย แต่สิ่งหนึ่งที่ถูกสร้างขึ้นมาไม่มากก็น้อยคือความร่วมมือร่วมใจจากเพื่อน บ้านที่บางทีอาจจะเป็นคนแปลกหน้า
จะรักษาและสานสัมพันธ์ที่ดีงามนั้นไว้ได้อย่างไร
ความสัมพันธ์ที่ดีกับเพื่อนบ้าน เป็น "สมบัติที่ล้ำค่าของชีวิต" เพราะเป็นปัจจัยแห่งความสุข
ใน ส่วนของรัฐบาล ในความพ่ายแพ้ หากได้ทบทวนถึงสาเหตุ แปลความพ่ายแพ้นั้นให้เป็นความรู้ เป็นประสบการณ์ ทั้งในเรื่องคน เรื่องระบบการบริหาร เครื่องมือ เครื่องไม้
ทบทวนและหาทางปรับปรุง สร้างประสิทธิภาพเตรียมไว้ หากต้องเผชิญกับอนาคตเช่นนี้ซ้ำ
จะได้แข็งแกร่งพอที่จะไม่พ่ายแพ้อีก
เหมือนกับว่า เราแพ้แล้ว!
แต่อย่างที่บอก ชีวิตต้องดำเนินต่อไป หลังความสูญเสีย การเริ่มต้นใหม่จะต้องเกิดขึ้น
เราจะเริ่มกันอย่างไร จะมุ่งไปทางไหน
จะสะสางความผิดพลาด และความไม่เข้าท่าของทุกเรื่องราวอย่างไร
เหมือนว่าเราแพ้แล้ว!
แต่หากมองให้ลึก น้ำท่วมใหญ่ครั้งนี้ไม่ได้มีแต่เรื่องเลวร้าย บทเรียนมากมายจะเป็นโจทย์ที่ดีให้เราแก้
ทำให้การจัดการหลังน้ำท่วมเป็นปัจจัยที่จะสร้างชัยชนะในอนาคต
ความกล้าหาญและเด็ดขาดที่จะต้องจัดการเป็นเรื่องสำคัญ
หากคิดจะเริ่มต้นจากความเป็นจริงที่ยับเยิน เพื่อสร้างอนาคตใหม่ที่มีความหวัง