ที่มา ประชาไท
Thu, 2012-06-21 00:00
"ผมต่อต้านการใส่ชุดนักศึกษา ทำไมจะต้องเอาโลโก้มหาวิทยาลัยมาแปะติดบนเสื้อผ้า โลโก้พวกนี้ติดไว้ตามตึก ตามรั้วมหาวิทยาลัยก็พอแล้ว ส่วนความแตกต่างระหว่างโลโก้ธรรมศาสตร์กับแบรนด์ธรรมศาสตร์อยู่ตรงไหน พวกคุณต้องค้นหา...
"มหาวิทยาลัยในโลกนี้ไม่ได้เกิดมาเพื่อเป็นโรงเรียนฝึกวิชาชีพ แม้ในเริ่มต้นมหาวิทยาลัยไทยจะเป็นเยี่ยงนั้น และด้วยความที่มันเกิดมาเพื่อเป็นโรงเรียนฝึกอาชีพนั่นแหละ มันถึงยังบังคับให้นักศึกษาใส่ชุดนักศึกษามาจนทุกวันนี้...
"พวกคุณไม่ต้องมาเรียนมหาวิทยาลัยเพียงเพื่อจะไปเสิร์ฟอาหารบนเครื่องบิน หากใครหน้าตาดีหน่อย พอเรียนจบก็อาจจะได้รับจ้างไปนั่งนับเงินหน้าเคาท์เตอร์ธนาคาร แต่อาชีพพวกนั้นไม่ต้องจบมหาวิทยาลัยก็ได้...
"หากพวกคุณมาเรียนมหาวิทยาลัย แล้วยังคิดอยู่ว่า พุทธศาสนาสอนทุกอย่างไว้หมดแล้ว ก็จงลาออกไปบวชซะ เพราะมหาวิทยาลัยเกิดขึ้นมาเพื่อเป็นปฏิปักษ์กับศาสนา เพื่อปลดปล่อยคนจากศาสนา...
"นักศึกษาโครงการนี้ต้องมี inclusive sensibility คือเซนซิทีฟกับความแตกต่างอย่างเปิดกว้าง ยอมรับ ไม่ใช่เซนซิทีฟแบบดูถูก เหยียดหยาม น่าอายที่ นศ. บางคนนั่งหัวเราะเยาะอาจารย์ต่างชาติที่พยายามพูดภาษาไทย และหัวเราะเยาะกับเสียงภาษาต่างชาติที่พวกเขาฟังแล้วแปลกหู (ในระหว่างที่อาจารย์เหล่านั้นเพียรพยายามแนะนำภาษาตนเองด้วยภาษาไทย)...
"ระหว่างที่ผมอยู่อเมริกา 5-6 ปี อยู่เวียดนามร่วม 3 ปี ไม่เคยมีใครหัวเราะเยาะสำเนียงเพี้ยนๆ แปร่งหูของผม ประเทศไทยครอบงำพวกคุณกระทั่งไม่เพียงใจแคบแต่ยังเยาะเย้ยความแตกต่างอย่าง สนุกสนานได้ถึงเพียงนี้ แต่ประเทศต่างๆ ในโลกนี้เขาสอนให้ยอมรับความแปลกแปร่งโดยไม่ต้องสงสัย...
"อยู่ธรรมศาสตร์ คุณเถียงกับอธิการบดีอย่างมีเหตุมีผลได้ ไม่เหมือนแบบที่เพื่อนอาจารย์มหาวิทยาลัยใหญ่แห่งหนึ่งเล่าให้ผมฟังว่า เขาตกใจเมื่อเข้าไปในห้องทำงานอธิการฯ แล้วพบว่า มีจอมอร์นิเตอร์กำลังดูแม้กระทั่งห้องเรียนในมหาวิทยาลัย ไม่รู้มหาวิทยาลัยนั้นจ้างอธิการฯ มาเป็นยาม หรือจ้างยามมาเป็นอธิการฯ...
"จงเรียนรู้เพื่อการศึกษา (education) ไม่ใช่เรียนตามใบบอกทาง (instruction) การศึกษาไม่ใช่คู่มือเครื่องใช้ไฟฟ้า แต่ต้องเรียนให้คิดเป็น...
"แล้วเพลาๆ positive thought (การคิดบวก) ไว้บ้าง เรียนมหาวิทยาลัยต้องมี critical mind (คิดวิพากษ์)...
"ขอให้พวกคุณได้เป็น "มนุษย์สมัยใหม่" โดยภาคภูมิ"
Thu, 2012-06-21 00:00
อาจารย์คณะสังคม
วิทยาและมานุษยวิทยา มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์
บันทึกถ้อยคำของเขาที่กล่าวต่อนักศึกษาใหม่วานนี้
ด้วยเนื้อหาที่คนซึ่งไม่ใช่นักศึกษาก็น่าจะอ่านด้วย
ประชาไทจึงขออนุญาตนำมาเผยแพร่ต่อ
000
ขอต้อนรับนักศึกษาใหม่ การเปิดภาคเรียนที่ธรรมศาสตร์ปี 2555
และแสดงความยินดีกับผู้สำเร็จการศึกษา (ไม่ว่าจะอยากรับปริญญาหรือไม่ก็ตาม)
ด้วยบางประโยคที่ผมบรรยายให้นักศึกษาปริญญาตรี ปี 1 ณ
โครงการหนึ่งฟังที่ท่าพระจันทร์วันนี้"ผมต่อต้านการใส่ชุดนักศึกษา ทำไมจะต้องเอาโลโก้มหาวิทยาลัยมาแปะติดบนเสื้อผ้า โลโก้พวกนี้ติดไว้ตามตึก ตามรั้วมหาวิทยาลัยก็พอแล้ว ส่วนความแตกต่างระหว่างโลโก้ธรรมศาสตร์กับแบรนด์ธรรมศาสตร์อยู่ตรงไหน พวกคุณต้องค้นหา...
"มหาวิทยาลัยในโลกนี้ไม่ได้เกิดมาเพื่อเป็นโรงเรียนฝึกวิชาชีพ แม้ในเริ่มต้นมหาวิทยาลัยไทยจะเป็นเยี่ยงนั้น และด้วยความที่มันเกิดมาเพื่อเป็นโรงเรียนฝึกอาชีพนั่นแหละ มันถึงยังบังคับให้นักศึกษาใส่ชุดนักศึกษามาจนทุกวันนี้...
"พวกคุณไม่ต้องมาเรียนมหาวิทยาลัยเพียงเพื่อจะไปเสิร์ฟอาหารบนเครื่องบิน หากใครหน้าตาดีหน่อย พอเรียนจบก็อาจจะได้รับจ้างไปนั่งนับเงินหน้าเคาท์เตอร์ธนาคาร แต่อาชีพพวกนั้นไม่ต้องจบมหาวิทยาลัยก็ได้...
"หากพวกคุณมาเรียนมหาวิทยาลัย แล้วยังคิดอยู่ว่า พุทธศาสนาสอนทุกอย่างไว้หมดแล้ว ก็จงลาออกไปบวชซะ เพราะมหาวิทยาลัยเกิดขึ้นมาเพื่อเป็นปฏิปักษ์กับศาสนา เพื่อปลดปล่อยคนจากศาสนา...
"นักศึกษาโครงการนี้ต้องมี inclusive sensibility คือเซนซิทีฟกับความแตกต่างอย่างเปิดกว้าง ยอมรับ ไม่ใช่เซนซิทีฟแบบดูถูก เหยียดหยาม น่าอายที่ นศ. บางคนนั่งหัวเราะเยาะอาจารย์ต่างชาติที่พยายามพูดภาษาไทย และหัวเราะเยาะกับเสียงภาษาต่างชาติที่พวกเขาฟังแล้วแปลกหู (ในระหว่างที่อาจารย์เหล่านั้นเพียรพยายามแนะนำภาษาตนเองด้วยภาษาไทย)...
"ระหว่างที่ผมอยู่อเมริกา 5-6 ปี อยู่เวียดนามร่วม 3 ปี ไม่เคยมีใครหัวเราะเยาะสำเนียงเพี้ยนๆ แปร่งหูของผม ประเทศไทยครอบงำพวกคุณกระทั่งไม่เพียงใจแคบแต่ยังเยาะเย้ยความแตกต่างอย่าง สนุกสนานได้ถึงเพียงนี้ แต่ประเทศต่างๆ ในโลกนี้เขาสอนให้ยอมรับความแปลกแปร่งโดยไม่ต้องสงสัย...
"อยู่ธรรมศาสตร์ คุณเถียงกับอธิการบดีอย่างมีเหตุมีผลได้ ไม่เหมือนแบบที่เพื่อนอาจารย์มหาวิทยาลัยใหญ่แห่งหนึ่งเล่าให้ผมฟังว่า เขาตกใจเมื่อเข้าไปในห้องทำงานอธิการฯ แล้วพบว่า มีจอมอร์นิเตอร์กำลังดูแม้กระทั่งห้องเรียนในมหาวิทยาลัย ไม่รู้มหาวิทยาลัยนั้นจ้างอธิการฯ มาเป็นยาม หรือจ้างยามมาเป็นอธิการฯ...
"จงเรียนรู้เพื่อการศึกษา (education) ไม่ใช่เรียนตามใบบอกทาง (instruction) การศึกษาไม่ใช่คู่มือเครื่องใช้ไฟฟ้า แต่ต้องเรียนให้คิดเป็น...
"แล้วเพลาๆ positive thought (การคิดบวก) ไว้บ้าง เรียนมหาวิทยาลัยต้องมี critical mind (คิดวิพากษ์)...
"ขอให้พวกคุณได้เป็น "มนุษย์สมัยใหม่" โดยภาคภูมิ"