หากย้าย นายสุนัย มโนมัยอุดม ออกจากตำแหน่งอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ เพียงแค่รายเดียว แล้วไม่กล้าย้ายคนอื่นอีก กลัวว่าหนังสือพิมพ์จะรุมด่าว่ารังแกข้าราชการล่ะก็ ต้องเรียกรัฐบาลนี้ว่า "รัฐบาลปอดแหก"
เป็นความชอบธรรมอย่างยิ่งที่รัฐบาล ซึ่งประกาศตนยืนตรงข้ามกับเผด็จการ คมช. จะโยกย้ายคนที่รัฐบาลเผด็จการ และ คมช. แต่งตั้งให้มาทำหน้าที่ ด้วยความอคติ ให้ออกไปจากตำแหน่งสำคัญๆ ทั้งหมด
เป็นความไม่เข้าท่าอย่างยิ่ง หากว่ารัฐบาลที่ประกาศไม่เอาเผด็จการ แต่จะเอาคนของเผด็จการ คนที่เคยค้อมคำนับรับใช้เผด็จการด้วยความยินดีและเต็มใจยิ่ง มาเป็นมือไม้ทำงานให้แก่ตนเอง
เพราะรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้งของประชาชน ไม่จำเป็นต้องทำหน้าที่ซึมซับคราบความสกปรกที่เผด็จการทิ้งไว้ และเดินตามรอยของเผด็จการ หากแต่ต้องกำจัดและชำระล้างคราบความสกปรกที่เผด็จการทิ้งไว้ให้หมดไป
ก่อนที่จะถูกกล่าวหาว่าไม่ว่าจะรัฐบาลประชาธิปไตย หรือรัฐบาลเผด็จการ ก็ต้องเรียกหาเรียกใช้ข้าราชการจำพวกนี้เหมือนกัน
ยังมีข้าราชการอีกมากมายหลายคน ที่เสนอหน้าอาสารับใช้เผด็จการ คมช. และรัฐบาลเผด็จการ ในห้วงเวลาที่ผ่านมา และปฏิบัติหน้าที่อย่างมีอคติ ไม่เป็นธรรม แต่กลับได้ดิบได้ดีเพราะวันๆ เฝ้าแต่เลียแข้งเลียขาเผด็จการ จนเติบใหญ่เป็นอธิบดีก็มาก เป็นปลัดกระทรวงก็มี
ข้าราชการจำพวกนี้ไม่มีสิทธิแม้กระทั่งจะประกาศตนเป็นข้าราชการในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว อีกต่อไป เนื่องเพราะได้ยอมตนเป็นคนของเผด็จการไปแล้ว ในขณะที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมิได้ทรงสนับสนุนการเปลี่ยนแปลงการปกครอง จากระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ไปเป็นระบอบอื่น ด้วยวิธีการที่ไม่เป็นไปตามบทบัญญัติของรัฐธรรมนูญ
พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงสนับสนุนการแก้ไขปัญหาของบ้านเมือง ตามวิถีทางประชาธิปไตย แต่ข้าราชการเหล่านั้นกลับไปสนับสนุนผู้โค่นล้มทำลายระบอบประชาธิปไตย จึงหมดสิ้นแล้วซึ่งศักดิ์ศรีของข้าราชการในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เพราะทำตัวของตัวเองให้กลายเป็นคนของระบอบเผด็จการ
ในขณะที่มีข้าราชการดีๆ อีกมากมาย ที่ถูกเผด็จการกลั่นแกล้ง รังแก โยกย้ายออกจากตำแหน่งเดิมโดยไม่มีความผิด และยังถูกตั้งกรรมการสอบสวนจะเอาผิดให้ได้ ทั้งทางวินัย อาญา แพ่ง บางคนถูกไล่ออกจากราชการ บางคนถูกให้ออก บางคนไม่ได้รับความเป็นธรรมในการแต่งตั้งโยกย้ายในห้วงเวลาที่ผ่านมา ทั้งๆ ที่ยังพิสูจน์ไม่ได้ว่ากระทำความผิดจริงตามที่ถูกกล่าวหา แต่เป็นว่าข้าราชการเหล่านี้เคยทำงานให้กับรัฐบาลที่ถูกเผด็จการใช้อาวุธปล้นอำนาจและโค่นล้มลงไป
เสียงที่รัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้ง และประกาศตนยืนตรงข้ามกับเผด็จการมาแต่แรก พึงจะต้องฟังคือ เสียงของข้าราชการที่ถูกกลั่นแกล้ง รังแก และไม่ได้รับความเป็นธรรมจากระบอบเผด็จการ มากกว่าเสียงของข้าราชการที่เติบโตและมีอำนาจขึ้นมาจากระบอบเผด็จการ
เสียงของสื่อมวลชนที่นินทากล่าวหารัฐบาลใช้อำนาจรังแก กลั่นแกล้ง โยกย้ายข้าราชการของ คมช. ด้วยความไม่เป็นธรรมนั้น หากจะไม่เป็นธรรม ก็ไม่เป็นธรรมต่อ คมช. และผู้สนับสนุน คมช. เท่านั้น มิใช่ไม่เป็นธรรมต่อประชาชน
ตรงกันข้าม กลับเป็นความจำเป็นของรัฐบาลที่จะต้องทำให้ทุกคนได้เห็นเสียบ้างว่า ผู้ที่ละทิ้งศักดิ์ศรีข้าราชการในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ยอมลดตัวมาเป็นคนของระบอบเผด็จการ คมช. หรือเผด็จการ คมช. ปรนนิบัติรับใช้เผด็จการทุกรูปแบบ ทุกแนวทาง ตามแต่จะตั้งโจทย์มาให้ว่าจะเล่นงานรังควานใครบ้าง จะต้องได้รับผลกรรมที่ทำไว้
ทั้งนี้ เพื่อไม่ให้เป็นเยี่ยงอย่างแก่ข้าราชการอื่นๆ อีกต่อไป และเพื่อให้ผู้รับใช้เผด็จการได้เข็ดหลาบกันเสียบ้างว่า การรับใช้เผด็จการโค่นล้มระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข จะได้รับผลเช่นไร
อย่างน้อยก็เพื่อเป็นการสกัดกั้นความคิดมักใหญ่ใฝ่สูงของข้าราชการบางคน บางกลุ่ม ที่คิดจะเลียนแบบรุ่นพี่ คิดจะโตทางลัดด้วยการยุแหย่ให้มีการยึดอำนาจ และเข้าไปทำงานรับใช้เผด็จการ เลิกคิด หรือคิดให้น้อยลง และช้าลง
เป็นความจำเป็นที่รัฐบาลต้องทำให้เห็น เพื่อที่คณะเผด็จการที่กำลังจะก่อร่างสร้างตัวขึ้นมาใหม่ในรุ่นต่อไป จะได้ตระหนักบ้างว่า แม้จะยึดอำนาจได้ แต่ก็ยากลำบากมากขึ้นที่จะหาข้าราชการมารับใช้เช่นในอดีตที่ผ่านมาและเพิ่งผ่านไป
ยิ่งจำเป็นมากขึ้นไปอีก ที่รัฐบาลจะต้องดำเนินการเช่นนี้เพื่อคืนความเป็นธรรมให้แก่ข้าราชการที่ถูกโยกย้าย กลั่นแกล้ง รังแก และถูกสอบสวน เพื่อหาทางเอาผิดและลงโทษให้ได้ จนอนาคตราชการได้รับผลกระทบและเสียสิทธิ เสียโอกาสที่จะเติบโตตามสายงาน ทั้งๆ ที่ยังไม่มีคำตัดสินว่าเป็นกระทำความผิด
น่าดีใจที่ นายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรี ได้แสดงท่าทีว่าพร้อมจะให้ข้าราชการที่ไม่มีความผิด พ้นพงหนามที่ระบอบเผด็จการนำมาล้อมตัวไว้
แต่การคืนความเป็นธรรมให้แก่ข้าราชการที่ไม่มีความผิดอย่างเดียวไม่น่าจะพอ ควรจะมีการเยียวยา ชดเชยให้กับความเสียหายที่แต่ละคนได้รับอย่างสมควรแก่เหตุและผลด้วย และจะต้องลงโทษข้าราชการที่รับใช้เผด็จการ ตามสมควรแก่พฤติกรรมของแต่ละคนเช่นกัน
ไม่ใช่มีเพียง นายสุนัย มโนมัยอุดม ที่ถอดครุยผู้พิพากษามารับใช้เผด็จการ ยังมีข้าราชการอีกหลายคนที่รัฐบาลจะต้องไปตรวจสอบพฤติกรรมในห้วงเวลา 1 ปีเศษที่ผ่านมาว่า ได้ทำประโยชน์ให้แก่บ้านเมือง หรือทำประโยชน์ให้แก่เผด็จการมากกว่ากัน
งานนี้ต้องฟันกันให้ถึงรากถึงโคน จึงจะได้ผล
โดย : นายกอ
//////////////////
คอลัมน์:ละครชีวิต...จากหนังสือพิมพ์ประชาทรรศน์รายวัน ฉบับประจำวันที่ 25/02/2551