บล็อคข่าวส่งเสริมคนดี (รักดีหามจั่ว รักชั่วหามเสา หามจั่วก็หนักนะ)

ข่าวจากสื่อ

บทความจากสื่อ

วันศุกร์ที่ 30 ตุลาคม พ.ศ. 2552

ยืมมือ ‘ราเกซ’ กดหัวก๊วน ‘เน’!

ที่มา บางกอกทูเดย์

แม้ว่า ในยุคปัจจุบัน คำว่า “กลุ่ม 16”อาจจะดูเหมือนไม่มีอะไรมากแต่หากย้อนกลับไปเมื่อ 10 กว่าปีก่อนในช่วงปี 2538–2539 ก่อนที่จะเกิดวิกฤติต้มยำกุ้ง จนเศรษฐกิจของประเทศในแถบเอเชียปั่นป่วนถล่มทลาย ชื่อเสียงและพฤติกรรมของกลุ่ม 16 ต้องถือว่าไม่ธรรมดา และโด่งดังอย่างมากในหลายกรณีโดยเฉพาะ 2 กรณี สำคัญ ก็คือ กรณีหญิงสาวชาวพม่า ที่ถูกเรียกขานว่า “มะไข่ซอ”อื้อฉาวจาก ประเด็นไม้พม่า และประเด็นหุ้นของบริษัท เอิร์ท อินดัสเตรียล จำกัด(มหาชน) ซึ่งโยงใยไปถึงคนหลายคน แต่คนที่ถูกจับตามองและพาดพิงถึงว่ามีความสัมพันธ์พิเศษกับ มะไข่ซอ ก็คือ 1 ในแกนนำกลุ่ม 16เจ้าของฉายา “ตี๋กร่าง” หรือนายสุชาติตันเจริญ นั่นเองกับอีกกรณีก็คือ การล่มสลายของธนาคารกรุงเทพฯ พาณิชย์การ หรือแบงก์บีบีซี ซึ่งเป็นแบงก์ในสายตระกูลของ ม.ร.ว.คึกฤทธิ์ปราโมช ผู้มากบารมีทางการเมืองสุดท้ายหลานตาสุดที่รัก ที่ชื่อ นายเกริกเกียรติ ชาลีจันทร์ ซึ่งเดินออกมาจากธนาคารแห่งประเทศไทยเองแท้ๆ แต่เมื่อ

เข้ามาเป็นกรรมการผู้จัดการใหญ่ แบงก์บีบีซีแทนมารดาคือ นางอินทิรา ชาลีจันทร์ กลับไม่สามารถรักษาแบงก์เอาไว้ได้แบงก์บีบีซีล้มพร้อมกับตำ นานพิสดารสารพัดที่ผุดขึ้นมาให้คนพากันอ้าปากค้างเพราะคิดไม่ถึงว่าจะมีรายการ “เปิดแบงก์ปล้น” กันเช่นนี้และที่สำคัญยังโผล่ชื่อของที่ปรึกษาใหญ่ของนายเกริกเกียรติ คือ นายราเกซ สักเสนาเป็นราเกซ สักเสนา ที่ในยุคนั้นต้องถือว่าใกล้ชิดกับนักการเมืองกลุ่ม 16 เป็นอย่างมากการถูกแคนาดาตัดสินให้ส่งตัวกลับมารับโทษของนายราเกซ ในครั้งนี้ จึงต้องจับตาอย่ากะพริบว่าจะพลิกผันเกมการเมืองในขณะนี้ได้มากน้อยเพียงใด?และการที่พรรคประชาธิปัตย์เลือกเล่นเกมนี้คงต้องดูว่าจะเป็นการเล่นเกมเพื่อสยบแกนนำกลุ่ม 16 ในอดีต ที่ยังอาละวาดอยู่ในปัจจุบันใช่หรือไม่?โดยเฉพาะกับ นายเนวิน ชิดชอบ อดีตหนึ่งในแกนนำกลุ่ม 16 ที่ตอนนี้มาเป็นหัวหน้าก๊วนเพื่อนเนวิน ที่มีแรงต่อรองสูงมากในรัฐบาลชุดนี้ จนแม้ว่า นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะนายกรัฐมนตรี และหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์จะไม่พอใจในหลายต่อหลายครั้งแต่สุดท้ายก็ยังต้องยอมให้ก๊วนเพื่อนเนวินขี่คอไปเรื่อยๆหรือการเร่งเกมเอาตัวนายราเกซกลับมาดำเนินคดี จะเป็นเกมสำหรับปราบพยศ และตอกหมุดบรรดาผู้กระด้างกระเดื่องทั้งหลายให้รู้เสียบ้างว่า ... ใครเป็นใคร?เพราะต้องไม่ลืมว่า 2 กรณี มะไข่ซอ และแบงก์บีบีซี มีการพัวพันกันของข้อมูลอย่างลึกซึ้งเนื่องจากนางมะไข่ซอไม่ได้ทำแค่ไม้พม่า แต่เข้ามาเล่นเกมเทกโอเวอร์บริษัทในตลาดหุ้นไทยแล้วขายออกฟันกำไรมหาศาลในภายหลังโดยที่มีบัดดี้ในการเทกโอเวอร์ ก็คือ นายเอกชัย อธิคมนันทะ ซึ่งให้บังเอิญเป็น ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่แบงก์บีบีซีอยู่พอดิบพอดีและนายเอกชัย ผู้นี้ก็ได้เป็นที่ปรึกษาให้กับนายเนวิน ชิดชอบ สมัยที่เป็นรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลังพอดีอีกเช่นกันกรณีเทกมาแล้วขายไปของหุ้นเอิร์ท ก็เลยมีข้อมูลปรากฏออกมาว่า นายเนวินและกลุ่ม16ก็ถือหุ้นเอิร์ทอยู่ 11.05 ล้านหุ้น ด้วยแถมแหล่งเงินของกลุ่มมะไข่ซอ กลุ่มนายเอกชัย รวมทั้งกลุ่มนายราเกซ ที่เอามาใช้ในการซื้อบริษัทแล้วขายออกเพื่อทำ กำ ไรเป็นร้อยเป็นพันล้านบาทในแต่ละดีล ด้วยระยะเวลาไม่ถึงปีนั้น ดันมีแหล่งเงินเดียวกันก็คือ แบงก์บีบีซีนั่นเอง

ซึ่งเรื่องนี้นายเกริกเกียรติ ได้เคยยอมรับว่าได้ปล่อยสินเชื่อให้กับกลุ่มดังกล่าวจริง แต่ไม่ยอมที่จะเปิดเผยวงเงินว่าทั้งหมดแล้วเป็นจำนวนเท่าไรแน่ แต่ยอมรับว่าเกินหลักพันล้านบาทวงการธุรกิจและสถาบันการเงินขณะนั้นเชื่อกันว่า มีการปล่อยสินเชื่อให้กับนักธุรกิจ-นักการเมืองกลุ่ม 16 ในการเทกโอเวอร์บริษัทต่างๆ ในตลาดหลักทรัพย์ถึง 15 บริษัท รวมทั้งสิ้น 21 ครั้ง ในช่วงเวลาแค่ปีเศษ เป็นวงเงินสูงถึง 36,000 ล้านบาทแต่ที่แน่ๆ ก็คือ ความเสียหายของแบงก์บีบีซีภายหลังแบงก์ชาติเข้าไปควบคุมและปิดกิจการนั้น ปาเข้าไปถึง 80,000ล้านบาทเลยทีเดียว... ซึ่งสูงมากสำหรับช่วงเมื่อ 10 กว่าปีที่แล้วข้อมูลปริศนาเหล่านี้แหละ ที่เชื่อกันว่าอยู่ในมือ และในหัวของนายราเกซดังนั้นหากนายราเกซ กลับมาแล้วพูดมากปากโป้ง มีหวังเกิดโศกนาฏกรรมนักการเมือง“ตายหมู่” ขึ้นแน่ประเด็นอยู่ที่ว่า ทำไมระหว่างกลุ่ม 16 กับพรรคประชาธิปัตย์จึงได้แฝงความนัยกันมายาวนาน จนถึงวันนี้แม้ว่านายเนวิน จะนำก๊วนมาสนับสนุนให้นายอภิสิทธิ์ ได้เป็นนายกรัฐมนตรีสมใจอยากแล้วก็ตามแต่ก็ยังคงกินเหลี่ยม หวังขี่คอกันอยู่ไม่รู้จบสิ้นเรื่องนี้มาจากช่วงหลังเหตุการณ์พฤษภาทมิฬสงบ แล้วมีการเลือกตั้งในเดือนกันยายน 2535พรรคประชาธิปัตย์ฉวยโอกาส จาก ข่าวลือเรื่องการพาคนไปตาย ของ พล.ต.จำลอง ศรีเมืองจนทำให้ได้รับชัยชนะในการเลือกตั้ง มี ส.ส.มากที่สุดเป็นจำนวน 79 คน จึงได้เป็นพรรคแกนนำในการจัดตั้งรัฐบาลโดยมี นายชวนหลีกภัย เป็นนายกรัฐมนตรีแต่นายชวนเป็นรัฐบาลได้ประมาณ 2 ปีครึ่ง ถึงกลางปี 2538 เกิดเหตุการณ์พลิกผันทางการเมือง จากเรื่องการออกเอกสารสิทธิที่เรียกว่า ส.ป.ก.4-01 ปัญหานี้กลายเป็นประเด็นที่ทำให้รัฐบาลถูกวิพากษ์วิจารณ์ อย่างมากจนในที่สุดนายชวนต้องชิงยุบสภา หนีการลงมติไม่ไว้วางใจเมื่อวันที่ 19 พฤษภาคม 2538ซึ่งก็มาจากฝีมือของกลุ่ม 16 และพรรคชาติไทยที่ขุดคุ้ยเกี่ยวกับเรื่อง ส.ป.ก.4-01นั่นเองและการประกาศยืนยันของพรรคร่วมรัฐบาลในขณะนั้น คือพรรคชาติไทยว่า จะไม่ไว้วางใจรัฐบาลกรณี ส.ป.ก.4-01 จนทำให้ต้องยุบสภาเลือกตั้งใหม่ในวันที่ 2 กรกฎาคม 2538แม้พรรคประชาธิปัตย์ จะได้ ส.ส.เพิ่มเป็น 86 คน แต่ก็ไม่สามารถเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาลได้ สุดท้ายจึงต้องไปเป็นฝ่ายค้าน โดยพรรคชาติไทยได้เป็นแกนนำในการจัดตั้งรัฐบาล และนายบรรหาร ศิลปอาชา ได้เป็นนายกรัฐมนตรีแทน

เป็นการจุดความแค้นฝังหุ่นของประชาธิปัตย์ที่มีต่อทั้งพรรคชาติไทยและต่อกลุ่ม 16 มานับตั้งแต่นั้นและเมื่อเกิดกรณีแบงก์บีบีซี กรณีนายราเกซ กับพฤติกรรมฉ้อฉลในตลาดหุ้น เกิดขึ้นในปี 2538 ต่อเนื่องปี 2539 พรรคประชาธิปัตย์ซึ่งแค้นอยู่แล้วที่โดนพลิกกลับมาเป็นฝ่ายค้านก็ใช้เป็นประเด็นในการทวงแค้นจากนักการเมืองกลุ่ม 16 ด้วยการเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจเมื่อวันที่ 8 พฤษภาคม 2539ประเด็นที่ใช้ถล่มเวลานั้นก็คือ กรณีบริษัทในครอบครัว “ตันเจริญ” คือบริษัท ซีล่าร์ อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์วิสและบริษัทวินิเวส ไปซื้อที่ดินจังหวัดหนองคาย แล้วนำไปคํ้าประกันการขอกู้เงินจากบีบีซี เพื่อนำเงินไปซื้อหุ้นทำกำไรในระยะสั้น แต่ที่ดินเหล่านั้นกลายเป็นที่ดินที่ออก น.ส.3ก. โดยมิชอบ ส่งผลให้เกิดเอ็นพีแอลอย่างมหาศาลในแบงก์บีบีซีรวมถึงกรณีนักการเมืองกลุ่ม 16จำ นวนหนึ่งไปกู้ยืมเงินจากบีบีซีเพื่อนำ ไปซื้อหุ้นบริษัทต่างๆ ในตลาดหลักทรัพย์ ส่งผลให้นายสุชาติตันเจริญ แถลงลาออกจากตำแหน่งรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทยทั้งนํ้าตาและกลายเป็นความหลังรอยแค้นที่ฝังกันมายาวนาน ซึ่งประชาธิปัตย์ไม่เคยลืมยิ่งมาถึงจังหวะเวลานี้ ก๊วนเพื่อนเนวินที่ตั้งพรรคภูมิใจไทยขึ้นมาเป็นหน้าฉากเนื่องจากนายเนวินจริงๆ แล้ว ยังต้องคำสั่งเว้นวรรคทางการเมือง 5 ปีอยู่ยังไม่ได้พ้นโทษ แต่ว่านายเนวิน และก๊วนกย็ งักรา่ งและกดดนั รฐั บาลอยตู่ ลอดเวลา...เล่นเกมขี่คอพรรคเก่าแก่ในทุกทีที่มีโอกาสโดยเฉพาะอย่างยิ่งในเรื่อง การแต่งตั้ง ผู้บัญชาการ สำนักงานตำรวจแห่งชาติคนใหม่ ซึ่งนายอภิสิทธิ์ ต้องการให้เป็น พล.ต.อ.ปทีป ตันประเสริฐแต่ก๊วนเนวิน และภูมิใจไทยไม่เห็นด้วยทำให้ตลอดมา นายชวรัตน์ ชาญวีรกูลรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย จำเป็นต้องสวนโหวตไม่เอา พล.ต.อ.ปทีป แต่สนับสนุนพล.ต.อ.จุมพล มั่นหมายถือเป็นการเพิ่มรอยแค้นระหว่างประชาธิปัตย์ กับ กลุ่ม 16 ในอดีตขึ้นมาอีก 1 รอยในปัจจุบันดังนั้นเมื่อในจังหวะที่นายราเกซจะต้องถูกส่งตัวกลับเมืองไทย และนายราเกซ เป็นคนที่กุมความลับธุรกรรมในแบงก์บีบีซี ที่โยงใยไปถึงกลุ่ม 16ด้วยโดยตรง!!!ทางพรรคประชาธิปัตย์จึงกระดี้กระด้าที่จะเล่นเกมหักเหลี่ยมโหดในครั้งนี้เป็นยิ่งนักทั้งทวงคืนความแค้นกลุ่ม 16รอบที่ 2 และยังใช้กดหัวก๊วนเพื่อนเนวินไม่ให้ซ่าได้อีกด้วย 

ข่าวส่งเสริมคนดี

จำนวนผู้เข้าเยี่มมชม

link to affordable web hosting
Powered by web hosting provider .

สถิติการเข้าชม DMNEWS

eXTReMe Tracker