"หลักของการเตือนภัยก็คือต้องให้ภาพว่าถ้าสถานการณ์เลวร้ายที่สุดอาจ เป็นอย่างไร ทุกฝ่ายควรเตรียมตัวอย่างไร ซึ่งถ้าไม่เกิดก็ไม่เป็นไร แต่ต้องเตรียม"
ตั้งแต่นครสวรรค์ลงมาถุงทรายช่วยได้กรณีป้องกันน้ำท่วม เล็กๆน้อยๆ ที่ใช้สู้กับน้ำที่มาเป็นผืนใหญ่ไม่ปรากฏว่าสู้กับน้ำได้เลย จุดใดที่จะต้องรับมือกับน้ำที่มาเป็นหน้ากระดานจึงไม่อาจหวังว่าจะสู้ ได้ มีแต่ต้องเตรียมรับผลเมื่อกระสอบหรือพนังกั้นสู้ไม่ไหวแล้วจะทำอย่างไร
การจะให้น้ำลดเร็วๆเป็นเรื่องใหญ่ สำคัญและยากมาก ต้องวางแผนอย่างเป็นระบบโดยผู้เชี่ยวชาญที่ต้องปรึกษากันและต้องอาศัยความ ร่วมมือหลายฝ่าย และยังต้องมีเครื่องมือมาก ที่ขณะนี้ยังไม่มีเช่นเครื่องสูบน้ำ ถุงทรายจำนวนมาก หากไม่ทำจริงจังจะมีคนจำนวนมากต้องอยู่กับน้ำต่อไปอีกเป็นเดือนๆ
การที่น้ำก้อนใหญ่กำลังจะมาถึงกทม.ในช่วงเวลาเดียวกับน้ำทะเลจะ หนุนสูงสุด ยิ่งกว่าตอนน้ำท่วมอยุธยา หยุดราชการอย่างเดียวไม่พอแล้ว มาช่วยกันคิดครับ
เมื่อนึกถึงภาพวันที่ 26-29 ต.ค.แล้วการที่ เราสู้กับน้ำอยู่ตามคันคลองต่างๆหรือประตูน้ำบางแห่งเป็นเรื่องจิ๊บจ้อยมาก ผู้ที่เกี่ยวข้องจำนวนมากต้องคิดกันใหม่ ให้เข้าใจว่ากำลังสู้กับอะไร และจะเตรียมการอย่างไร จะให้ประชาชนเตรียมตัวอย่างไร
ช่วงนี้มีคำถามเข้ามา ผมจะขอตอบรวมๆไปเลยนะครับ
การจะให้น้ำลดเร็วๆเป็นเรื่องใหญ่ สำคัญและยากมาก ต้องวางแผนอย่างเป็นระบบโดยผู้เชี่ยวชาญที่ต้องปรึกษากันและต้องอาศัยความ ร่วมมือหลายฝ่าย และยังต้องมีเครื่องเครื่องมือมากที่ขณะนี้ยังไม่มีเช่นเครื่องสูบน้ำ ถุงทรายจำนวนมาก หากไม่ทำจริงจังจะมีคนจำนวนมากต้องอยู่กับน้ำต่อไปอีกเป็นเดือนๆ
ไม่มีใครปล่อยน้ำเข้ากทม. ไม่มีใครตั้งใจให้น้ำท่วมกทม. ที่ท่วมคือเอาไม่อยู่ แต่ที่ระบายผ่านทางคลองผ่านกทม.ไม่ทำให้ท่วม กลับจะช่วยให้ท่วมน้อยลง
เมื่อน้ำก้อนใหญ่ลงมา ที่กั้นๆกันอยู่อาจเอาไม่อยู่เลยเหมือนที่เอาไม่อยู่มาตลอดทาง ขณะที่น้ำทะเลหนุนสูงสุดจะทำให้เวลาน้ำขึ้น น้ำในแม่น้ำเจ้าพระยาจะสูงกว่าวันนี้อีกมาก
ใน 1-2 วันมานี้พนังกั้นน้ำริมเจ้าพระยาหลาย แห่งก็เริ่มมีอาการเอาไม่อยู่บ้างแล้ว เมื่อน้ำเจ้าพระยาสูงกว่านี้อีกมากจะเป็นอย่างไร ใครจะรับประกันว่า เอาอยู่
ที่ผมเสนอความเห็นอยู่นี้เป็นความเห็นในฐานะประชาชนคนหนึ่งที่ห่วงใยประชาชนด้วยกันทั้งในจังหวัดต่างๆที่อยู่ในเส้นทางและในกทม. รวมทั้งกทม.ชั้นใน
ส่วนที่เสนอความเห็นให้ศปภ.ได้เสนอไปพอสมควรแล้วและพรุ่งนี้จะ พยายามเสนออีกครั้ง แต่ผมจะรอศปภ.เข้าใจเรื่องนี้ไม่ได้ คิดว่าควรสื่อกับประชาชน
ผมคิดว่าศปภ.และกทม.ยังไม่เข้าใจหลักการแนวปฏิบัติ เกี่ยวกับการเตือนภัยและชี้แจงเพื่อการเตรียมความพร้อมของประชาชน ทำให้การชี้แจงที่ผ่านมายังสับสน
ศปภ.เน้นเรื่องการกลัวประชาชนตื่นตระหนกซึ่งเป็นการหลงประเด็น ที่จริงคือประชาชนเขาต้องการรู้ว่าอาจจะเกิดอะไรจะตองเตรียมตัวอย่างไรเมื่อ ไร
ผมพูดอย่างนี้แล้วศปภ.บางคนอาจจะโกรธผมก็ขอให้โกรธไป แต่ถ้ายังอยากฟังคำแนะนำจากผมก็ขอให้บอกมา ยินดีจะไปให้คำแนะนำอีก แต่ศปภ.ต้องปรับความคิดด่วน
ขอให้ข้อมูลว่าการระบายน้ำผ่านคลองต่างๆของกรุงเทพฯทำได้น้อย กว่าเป้ามาก ส่วนการระบายไปทางตะวันออกที่หวังกันนั้น ถึงเมื่อเช้านี้น้ำยังไม่ไปฉะเชิงเทราและสมุทรปราการ ไม่มีน้ำให้สูบลงแม่น้ำบางปะกงและทะเล
ขอถามศปภ.ว่าแล้วน้ำก้อนใหญ่จะหายไปเองได้อย่างไร และจะไม่ลงมาหากรุงเทพฯซึ่งเป็นที่ต่ำหรือ
หลักของการเตือนภัยก็คือต้องให้ภาพว่าถ้าสถานการณ์เลว ร้ายที่สุดอาจเป็นอย่างไร ทุกฝ่ายควรเตรียมตัวอย่างไร ซึ่งถ้าไม่เกิดก็ไม่เป็นไร แต่ต้องเตรียม
การเตรียมรับสึนามิเขาต้องมีไว้ตลอด คนจึงรู้สึกปลอดภัยไม่ใช่ตระหนกเพราะมีแผน พอเกิดแผ่นดินไหวในทะเล บางที่เขาให้อพยพคนขึ้นที่สูงทันที แต่เมื่อไม่มีผลกระทบก็กลับบ้าน ที่เขาเดือดร้อนที่ต้องอพยพกันโกลาหลเขาก็ไม่โกรธ
ต้องตั้งโจทย์ใหม่ว่า ถ้ากรุงเทพฯเป็นแบบนครสวรรค์บวกบางบัวทอง จะเตรียมรับกันอย่างไร มีแผนรับมืออย่างไรและประชาชนจะเตรียมตัวอย่างไร ไม่ใช่บอกแต่ว่ากรุงเทพฯจะไม่เป็นไร
ข่าวว่าศปภ.มีแผนเตรียมรับกรณีน้ำท่วมกทม.ทุกด้านแล้ว ถ้ามีควรจัดชี้แจงให้ประชาชนทราบ ไม่ต้องกลัวว่าชี้แจงแล้วคนจะตระหนก คนเขากลัวว่าจะไม่มีแผน
บางคนว่าผู้รับผิดชอบยังมีความเห็นต่างกันในเรื่องน้ำจะท่วม กทม.มากน้อยแค่ไหน ฝ่ายที่คิดว่าคงไม่หนักจึงไม่อยากเตือนให้น่ากลัวเกินไปซึ่งเป็นการหลง ประเด็น
ที่ถูกคือเมื่อเห็นว่าน้ำท่วมรุนแรงมาตลอดทางและมีบางฝ่ายเห็นว่าอาจรุนแรงมาก จะต้องเตือนให้เห็น worst case scenario และเตรียมรับมือ
ที่มา:เ