พักนี้ผมได้ยินข่าวรัฐประหารหนาหู มีการโพสต์กันในเว็บบอร์ดให้ประชาชนระวังกันมากมาย จนผมเริ่มรู้สึกเบื่อข่าวรัฐประหารเต็มทีเหมือนกัน
เพราะต่อให้ประชาชนระวังอย่างไร ผมคิดว่าคนที่จะทำรัฐประหารเขาไม่แคร์ตรงนั้นหรอกครับ เพราะถึงเราจะระวัง ก็จะทำอะไรไ้ด้ละครับ ไม่ระวังเราจะทำอย่างไรได้
ประชาชนไม่ใช่กองกำลังติดอาวุธ ที่จะได้มีการเตรียมพร้อมอยู่ในที่ตั้ง 100% เตรียมออกไปต่อต้านหากมีการเคลื่อนย้ายกำลังออกมา
ดังนั้น ใครจะเตือนหรือไม่เตือนว่าจะมีการทำรัฐประหารวันไหน สำหรับประชาชนแล้วไม่มีประโยชน์อะไรทั้งสิ้น
แต่การทำรัฐประหารจะสำเร็จเรียบร้อยหรือไม่นั้น ขึ้นกับเงื่อนไขภายใน และเงื่อนไขภายนอกประเทศ
เงื่อนไขภายในคือ ประชาชนยอมรับการทำรัญประหารหรือไม่ ประชาชนจะต่อต้านหรือไม่ ไม่ใช่ประชาชนจะรู้ตัวหรือไม่รู้ตัวว่าจะมีการทำรัฐประหารเมื่อไหร่ ต่อให้ทำรัฐประหารยึดอำนาจไ้ด้แล้ว 1 สัปดาห์จับผู้นำฝ่ายรัฐบาลไปหมด หากประชาชนจะต่อต้าน เขาก็จะออกมาเอง ผู้นำก็จะเกิดขึ้นโดยธรรมชาติ ต่อให้จับผู้นำไปกี่คนก็ไม่มีประโยชน์อะไร เพราะการต่อต้านก็จะขยายตัวออกไปอยู่ดี
ต่อให้คณะรัฐประหารดำเนินการอย่างเงียบเชียบ ยึุดประเทศได้อย่างละมุนระม่อม ไม่มีกำลังทหารฝ่ายรัฐบาลออกมาต่อต้าน แต่รุ่งเ้ช้าหรือคืนวันที่มีแถลงการณ์คณะปฎิวัติฉบับที่ 1 ออกมา ประชาชนก็รู้อยู่ดีแหละครับ และหากประชาชนจะต่อต้าน เขาก็ออกมาในช่วงนี้ หรือหลังจากนี้
ดังนั้น ประชาชน จะรู้ตัวก่อนหรือหลังไม่สำคัญ รู้ตัวก่อนก็ป้องกันไม่ได้ เพราะไม่รู้ว่าจริงหรือเท็จ
ส่วนเงื่อนไขภายนอกประเทศ มันอยู่ที่ว่า ประชาคมโลกจะยอมรับการเปลี่ยนแปลงทางการเมืองที่ไม่ชอบธรรมนี้หรือไม่ หากไม่ยอมรับ และมีมาตรการต่อต้านออกมาอย่างจริงจัง เช่น การไม่ยอมรับรัฐบาลของคณะรัฐประหาร การดำเนินมาตรการคว่ำบาตรทางการทูต และเศรษฐกิจตามมา ก็จะทำให้คณะรัฐประหารอยู่ไม่ได้อีกเหมือนกัน
หากฝ่ายที่ทำรัฐประหารคิดว่า จะทำให้สะเด็ดน้ำเหมือนที่พูดๆ กัน โดยพวกหัวรุนแรง เช่น การที่คิดจะกำจัดฝ่ายตรงข้ามโดยมาตรการรุนแรง เช่น สังหารผู้่นำฝ่ายรัฐบาลให้หมด จับกุมผู้นำขังคุกให้หมด มันก็ไม่ได้มีประโยชน์มากนัก เพราะมันยิ่งแสดงให้เห็นถึงการยึดอำนาจที่ไม่ชอบธรรม โดยวิธีการที่รุนแรง ก็จะโดนต่อต้านจากต่างประเทศ หรือในประเทศตามมา
ดังนั้น ผมจึงไม่แคร์ว่า การทำรัฐประหาร ผมจะได้ยินข่าวก่อนหรือหลัง จากข้อมูลวงในหรือไม่ เพราะ "ข้อมูลวงใน" ไม่สำคัญเท่ากับ "เงื่อนไขภายในและภายนอกประเทศ"
ต่อให้เตรียมกำลังมีคำสั่งออกมาให้ทำ (ผมเข้าใจว่าคงสั่งกันหลายครั้งแล้ว) แต่เมื่อเงื่อนไขทั้งหมดทั้งภายในและภายนอกประเทศ ไม่เอื้ออำนวย ก็ทำรัฐประหารไม่ได้อยู่ดี
ตังนั้น มาตรการที่ีดีที่สุดของประชาชนคือ อย่าไปสนใจข้อมูลวงในว่าจะมีรัฐประหารวันโน้นวันนี้ หรือจะมีรัฐประหาร ใครสั่งให้ทำ คนสั่งใหญ่โตแค่ไหน มีอำนาจอิทธิพลเพียงใด แต่ให้ดำเนินมาตรการ "ป้องปราม" เป็นขั้นเป็นตอน
ก็อย่างที่ PTV โดย “รายการความจริงวันนี้” กำลังดำเนินมาตรการต่อต้านรัฐประหารอยู่ เช่น การระดมพลคนเสื้อแดง “ชุมนุมเพื่อต่อต้านรับประหาร” นั้นถูกต้องแล้ว และควรขยายมวลชนออกไปเรื่อยๆ
หรือหากจะให้ดี ควรมีการฝึกซ้อม "การต่อต้านรัฐประหาร" เพื่อสร้างภาพให้ประชาคมโลกได้รู้ ได้เห็น ได้ตระหนักอย่างชัดเจนว่า ประชาชนไทยไม่ต้องการให้มีใครมายึดอำนาจจากรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้ง เช่น
1. นปช. จัดให้มีวันซ้อม "ฝึกนอนขวางทางรถัง" นำประชาชนเป็นพันๆ คนมาฝึกนอนขวางถนนไม่ให้รถถังวิ่งไปได้ จะวิ่งก็ต้องเหยียบประชาชนไป ฝึกนอนเรียงกันเป็นพันๆ คน บนถนนราชดำเนิน เป็นต้น
2. ฝึกขว้าง ระเบิดเพลิงโมโลต็อบค็อกเทลที่สามารถใช้เผารถถังได้ ที่สนามหลวง เพื่อซ้อมให้คนเห็น ให้เป็นภาพข่าว ออกไปทั่วโลก
3. จัดเดินรณรงค์ต่อต้านรัฐประหาร แจกสติ๊กเกอร์ไม่เอารัฐประหาร ทั่วประเทศ
ผมว่า มาตรการป้องปรามเหล่านี้ สำคัญกว่า ข้อมูลวงใน ว่าจะมีรัฐประหารวันนั้นวันนี้ิ ซึ่งฟังแล้วทำให้ึคนเครียดเปล่าๆ เพราะฟังแล้ว คนอ่าน คนฟัง ก็ทำอะไรไม่ได้อยู่ดี มีแต่ความเครียด
สำหรับผมแล้ว ผมไม่สนใจ "ข้อมูลวงใน" เรื่องการทำรัฐประหารมากนัก ผมได้ยินบ่อยๆ ด้วยซ้ำว่า เขาจะทำวันโน้นวันนี้ คนโน้นคนนี้สั่ง กำลังเคลื่อนกำลังแล้ว
คือได้ยินหรือรู้ไปก็เท่านั้น เพราะหากเงื่ื่่อนไขภายในและภายนอก มันเอื้ออำนวยให้พวกเขาสามารถใช้กำลังโค่นรัฐบาลได้ ต่อให้รู้ข่าวก่อนเป็นอาทิตย์ก็ทำอะไรไม่ได้ ไม่รู้ข่าวก็ทำอะไรไม่ได้เหมือนกัน
มันไม่ได้ประมาทหรือไม่ประมาท
เพราะไม่ประมาท ประชาชนก็ทำอะไรไม่ได้ ดังนั้นคำแนะนำให้ประชาชนไม่ประมาทเรื่องการทำรัฐประหาร มันจึงไม่มีประโยชน์แต่อย่างใด แต่ทำให้ประชาชนเครียด
แค่เราตัดสินใจแค่ "หากมีรัฐประหารเราไม่ยอมรับ" และจะต่อต้านทุกรูปแบบมันก็พอเพียงแล้วละครับ ในฐานะประชาชน หรือมีกิจกรรมต่อต้านรัฐประหาร เราก็ออกไปร่วม หรือแสดงออกเชิงสัญลักษณ์ เช่น ใส่เสื้อแดง ไปร่วมงาน “ความจริงวันนี้” ใน วันที่ 1 พย. ผมก็ถือว่าเป็นการ "ป้องปราม" ที่ดีที่สุดของประชนชน เป็นการโชว์พลังให้ฝ่ายเผด็จการรู้ว่า ประชาชนไม่เอาด้วยกับพวกคุณ
หากวันนั้นพวกเราไปเป็นแสนๆ คน ก็จะทำให้ฝ่ายที่จะทำรัฐประหารรู้ว่า ต่อให้ร่วมมือร่วมใจกันทั้งสี่เหล่าทัพ มันก็ไม่ได้ผลแต่อย่างใด เพราะประชาชนไม่เอาด้วย มันก็ปกครองไม่ได้ ยึดอำนาจไม่ได้อยู่ดี