บทความ โดย Bugbunny |
พระเจ้าธีบอและพระนางศุภยลัต คือผู้ครองแผ่นดินพม่าในระบอบสมบูรณาญาสิทธิราชย์องค์สุดท้าย ก่อนตกเป็นจังหวัดหนึ่งของอินเดียในจักรวรรดิอังกฤษเมื่อร้อยกว่าปีก่อน
พระองค์ได้ขึ้นครองราชสมบัติทั้งที่เป็นเจ้าฟ้าลำดับสิบกว่าๆ ไม่ได้อยู่ในเกณฑ์ที่จะเป็นรัชทายาทและถูกขอร้องแกมบังคับให้บวช เจ้าจอมมารดาซึ่งเป็นธิดาเมืองไทยใหญ่ (เมืองสีป่อตามพระนาม) ก็ต้องโทษอยู่ แต่ก็ขึ้นครองราชย์ได้เพราะ พระเจ้ามินดง กษัตริย์องก่อนมีพระนางอเลนันดอเป็นพระมเหสีองค์ที่โปรดปรานมีอำนาจมาก แต่ไม่มีพระราชบุตร คงมีแต่พระนางศุภยาลัตพระราชธิดาที่ทะเยอทะยานพอๆกัน ด้วยความกระหายอยากรักษาอำนาจจึงได้ร่วมมือกับ แตงดาวุ่นกี้และกินหวุ่นมุนกี้ สองขุนนางใหญ่วางแผนให้พระนางศุภยาลัตได้เสกสมรสกับเจ้าฟ้าพระองค์ใดองค์หนึ่ง ซึ่งเลือกเอาพระเจ้าธีบอซึ่งตอนนั้นก็ยังทรงผนวชอยู่
ตอนนั้นจริงๆแล้ว พระเจ้ามินดงมีเจ้าฟ้านยองยานกับเจ้าฟ้านยองโอ๊กที่พอจะมีความสามารถขึ้นครองราชย์ เพราะทั้งสองพระองค์เรียนจบโรงเรียนฝรั่ง มีความฉลาดและเข้มแข็งพอสมควร แต่พระนางอเลนันดอและขุนนางเห็นว่าจะคุมได้ยาก จึงเลือกพระเจ้าธีบอที่อ่อนแอกว่า และรอเวลาจะฮุบอำนาจนั้น เพราะพระเจ้ามินดงก็เกรงพระทัยมเหสี จึงไม่ได้ตั้งเจ้าฟ้าพระองค์ใดเป็นรัชทายาทโดยเด็ดขาด
พระนางศุภยาลัตก็ได้เสกสมรสกับเจ้าฟ้าธีบอ (ซึ่งจริงๆก็คือพี่น้องแต่คนละแม่กัน) จนเมื่อพระเจ้ามินดงป่วยหนัก พระนางอเลนันดอจึงเรียกพวกเสนาบดีประชุมในที่รโหฐานและประกาศตั้งเจ้าฟ้าธีบอเป็นรัชทายาท ไล่จับกุมบรรดาเจ้าฟ้าและขุนนางในฝ่ายอื่นๆที่ไม่ใช่ของตัวเองใส่คุกไปมากมาย เมื่อพระเจ้ามินดงสวรรคตแล้ว ก็ให้เจ้าฟ้าธีบอขึ้นเป็นกษัตริย์แห่งกรุงพม่า
พอขึ้นครองราชย์ได้พระมเหสีและมารดากับแก๊งค์ขุนนางก็จัดการสังหารบรรดาพี่น้องตัวเองและบริวารรวมกันถึงราว 500 กว่าคน เจ้าชายองค์ใดถูกปลงพระชนม์ เจ้าจอมมารดาและบรรดาลูกๆ รวมทั้งเจ้าน้ององค์หญิงเจ้าชายองค์นั้นก็โดนฆ่าทิ้งด้วย ขุนนางที่เคยรับใช้หรือญาติทางฝ่ายจอมมารดาก็จับฆ่าเสียสิ้นเหมือนกัน ใช้เวลาอยู่สามวันจึงสังหารได้หมดเพราะต้องฆ่าที่วังแต่เวลากลางคืน เพราะจะไม่ให้พวกชาวเมืองรู้ ที่เลือดเย็นกว่านั้นคือ พระนางศุภยาลัตทรงให้จัดงานปอยตลอดสามวันนั้น ให้ชาวเมืองเที่ยวงานให้สนุก พระเจ้าธีบอก็จัดให้ดื่มน้ำจัณฑ์จนเมามายเพื่อไม่ให้สนใจการสังหารครั้งนั้น จะเห็นว่าการขึ้นอำนาจของพระเจ้าธีบอ เต็มไปด้วยการจัดการจากกลุ่มคนที่กระหายอำนาจและโลภโมโทสันทั้งสิ้น
เมื่อพระเจ้าธีบอได้เป็นกษัตริย์ ก็เกรงพระราชหฤทัยพระมเหสีที่สุด พระองค์ไม่กล้าแม้จะมีสนม และไม่กล้าขัดหรือค้านนโยบายต่างๆที่ออกมาจากความคิดของพระนางศุภยาลัตและพวกพ้อง การคล้อยตามเมียและบริวารจนไม่ลืมหูลืมตา ไม่สนใจกิจการบ้านเมือง มีผลทำให้ราชวงศ์สุดท้ายของพม่าถึงแก่ล่มสลายลงไป
สาเหตุคือ พระนางศุภยาลัตและแตงดาวุ่นกี้ไม่พอใจที่อังกฤษให้ค่าสัมปทานป่าไม้น้อย และฝรั่งเศสทำท่าจะเข้ามาเสนอให้มากกว่าประกอบกับมีการกล่าวหาว่าอังกฤษลอบตัดไม้เกินกว่าที่ได้รับสัมปทาน พม่าเลยสั่งปรับอย่างหนักถึง 1 ล้านรูปี อังกฤษก็ไม่พอใจยื่นประท้วง แต่พม่าไม่ยอม ตอนนั้นพระนางศุภยาลัตคิดว่าตัวเองมีฝรั่งเศสหนุนหลัง แต่ต่อมาเกิดเรื่องเข้าจริงๆ ฝรั่งเศสก็วางตัวเป็นกลาง
วันที่ 17 ตุลาคม พ.ศ.2428 อังกฤษก็เริ่มส่งข้อเรียกร้องขั้นเด็ดขาด และพม่ายอมไม่ได้ เช่น ให้อังกฤษเป็นคนควบคุมนโยบายการค้าการเดินเรือของพม่าทั้งหมด ฯลฯ มิฉะนั้นจะรบกับพม่า ซึ่งพึงเข้าใจว่าอังกฤษเข้าครอบครองพม่าใต้ไว้แล้วก่อนหน้านั้น
พระนางศุภยาลัตประกาศรบอังกฤษด้วยความหยิ่งยะโสโอหังว่าพม่านั้นเป็นชาติมหาอำนาจในเอเชียอาคเนย์ เคยชนะมาแล้วแม้แต่จีน หลงละเมอเพ้อพกอยู่กับอดีตอันยิ่งใหญ่ของพม่า โดยไม่เคยสนใจความก้าวหน้าของโลก โดยเฉพาะประเทศอภิมหาอำนาจแห่งยุคนั้อย่างอังกฤษที่มีอาณานิคมทั่วโลกและเข้มแข็งทางการทหารอย่างยิ่ง พระเจ้าธีบอตามพระทัยมเหสีจึงสั่งให้เตรียมพลไปรบ อังกฤษก็ให้นายพลแฮร์รี เพนเดอร์กาส นำทหารทั้งฝรั่งและอินเดียเคลื่อนพลเข้ารบ จากย่างกุ้งบุกไปตามลำน้ำอิรวะดีถึงมัณฑะเลย์อย่างสบาย ใช้เวลาแค่ 14 วันก็ยึดเมืองหลวงได้ นักประวัติศาสตร์ส่วนใหญ่ให้ความเห็นว่า นอกเหนือจากอาวุธที่ดีกว่าอย่างเทียบไม่ติด แต่เหตุผลสำคัญที่สุดคือราษฎรไม่คิดจะต่อสู้เพราะไม่รู้จะสู้ไปเพื่ออะไร เนื่องจากรัฐบาลของพระเจ้าธีบอโดยพระนางศุภยาลัต กดขี่พวกเขามาตลอด บ้านเมืองจึงขาดความสามัคคีขนาดหนัก เนื่องจากกษัตริย์และมเหสีไม่ทำตนให้เป็นที่รักของประชาชนพม่าของพระองค์เอง
พระเจ้าธีบอและพระนางศุภยลัตถูกเนรเทศให้ไปอยู่อินเดียเป็นจุดสิ้นสุดของเอกราชของประเทศพม่าร่วมร้อยปี กว่าจะกลับเป็นประเทศเอกราชอีกครั้งก็หลังสงครามโลกครั้งที่สอง
ประวัติศาสตร์ย่อมดำเนินต่อไป ปัจจุบันในวันนี้ อนาคตข้างหน้าก็จะกลายเป็นประวัติศาสตร์ คนมีการศึกษาจะศึกษาจากประวัติศาสตร์และระวังไม่ให้มันซ้ำรอยในทางที่เลว แต่คนด้อยการศึกษาจะเอาความรู้สึกและอารมณ์ชั่วแล่นนำส่วนที่เลวร้ายในประวัติศาสตร์มาทำซ้ำเพื่ออำนาจของตนเองโดยไม่มองผลที่จะตามมาภายหลัง