นายไพจิตร ศรีวรขาน ส.ส.นครพนม และ ดร.พีรพันธุ์ พาลุสุข ส.ส.ยโสธร ในฐานะที่ปรึกษากฎหมายพรรคพลังประชาชน ร่วมกันแถลงข่าวเรียกร้องให้ คณะกรรมการตรวจสอบ ข้อเท็จจริงเหตุการณ์สลายการชุมนุม โดยมีนายปรีชา พานิชวงศ์ เป็นประธาน ทำการสอบสวนกรณีเหตุรถจิ๊บ เชโรกี สีขาว ระเบิดที่บริเวณที่ทำการพรรคชาติไทย โดยพบศพ พ.ต.ท.เมธี ชาติมนตรี ที่เกิดเหตุ เนื่องจากมีพยาน และหลักฐานสำคัญที่อาจชี้ได้ว่าเหตุระเบิดดังกล่าวมีความเกี่ยวโยงกับอดีตส.ส.พรรคประชาธิปัตย์
โดยนายไพจิตรระบุว่า ก่อนที่จะมีเหตุการณ์ระเบิดดังกล่าว มีพยานซึ่งเป็นวินมอเตอร์ไซด์พบว่า พ.ต.ท.เมธี ยืนพูดคุยกับอดีตส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ที่เคยขึ้นเวทีกลุ่มพันธมิตร และเป็นผู้ซึ่งมีบทบาทสำคัญในการชุมนุม ในบริเวณดังกล่าวก่อนที่จะมีการแยกกัน โดยพ.ต.ท.เมธี ได้เดินไปยังรถยนต์คันดังกล่าว แล้วเกิดเหตุการณ์ระเบิดขึ้น ซึ่งเรื่องนี้เป็นที่น่าสังเกตว่า เหตุการณ์ชุมนุมเกิดขึ้นที่บริเวณหน้ารัฐสภา แต่กลับพบว่าอดีตส.ส.พรรคดังกล่าวและผู้ตาย ยืนพูดคุยตรงบริเวณหน้าพรรคชาติไทย และเกิดเหตุการณ์ระเบิดขึ้น เรื่องนี้อาจมีความเกี่ยวพันที่อาจชี้ได้ว่า การชุมนุมดังกล่าวไม่ปกติ และอาจมีนักการเมืองเข้ามามีส่วนเกี่ยวข้องด้วยก็เป็นได้
“ อดีตส.ส.พรรคประชาธิปัตย์คนนี้เป็นส.ส.อีสาน เป็นคนสำคัญในการเคลื่อนไหวของกลุ่มพันธมิตรฯ เคยขึ้นเวทีอยู่บ่อยครั้ง มีชื่อเสียง เป็นที่รู้จักอย่างมากมาย แต่ผมบอกไม่ได้ว่าเป็นใคร ตอนนี้ต้องรอดูก่อนว่าทางคณะกรรมการได้รับหลักฐานตรงนี้หรือยัง” นายไพจิตรกล่าว
เมื่อถามว่าเหตุใดจึงไม่นำพยานหลักฐานดังกล่าวมอบให้คณะกรรมการฯ ดร.พีรพันธุ์กล่าวว่า พยานยังไม่ได้รับการเรียกตัว พร้อมกับขอรอดูผลการสอบสวนของคระกรรมการฯเสียก่อน ว่าจะมีการไต่สวนเช่นไร และตนก็ไม่แน่ใจว่าคณะกรรมการจะได้รับหลักฐานดังกล่าวแล้วหรือไม่ ซึ่งต้องรอดูอีกครั้งหนึ่ง
ส่วนกรณีความน่าเชื่อถือของหลักฐานและพยานบุคคลนั้น ตนมองว่า เป็นหน้าที่ของผู้ที่ทำหารไต่สวนว่าหลักฐานจะมีความน่าเชื่อถือมากน้อยเพียงใด
อย่างไรก็ตามดร.พีรพันธุกล่าวให้กำลังใจนายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ นายกรัฐมนตรีว่า ไม่ต้องลาออก-ยุบสภา เพราะไม่ทางออก และเกรงว่าหากมีการเลือกตั้งใหม่อาจจะไม่มีกระบวนการเลือกตั้งเกิดขึ้น และอาจมีอำนาจนอกระบบเข้ามาแทรกแซง พร้อมกับขอให้ประชาชนรักษาอำนาจความเป็นประชาธิปไตยของตนเองให้อย่างเข้มแข็งเพื่อป้องกันทหารออกมาทำการรัฐประหาร