บล็อคข่าวส่งเสริมคนดี (รักดีหามจั่ว รักชั่วหามเสา หามจั่วก็หนักนะ)

ข่าวจากสื่อ

บทความจากสื่อ

วันอาทิตย์ที่ 5 ตุลาคม พ.ศ. 2551

จำลองโดนจับ คงคิดใช้แผนเดียวกับพฤษภาทมิฬอีกครั้ง


บทความโดย...ลูกชาวนาไทย

ผมดูยุทธวิธีของ พล.ต.จำลองในการต่อสู้กับรัฐบาลครั้งนี้แ้ล้ว ยุทธวิธี การเดินเกมต่างๆ มันไม่ต่างกับยุคพฤษภาทมิฬแต่อย่างใดเลย ทุกอย่างทุกขั้นตอน ดูเหมือนว่าจะก็อบปี้เอามาจากสิ่งที่เคยทำ เคยคิดในช่วงเหตุการณ์พฤษภาทมิฬปี 2535 เรียกว่าไม่ค่อยได้คิดใหม่เลยว่างั้นเถอะ

ซึ่งมันฟ้องได้ว่าคนเหล่านี้ไม่ได้ฉลาดแต่อย่างใด ยังคงคิดและทำเหมือนเดิม จากประสบการณ์เดิมๆ ที่เคยชินมา ทำและคิดทุกอย่างที่เคยชินมา โดยไม่ได้มีการประเมินสถานการณ์ใหม่ อารมรณ์ของสังคม หรือแม้แต่สภาพแวดล้อมใหม่ ๆ ขุนศึกแก่ ก็มักเป็นอย่างนี้ คือ หลงภาพความสำเร็จของตนในอดีต

การที่ พล.ต.จำลอง โดนจับครั้งนี้ คงมีการวางแผนกันไว้ก่อนแล้วในกลุ่มของ พันธมิตรเอง เพราะโดนจับตอนไปเลือกตั้งผู้ว่ากรุงเทพมหานคร ดูแล้วเป็นการจงใจท้าทายเจ้าหน้าที่ตำรวจมากเกินไป หากพูดตรงๆ คือ "เดินออกมาให้จับนั่นเอง" เมื่อเดินออกมาให้จับ ตำรวจก็ต้องจับ เพราะไม่อย่างนั้นจะเป็นการละเว้นไม่ปฎิบัติตามหน้าที่ เพราะเมื่อผู้ต้องหาสำคัญออกมา แล้วไม่จับกุม จะเป็นการละเว้นอย่างชัดเจน

ดังนั้น หากเราประเมินในทางร้ายก็คือ "เขาต้องการออกมาสร้างเงื่อนไข" เพื่อปลุกม็อบอีกครั้งหนึ่ง เพื่อให้เกิดจลาจล ความวุ่นวาย เหมือนช่วงพฤษภาทมิฬแล้วจะได้มีคนเรีัยกไปเข้าพบ เพื่อให้เกิดการสมานฉันท์ ออกแบบฉากเหมือนกับยุคพฤษภาทมิฬไม่ได้มีเพื้ยนเลย

ผมว่ามันเป็นแผนที่ "สิ้นท่า" มากเกินไปครับ ไม่ได้ประเมินอารมณ์มวลชน อารมณ์ของคนทั้งประเทศ และสถานการณ์โดยรวมแต่อย่างใด

ผมคิดว่าตอนนี้ ม็อบพันธมิตร หากจะระดมคนได้ ก็คงมีแต่สาวกสันติอโศกเท่านั้น ผมไม่เชื่อว่าประชาชนกลุ่มอื่นๆ เช่นคนใต้จะออกมาอีก เพราะดูเหมือนไฟมันจะมอดไปเยอะแล้ว และนายกฯคนใหม่ คือ นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ ก็เป็นคนใต้แท้ สมใจของคนใด้กลุ่มใหญ่ไปแล้ว ทำให้แม้ว่าคนใต้บางกลุ่มจะเข้ามาร่วม แต่ผมคิดว่า เป็นกลุ่มจัดตั้งของพันธมิตรนั่นเอง ไม่ได้มีอารมณ์ร่วมกันทั้งภาค เหมือนยุคนายสมัคร สุนทรเวช เป็นนายกรัฐมนตรี

ดังนั้น สถานการณ์มันจึงไม่ได้ตึงครียดเหมือนกับช่วงพฤษภาทมิฬ

และวันนี้มีเรื่องการลุ้นเลือกตั้งผู้ว่า กทม. ดังนั้นอารมณ์ของข่าวของสื่อ ยังอยู่ที่การเลือกตั้ง

หากเราประเมินในทางดีคือ คนกลุ่มนี้ต้องการหาทางลงแล้ว ออกมาให้โดนจับแล้วก็ขอต่อรองให้ประกันตัว แล้วเลิกราหยุดชุมนุมไป

เพราะตอนนี้ต่อให้ชุมนุมไปอีกร้อยวัน มันก็ไม่ส่งผลอะไรต่อการเมืองแล้ว กลายเป็นคนกลุ่มหนึ่่งไปรวมตัวกันในตึกๆ หนึ่งเท่านั้นแล้ว ไม่ส่งผลกดดันต่อการเมืองอะไรอีกแล้ว





ผมได้ยินข่าวเหมือนกันว่า พล.ต.จำลอง ศรีเมือง ก่อนออกไปเลือกตั้ง เพื่อให้โดนจับ ได้ "ทิ้งจดหมาย" ไว้ให้กับมวลชนที่ทำเนียบด้วย

นี่เป็นการใช้แผนเดียวกับพฤษภาทมิฬเด๊ะเลยครับ สมัยพฤษภาทมิฬ พล.ต.จำลอง ก็ชอบใช้วิธีเขียนจดหมาย เพื่อทิ้งไม้ตาย (แต่ก็ไม่สำเร็จสักที) นี่เป็นการเอาแผนเดิม วิธีเดิมมาใช้ครบแทบทุกอย่างเลยทีเดียว


พล.ต.จำลองเป็นขุนศึกที่หมดยุคแล้ว เป็นขุนพลที่ล้าสมัยแล้ว

เป็นขุนศึกยุคอนาล็อก แต่พยายามที่จะก่อสงครามยุคดิจิตอล ทุกอย่างคิดและทำ โดยไม่เข้าใจมวลชนยุคดิจิตอล

ผมว่าการโดนจับครั้งนี้จะไม่ส่งผลอะไร อย่างมากก็ฮือฮาอยู่ไม่นานนัก แล้วก็โดนขังไป

ถึงสันติอโศกจะระดมคนมา ผมว่าก็ไม่มีปัญหาอะไรมากนัก แต่ไม่สามารถสร้างอารมณ์ร่วมจากคนทั่วไปได้อย่างแน่นอน

หากระดมมาได้ไม่เกิน 30,000 คน หรือแม้แต่ 50,000 คน ก็ไม่มีความหมายทางการเมืองมากนัก หากไม่สามารถเรียกประชาชนจากกรุงเทพฯ ลงไปร่วมเหมือนกับช่วงพฤษภาทมิฬฯ ได้มันก็ไม่มีความหมายอะไรมากนัก

และผมคิด ว่ารัฐบาลก็ชินกับม็อบแล้วครับ ต่อให้เอาคนมาเป็นแสน ก็คงไม่มีความหมายอะไร รัฐบาลก็ไม่ปราบ อยากไปไหนก็ไป อย่างชุมนุมกันต่อก็ชุมนุมไป

สังคมไทย "ไม่ตื่นเต้น" กับม็อบแล้วครับ

ไม่มีการนองเลือด ไม่มีบานปลาย ไม่มีการปราบ และไม่มีใครทำตามม็อบเหมือนกันครับ

อยากชุมนุมก็ชุมนุมไปครับ

มันหมดยุค "ม็อบจัดตั้งแล้วครับ" สังคม "มีภูมิคุ้มกันม็อบไปแ้ล้วครับ
หรือจะเรียกได้ว่า สังคมไทยดื้อยา กับม็อบแล้วครับ

อารมณ์คนตอนนี้ “เบื่อม็อบพันธมิตร” เหมือนที่ บก.ลายจุด กำลังรณรงค์แจกแผ่นป้ายเบื่อม็อบพันธมิตรนั่นแหละครับ เพราะสิ่งที่พวกนี้เรียกร้อง มันไม่ได้นำสังคมนี้ออกไปสู่ที่ใด เป็นข้อเรียกร้องที่ใครก็ให้ไม่ได้ เพราะสังคมกลุ่มใหญ่ไม่ยอมรับ ต่อให้รัฐบาลเจรจากับคนกลุ่มนี้ รัฐบาลก็ไม่สามารถให้สิ่งที่คนพวกนี้ต้องการได้อีกเหมือนกัน

ข้อเรียกร้องของ พันธมิตร เรื่องการเมือง “แบบย้อนยุค” ระบบ 70/30 ระบอบแต่งตั้ง” มันไม่ใช่สิ่งที่รัฐบาลหรือใครจะให่ได้ มันต้องเป็นทั้งสังคมนี้ เห็นชอบด้วย


ดังนั้นการโดนจับของ พล.ต.จำลอง ครั้งนี้ ผมไม่คิดว่าจะสร้างเงื่อนไขความวุ่นวายให้กับสังคมไทยเพิ่มขึ้นอีก เพราะแค่นี้มันก็วุ่นวายมามากพอแล้ว จนคนเบื่อหน่ายกันแล้ว

แต่หากเราไม่ประมาทศัตรูมากเกินไป ผมก็จะประเมินเกมนี้ว่า เป็นการ "สร้างเวทีเพื่อเจรจากับ พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ" ครับ

คือ พล.ต.จำลอง เดินเกมให้โดนจับ เพื่อจะได้ระดมม็อบมาอีกครั้งหนึ่ง จะได้เท่าไหร่ก็แล้วแต่ ขอให้ได้ประมาณ 20,000-30,000 คนขึ้นไปก็พอ เมื่อมีม็อบมา พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ ก็จะได้ถือโอกาสขอเจรจา แล้วยอมรับเ้งื่อนไขบางอย่างของ พันธมิตร

หากเกมเป็นแบบนี้ พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ คือ "นกต่อ" ของพวก "ศักดินาอำมาตยาธิปไตย" นั่นเองครับ มันก็อยู่้ที่ว่าฝ่ายรัฐบาลจะยอมได้เท่าไหร่เท่านั้น

จาก thaifreenews

ข่าวส่งเสริมคนดี

จำนวนผู้เข้าเยี่มมชม

link to affordable web hosting
Powered by web hosting provider .

สถิติการเข้าชม DMNEWS

eXTReMe Tracker