สืบเนื่องจากปัญหาความวุ่นวายทางการเมืองในประเทศ ที่สร้างความอึมครึมให้กับสังคมไทยในช่วงหลายปีที่ผ่านมา ทำให้ประชาชนคนไทยรู้สึกตึงเครียดและไม่สบายใจ รวมทั้งพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวก็ทรงไม่สบายพระทัยกับเหตุการณ์วุ่นวายทางการเมืองเช่นกัน ชวนคนไทยเขียน จ.ม.ถึงในหลวง เมื่อเวลา 09.00 น. วันที่ 22 ต.ค. ที่หอประชุมมหิศร ธนาคารไทยพาณิชย์สำนักงานใหญ่ ม.ร.ว.ดิศนัดดา ดิศกุล ผอ.โครงการพัฒนาดอยตุง มูลนิธิแม่ฟ้าหลวงในพระบรมราชูปถัมภ์ ได้ให้สัมภาษณ์ผู้สื่อข่าวว่า ในปีนี้คณะกรรมการโครงการ “ปิดทองหลังพระ” ที่ประกอบด้วย ตัวแทนองคมนตรี ตัวแทนหน่วยงานภาครัฐและเอกชน ได้ร่วมมือกันในการจัดกิจกรรม เพื่อถวายเป็นพระราชกุศล เนื่องในวโรกาสเฉลิมพระชนมพรรษาครบ 7 รอบ ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ในวันที่ 5 ธ.ค. 2551 โดยเสนอโครงการ “หนึ่งล้านกิจกรรมถวายในหลวง” ร่วมกันจัดกิจกรรมต่างๆ เน้นการดำเนินตามแนวทางพระราชดำริ ที่พระราชทานไว้ ในการแก้ไขปัญหาดิน น้ำ และป่าอย่างครบวงจร โดยใช้รากฐานของความเข้าใจ เข้าถึงและพัฒนา ซึ่งประชาชนสามารถทำได้ในทุกพื้นที่ นอกจากนี้ยังจะเปิดโอกาสให้ประชาชนเขียนจดหมายส่งถวายแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว โดยตรงว่า หลังจากการดำเนินกิจกรรมตามแนวทางพระราชดำริแล้วชีวิตดีขึ้นอย่างไรบ้าง ที่ผ่านในหลวงไม่เคยมีความสุข “เมื่อทรงอ่านจดหมายที่ประชาชนส่งมาถวายพระองค์แล้ว จะได้ทรงดีพระทัย ที่เห็นประชาชนของพระองค์มีความสุข เพราะตลอดสี่สิบห้าปีที่ผ่านมา ท่านทรงไม่มีความสุขเลย ทรงเสียพระมารดา เสียพระภคินี และยังมีเหตุการณ์วุ่นวายทางการเมืองในบ้านเมืองอีก โครงการกว่าสี่พันโครงการที่ทรงตรากตรำมาโดยตลอด อยากจะถามหน่อยว่า พระองค์ทรงทำเพื่อครอบครัวของพระองค์ท่านหรือไม่ แต่ทุกอย่างทรงทำเพื่อประชาชนทุกคนของพระองค์ทั้งสิ้น และในโอกาสนี้เราทุกคนจะทำเพื่อพระองค์ท่านบ้างได้หรือไม่ ในกิจกรรมต่างๆที่เป็นประโยชน์ จะทำเป็นของขวัญให้พระองค์ในวโรกาสสำคัญบ้างไม่ได้เชียวหรือ” ม.ร.ว.ดิศนัดดากล่าว ทำไมรัฐบาลไม่เอาแบบอย่างไปใช้ ผอ.โครงการพัฒนาดอยตุงกล่าวต่อว่า สำหรับโครงการ “หนึ่งล้านกิจกรรมถวายในหลวง” นี้เป็นโครงการต่อยอดจากโครงการเดิม ในโครงการปิดทองหลังพระ ซึ่งจัดขึ้นเป็นครั้งแรกเมื่อปีที่ผ่านมา โดยการนำประชาชนในประเทศเดินทางมาเรียนรู้แนวทางในโครงการพระราช ดำริ เช่น โครงการแก้น้ำเสียที่แหลมผักเบี้ย ที่ จ.เพชรบุรี ซึ่งเป็นการนำเดินทางทัวร์การศึกษา เพื่อให้ประชาชนได้เรียนรู้ วิธีแก้ไขปัญหาของพระองค์ท่าน และโครงการนี้เกิดขึ้นเมื่อปีที่แล้ว โดยมีเป้าให้คนมาดูจำนวนประมาณ 1 ล้านคน แต่ปรากฏว่าได้ความสำเร็จเกินคาด มีประชาชนเดินทางมาดูหลายล้านคน ทั้งนี้ การที่มีการริเริ่มโครงการเหล่านี้ เพราะคณะทำงานมีความสงสัยกันว่า ทำไมที่ผ่านมารัฐบาลไม่เคยมาดูแนวทางโครงการพระราชดำริของพระองค์ท่านเป็นแบบอย่างเลย ว่าพระองค์ทรงใช้วิธีแก้ไขปัญหาอย่างไร ไม่เคยคิดที่จะเอาแบบอย่างที่ดีมาใช้ มุ่งแต่จะใช้งบประมาณมหาศาล เพราะหากดำเนินการตามแนวทางพระราชดำริ แล้ว ก็ไม่จำเป็นต้องใช้งบประมาณมาก พระราชทานดอกไม้เยี่ยม “สมัคร” ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 10.00 น. วันเดียวกัน พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้นายธานินทร์ กรัยวิเชียร องคมนตรี เป็นผู้แทนพระองค์ อัญเชิญดอกไม้พระราชทานเยี่ยมไข้มามอบให้แก่นายสมัคร สุนทรเวช อดีตนายกฯ ที่เข้าพักรักษาตัวที่โรงพยาบาลบำรุงราษฎร์ ทั้งนี้คนใกล้ชิดนายสมัครเปิดเผยว่า ก่อนหน้านี้ สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ก็ได้ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯให้ท่านผู้หญิงฉัตรแก้ว นันทาภิวัตน์ อัญเชิญดอกไม้พระราชทานมา รวมทั้งพระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าโสมสวลี พระวรราชาทินัดดามาตุ ทรงพระกรุณาให้ราชเลขานุการส่วนพระองค์อัญเชิญแจกันดอกไม้มาเยี่ยมไข้อดีตนายกฯด้วย ซึ่งครอบครัวสุนทรเวชทุกคนรู้สึกซาบซึ้งในพระมหากรุณาธิคุณและพระกรุณาธิคุณในครั้งนี้อย่างหาที่สุดมิได้ ส่วนอาการล่าสุดนั้น นายสมัครมีอาการดีขึ้นโดยลำดับ ออกกำลังกาย ได้เล็กน้อย แต่ยังต้องอยู่ในความดูแลของคณะแพทย์อย่างใกล้ชิดต่อไป
อ่านรายละเอียดต่อ ไทยรัฐ