บล็อคข่าวส่งเสริมคนดี (รักดีหามจั่ว รักชั่วหามเสา หามจั่วก็หนักนะ)

ข่าวจากสื่อ

บทความจากสื่อ

วันเสาร์ที่ 11 ตุลาคม พ.ศ. 2551

กลุ่มคนไทยให้กำลังใจตำรวจที่ \"กล้า\" ปฏิบัติหน้าที่

วิเคราะห์ข่าวจากหนังสือพิมพ์


17:16 น.

เวลา 15.00 น. ตัวแทนกลุ่มพลังชาวไทยในประเทศสหรัฐอเมริกา กลุ่มชาวไทยในสหภาพยุโรป กลุ่มนักรบไซเบอร์ กลุ่มกรรมกรปฏิรูป ประมาณ 50 คนนำโดยนายธาดล สุนทรจินดา นายสุนทร พฤกษพิพัฒน์ และนางบังอร แสงงาม มอบช่อดอกไม้ให้กำลังใจ พล.ต.ท.สุชาติ เหมือนแก้ว ผบช.น. พร้อมสนับสนุนการปฏิบัติหน้าที่ของตำรวจทุกหน่วยในการดูแลความสงบเรียบร้อยรักษาความปลอดภัยพื้นที่อย่างเต็มที่และออกแถลงการณ์ให้ตำรวจไทยรักษากฎหมายให้มีความศักดิ์สิทธิจนถึงที่สุด

พล.ต.ท.สุชาติ กล่าวภายหลังรับมอบดอกไม้จากผู้มาให้กำลังใจถึงการเคลื่อนไหวผู้ชุมนุมพันธมิตรฯที่จะเดินทางไปกดดันเจ้าหน้าที่ตำรวจในวันที่ 13 ต.ค.ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติซึ่งตรงกับวันครบรอบสถาปนาตำรวจว่า เป็นสิทธิที่สามารถทำได้แต่เป็นห่วงว่า หากเดินทางกันมาเป็นจำนวนมากเกรงว่าจะมีมือที่ 3 เข้ามาแทรกแซงสถานการณ์ทำให้ไม่ปลอดภัยได้ซึ่งต้องหารือมาตรการดูแลความปลอดภัยให้เข้มข้นมากขึ้น ส่วนการชุมนุมใหญ่ของ นปช.วันที่ 14 ต.ค.ภายในบริเวณท้องสนามหลวงนั้น จะป้องกันอย่างเต็มที่ไม่ให้สองฝ่ายปะทะกัน ตำรวจจะอยู่ตรงกลางเป็นโล่มนุษย์ผลักดันไม่ให้มีการเผชิญหน้ากันเพื่อความปลอดภัยทั้งสองฝ่าย ขณะเดียวกันได้ประสานกำลังทหารเข้ามาเสริมการปฏิบัติ เนื่องจากที่ผ่านมากำลังตำรวจทั้งเหนื่อยและล้ามานานแล้วประกอบกับมีหลายภารกิจที่ต้องทำไม่ใช่ดูแลผู้ชุมนุมอย่างเดียวยังมีหน้าที่ในการป้องกันปราบปรามอาชญากรรมด้วย

พล.ต.ท.สุชาติกล่าวถึงกรณีที่สังคมประณามว่าตำรวจทำเกินกว่าเหตุจากภาพที่ปรากฏในสื่อฯต่างๆพบเห็นตำรวจกำลังเล็งกระบอกปืนไปยังรถยนต์กระบะขณะที่คนร้ายกำลังขับรถ 4 ประตูพุ่งชน ร.ต.ท.เกรียงไกร กิ่งสามี รอง สวป.สน.เตาปูน จนได้รับบาดเจ็บสาหัส บริเวณสี่แยกพิชัยว่า จากการสอบสวนข้อเท็จจริงพบว่าตำรวจคนดังกล่าวกำลังเล็งอาวุธปืนเพื่อหวังยิงยางรถสกัดไม่ให้รถวิ่งชนเจ้าหน้าที่ตำรวจนายนั้นจริง แต่ยังไม่มีการยิงออกไปแต่อย่างใด หากมีการตั้งคณะกรรมการตรวจสอบในเรื่องนี้ตำรวจก็พร้อมนำพยานหลักฐานชี้แจงได้แน่นอน

นอกจากนี้พล.ต.ท.สุชาติ ยังกล่าวถึงการใช้แก๊สน้ำตาของเจ้าหน้าที่ตำรวจว่า ขอยืนยันอีกครั้งว่า เป็นการปฏิบัติตามหลักสากลทั่วโลกที่เขาทำกันในการเข้าสลายการชุมนุมซึ่งถือเป็นขั้นตอนสุดท้าย เพราะก่อนหน้านี้เราดำเนินการในทุกขึ้นตอนตามลำดับมาโดยตลอดตั้งแต่การประกาศแจ้งเตือนขอร้องให้ผู้ชุมนุมออกจากพื้นที่แต่ก็ไม่เป็นผล

ขั้นตอนที่สองการใช้รถน้ำฉีดสลายซึ่งขณะนั้นรถน้ำดับเพลิงไม่ได้อยู่ในความควบคุมดูแลของตำรวจเรามีการประสานขอไปแล้วแต่ กทม.บอกว่าไม่อยู่ในอำนาจหน้าที่ที่จะต้องสลายการชุมนุม จนเข้าสู่ขั้นตอนที่ 3 การใช้โล่ดัน ตรงนี้ผู้บังคับบัญชาพิจารณาแล้วว่าหากใช้โล่ดันในขณะนั้นซึ่งสถานการณ์กำลังอยู่ในภาวะรุนแรงก็เป็นการเสี่ยงต่อการปะทะกันระหว่างตำรวจกับผู้ชุมนุมจะส่งผลให้มีผู้บาดเจ็บมากกว่านี้ จึงตัดสินใจดำเนินการในขั้นตอนสุดท้ายคือ การยิงแก๊สน้ำตา

“ การยิงแก๊สน้ำตานั้นก็มีหลายวิธีทั้งวิถีแนวราบและวิถีแนวโค้ง ซึ่งต้องตรวจสอบกันอีกทีว่า เหตุใดจึงยิงแนวราบ ซึ่งต้องมีคนกลางทำการสอบสวนในเรื่องนี้ ตำรวจพร้อมให้ความร่วมมือทุกอย่าง แต่หากให้ตำรวจมาสอบสวนกันเองสังคมก็จะมองว่าไม่มีความเชื่อถืออีก จึงจำเป็นต้องมีคนกลางเพื่อความโปร่งใสตรวจสอบได้ อย่างไรก็ตามยังตอบไม่ได้ว่า จากนี้ไปตำรวจจะใช้แก๊สน้ำตาอีกหรือไม่ ทุกอย่างขึ้นอยู่กับสถานการณ์ที่เกิดขึ้น ผมยืนยันตรงนี้ได้เลยว่าตำรวจจะใช้วิธียิงแก๊สน้ำตาเป็นวิธีการสุดท้ายเท่านั้น “ ผบช.น.กล่าวในที่สุด

จาก thaifreenews

ข่าวส่งเสริมคนดี

จำนวนผู้เข้าเยี่มมชม

link to affordable web hosting
Powered by web hosting provider .

สถิติการเข้าชม DMNEWS

eXTReMe Tracker