วิเคราะห์ข่าวจากหนังสือพิมพ์ศาลอุทธรณ์มีคำสั่งเพิกถอนหมายจับ 9 แกนนำพันธมิตรฯ ในข้อหากบฏ และสะสมกำลังพล และสมคบกันเป็นกบฏแล้ว คงไว้แต่ข้อหาบุกรุกสถานที่ราชการและข้อหาก่อความไม่สงบ รวม 3 ข้อหา
ศาลอาญานัดอ่านคำสั่งศาลอุธรณ์ กรณีทนายความพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ยื่นคำร้องเพิกถอนหมายจับ 9 แกนนำพันธมิตรฯในข้อหากบฎ ศาลอาญา รัชดาภิเษกนัดอ่านคำสั่งศาลอุธรณ์กรณีทนายความพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ยื่นคำร้องเพิกถอนหมายจับ 9 แกนนำพันธมิตรฯในข้อหากบฎที่ห้องพิจารณาคดี 714 นายสุวัฒน์ อภัยภักดิ์ ทนายความพันธมิตรฯ กล่าวว่า หากศาลมีคำสั่งเพิกถอนหมายจับในข้อหากบฎก็จะนำตัวผู้ต้องหาที่เหลือทั้ง 7 คน ประกอบด้วย นายสนธิ ลิ้มทองกุล นายพิภพ ธงไชย นายสุริยะใส กตะศิลานายอมร อมรรัตนนนท์ นายเทอดภูมิ ใจดี นายสมศักดิ์ โกศัยสุขและนายสมเกียรติ พงษ์ไพบูลย์ เข้ามอบตัวกับตำรวจแต่หากศาลยกคำร้องก็จะยื่นฎีกาต่อไป สำหรับบรรยากาศที่ศาลอาญาวันนี้แม้ว่าจะมีการดูแลรักษาความปลอดภัยของเจ้าหน้าที่แต่ไม่เข้มงวดเหมือนทุกครั้งที่ผ่านมา ซึ่งอาจเป็นเพราะแกนนำพันธมิตรฯได้สั่งห้ามผู้ชุมนุมมาฟังคำสั่งที่ศาล ล่าสุดศาลอุทธรณ์มีคำสั่งเพิกถอนหมายจับ 9 แกนนำพันธมิตรฯ ในข้อหากบฏ และสะสมกำลังพล และสมคบกันเป็นกบฏแล้ว คงไว้แต่ข้อหาบุกรุกสถานที่ราชการและข้อหาก่อความไม่สงบ รวม 3 ข้อหา เนื่องจากศาลเห็นว่าหมายจับเดิมมีการตั้งข้อกล่าวหาบางข้อที่เลื่อนลอย และยังไม่มีเหตุอันควรให้ออกหมายจับตามข้อหาดังกล่าว แต่ข้อกล่าวหาอื่นจากการไต่สวนรับฟังได้ว่าสิ่งที่จำเลยกระทำมีความผิดจริง เช่น การชุมนุมดังกล่าวเป็นเหตุให้ประชาชนได้รับความเดือดร้อน ทั้งนี้ศาลเห็นว่าอุทธรณ์ของจำเลยฟังขึ้นบางส่วน ดังนั้น ศาลจึงให้พิพากษาแก้ เป็นการให้เพิกถอนหมายจับเดิมจำเลยทั้ง 9 เฉพาะข้อหาความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 113, 114 และ 216 ส่วนข้อหาอื่น ๆ นอกเหนือจากนั้น ให้คงเป็นไปตามคำสั่งศาลชั้นต้นที่อนุมัติหมายจับไว้ และให้ยกคำร้องของกลุ่มพันธมิตรฯ ที่ขอให้ระงับการบังคับคดีตามหมายจับดังกล่าว |
จาก thaifreenews