บอกตรง ๆ ไม่อยากข้องแวะกับพรรคประชาธิปัตย์ กลัวน่ะ ไม่มีอะไร แต่เห็นบทบาทของพรรคที่ได้ชื่อว่า สถาบันหลักทางการเมืองแล้ว อนาถใจจริง ๆ อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นำทีมบอยคอต ไม่เข้าประชุมวันอภิปรายงบประมาณ 7 ตุลาคม ซึ่งเป็นวันที่มีการสลายม็อบ
ทั้งเป็นหน้าที่ฝ่ายค้านที่ต้องตรวจสอบการใช้งบประมาณรัฐบาล
อภิสิทธิ์อ้างว่า ไม่อาจเดินข้ามกองเลือดได้ แถมโหนกระแสถล่มตำรวจยับว่า เป็นฆาตกรฆ่าประชาชน แต่จงใจไม่พูดถึงการกระทำที่ผิดกฎ หมาย ยึดทำเนียบ และยังจะยึดสภา จนแทบไม่ต่างจากบ้านป่าเมืองเถื่อน
อภิสิทธิ์คงลืมไป พฤษภาทมิฬ 35 พล.ต.จำลอง ศรีเมือง ซึ่งบัดนี้ได้เปลี่ยนอุดมการณ์ไปจนไม่เหลือคราบคนเดิม เป็นแกนนำพาคนไปตาย รักษาหลักการ นายกรัฐมนตรีต้องมาจากการเลือกตั้ง
นอกจากจำลอง ก็มี เรืออากาศตรี ฉลาด วรฉัตร วีรบุรุษประชาธิปไตยตัวจริง เสียงจริงตลอดกาล ที่ร่วมขับไล่รัฐบาล “สุจินดา” แต่ขอโทษเถอะ ไม่มีคนของ ปชป. ร่วมต่อสู้ แม้แต่คนเดียว หนำซ้ำ หลังสถานการณ์สงบลงด้วยพระบารมี มีเลือกตั้งใหม่ ปชป. ของอภิสิทธิ์นี่แหละ
ติดป้ายทั่วกรุง ไม่เอาอนาธิปไตย (กรณี ชุมนุม จำลองพาคนไปตาย) ขณะที่ขึ้นป้ายตัวเบ้อเร่อ ปชป. ยึดมั่นระบบรัฐสภา แล้วก็ได้เป็นรัฐบาล ท่ามกลางเลือดเนื้อและซากศพของวีรชน ไม่รู้กี่สิบกี่ร้อยคน ???
ย้อนกลับไป ก็พรรคนี้แหละ บอยคอตการเลือกตั้งใหญ่ เมื่อ ปี 48 ทั้งที่เป็นหน้าที่ของพรรคการเมืองที่ต้องส่งผู้สมัครลงเลือกตั้ง แล้วก็เกิดปฏิวัติ 19 ก.ย. 49 อภิสิทธิ์ อีกแหละ ขอนายกฯ พระราชทานตาม ม.7
ล่าสุด อภิสิทธิ์ ยังนำทีม บอยคอต ไม่ประชุม 4 ฝ่าย รัฐบาล ฝ่ายค้าน สภาผู้แทน วุฒิสภา เพื่อแก้วิกฤติประเทศ แก้รัฐธรรมนูญมาตรา 291 เปิดทางให้มี ส.ส.ร. 3 แก้ไขรัฐธรรมนูญปิศาจคาบไปป์
รู้ทั้งรู้ รัฐธรรมนูญ 2550 เป็นผลพวงของเผด็จการ มีเจตนารมณ์ ทำลายพรรคการเมือง นักการเมือง และระบบประชาธิปไตย สุด ๆ แต่ตัวเองถูกกันให้อยู่ขบวนการสืบทอดอำนาจ คมช. ต่อ เลยต้านสุดฤทธิ์
นี่คือบทบาทของพรรคที่ได้ชื่อว่า เป็นเสาหลักการเมืองไทย ก็เพราะอย่างนี้แหละ ต่อให้พลังประชาชนจะถูกยุบอีกกี่ครั้ง เรตติ้งประชาธิปัตย์จึงไม่ขึ้น จนต้องหา “ตัวช่วย” เล่นนอกระบบอยู่ร่ำไป
อุตส่าห์ออกมาตอบโต้เผ็ดร้อน ตอน อ.โกร่ง ดร.วีรพงษ์ รามางกูร เขียนบทความ ลือลั่นสนั่นเมือง วิจารณ์ว่า ปชป. ดีแต่ทำตัวเป็น ทาร์ซาน เที่ยวโหนเผด็จการเพื่อเป็นใหญ่ แต่ผิดเสียที่ไหนเล่า
ล่าสุด 4 เหล่าทัพในเครื่องแบบเต็มยศ ปฏิวัติหน้าจอ ผบ.ทบ. พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา ขู่ฟ่อ สมชาย วงศ์สวัสดิ์ “เป็นผมลาออกไปแล้ว จะอยู่ทำไม บ้านเมืองเสียหาย” ไล่กันตรง ๆ นั่นแหละ แต่ จงใจไม่พูดถึงการกระทำที่เย้ยกฎหมายบ้านเมือง ยึดทำเนียบ บุกเอ็นบีที ปลุกระดมสร้างความแตกแยก ยึดสภา ของฝ่ายพันธมิตรฯ
ขณะที่ตำรวจที่รักษากฎ หมาย กลายเป็นฆาตกร ใช่ น่าเสียใจที่มีคนล้มตาย และบาดเจ็บมากกรณี 7 ตุลา แต่เมื่อฝ่าย นปช. ถูกรุมทำร้ายอย่างเหี้ยมโหดจนตาย และบาดเจ็บอีกไม่น้อย กรณี 2 กันยา ทหารกลับเย็นชามาก นี่คือความไม่เป็นธรรม
เมื่อรัฐบาลนี้มาจากการเลือกตั้งของประชาชน ถ้าจะไปก็ควรไปเพราะเสียงส่วนใหญ่ของประชาชนไม่ต้องการแล้ว ไม่ควรไปเพราะพวกอนาธิปไตย หรือแม่ทัพนายกอง ที่ออกมาขู่ ถูกต้องแล้ว ที่ นายกฯ ยืนยันไม่ออก จนกว่าผลสอบ คกก. อิสระ จะมีบทสรุปว่า ใครผิดในเหตุการณ์ 7 ต.ค.
เพราะถ้านายกรัฐมนตรียังยอมอ่อนข้ออีก ก็ไม่ควรเป็นผู้บริหารประเทศเช่นกัน.
ดาวประกายพรึก