ภายหลังจากเหตุการณ์เจ้าหน้าที่ตำรวจ ได้เข้าสลายการชุมนุมของกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยที่ปิดล้อมทางเข้ารอบที่ทำการรัฐสภา โดยใช้กำลังพร้อมด้วยแก๊สน้ำตา ทำให้เกิดเหตุการณ์ปะทะรุนแรงและมีคนเสียชีวิตและบาดเจ็บอีกนับร้อยคนนั้น เรื่องนี้ทำให้เกิดกระแสต่อต้านและคัดค้านความรุนแรงเกิดขึ้นในบุคคลหลายฝ่ายหลายกลุ่ม
“สมชาย” ชี้แจงทูตประกาศยึดหลัก ปชต.
เมื่อวันที่ 8 ต.ค. เวลา 09.30 น. ที่กระทรวงการต่างประเทศ นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม ได้เดินทางมายังกระทรวงการต่างประเทศ ให้การต้อนรับคณะทูตานุทูต 67 ประเทศ และหัวหน้าสำนักงานองค์การระหว่างประเทศ ประจำประเทศไทย ซึ่งมีเอกอัครราชทูตประจำประเทศไทยร่วมด้วย 48 ประเทศ พร้อมเลี้ยงอาหารในโอกาสเข้ารับตำแหน่งนายกรัฐมนตรีคนที่ 26 ของประเทศไทย ทั้งนี้ นายกฯได้กล่าวสุนทรพจน์ ตอนหนึ่งว่า “รัฐบาลของข้าพเจ้า ถือเป็นภาระหน้าที่ที่จะสร้างความเชื่อมั่นต่อระบอบการเมืองไทย โดยจะยึดมั่นในหลักการปกครองระบอบประชาธิปไตยในระบบรัฐสภา และหลักแห่งกฎหมาย รัฐบาลจะแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นภายในประเทศ ด้วยวิถีทางประชาธิปไตย และจะบริหารประเทศอย่างดีที่สุด เพื่อให้บรรลุความปรารถนาของประชาชนไทย ในการเสริมสร้างความเป็นปึกแผ่น และความปรองดองสมานฉันท์ ประเทศไทยจะเป็นสังคมที่มีความเข้มแข็ง และสามารถผ่านมรสุมทางการเมืองในอดีตที่ผ่านมาอย่างมั่นคง
กระทั่งเวลา 10.00 น. ทางเจ้าหน้าที่ และตำรวจรักษาความปลอดภัยนายกฯ ได้รับรายงานว่า กลุ่มพันธมิตร ประชาชนเพื่อประชาธิปไตย จะเดินทางมายังกระทรวงการต่างประเทศ ทำให้นายสมชายต้องรีบปฏิบัติภารกิจให้เสร็จก่อนเวลาที่วางไว้ และออกจากกระทรวงไปในเวลา 10.30 น. โดยไม่ให้สัมภาษณ์ใดๆ
นายกฯเยี่ยม ตร.เหยื่อเหตุการณ์สลายผู้ชุมนุม
จากนั้นเวลา 10.50 น. นายกรัฐมนตรีเดินทางมายัง โรงพยาบาลตำรวจ เพื่อเยี่ยมตำรวจที่ได้รับบาดเจ็บจาก การปฏิบัติหน้าที่สลายกลุ่มผู้ชุมนุมบริเวณหน้ารัฐสภา ซึ่งพักฟื้นอยู่ 5 นาย ประกอบด้วย พล.ต.ต.โกสินธ์ บุญสร้าง รอง ผบ.ตชด. ร.ต.ต.ภิญโญ สาระทอง ส.ต.ต. จักรพงษ์ แท่งทองหลาง สังกัด ด.ต.ณัฐนนท์ ศุภมงคลเจริญ ด.ต.เสก ตราเงิน กองกำกับ 2 บก.ตปท.บชน. ทั้งนี้นายกฯได้พูดคุยกับ ด.ต.ณัฐนนท์ ศุภมงคลเจริญ ที่ได้รับบาดเจ็บไหปลาร้าหักว่า ขอให้หายเร็วๆ ขอบคุณ และภูมิใจที่ตำรวจมีความเสียสละและช่วยกันรักษาสถาบัน รักษาความสงบที่เกิดจากผู้ไม่หวังดี ทำให้เกิดความวุ่นวาย วันนี้ไม่ได้มาเยี่ยมเพื่อเอาหน้าเอาตา ตนเองก็มีพี่ชายเป็นตำรวจ รู้สึกสะเทือนใจต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น และพร้อมแก้ไขปัญหาต่อไป ขอให้ ผบ.ตร.ดูแลเรื่องค่ารักษาพยาบาลอย่างเต็มที่
อัดพันธมิตรฯติดอาวุธชุมนุมรุนแรง
ต่อมาเวลา 11.30 น. ที่โรงพยาบาลตำรวจ นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม ให้สัมภาษณ์ ว่า วันนี้ได้ไปกระทรวงการต่างประเทศ ได้เชิญทูตที่ประจำอยู่ในประเทศไทยไว้หลายวันแล้ว เพื่อให้ทราบถึงนโยบายการทำงาน และความร่วมมือระหว่างประเทศในโอกาสที่มีนายกฯใหม่ เพื่อกระชับความเป็นมิตรให้แน่นแฟ้นยิ่งขึ้น และมั่นใจว่ารัฐบาลสามารถทำงานได้ ซึ่งเรายึดหลักกฎหมายและกระบวนการยุติธรรม การมาที่โรงพยาบาลตำรวจ ไม่ได้ มาเยี่ยมเฉพาะตำรวจ แต่มาเยี่ยมทั่วๆไปที่ได้รับบาดเจ็บ ผู้สื่อข่าวถามว่า สถานการณ์ที่เกิดขึ้นจะสร้างความสมานฉันท์ ให้กับบ้านเมืองได้อย่างไร นายสมชายตอบว่า จะเห็นว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อวานนี้ ทั้ง ส.ส. และ ส.ว.เข้าไปประชุมในสภา และมีคนที่จะบุกรุกเข้ามา มีความวุ่นวายอย่างที่เห็น เมื่อถามว่า แผนปฏิบัติการที่ใช้เหตุใดจึงทำให้เกิดความสูญเสียทั้ง 2 ฝ่าย นายกฯตอบว่ามันไม่ใช่การปฏิบัติ อะไรที่รุนแรงหรือไม่รุนแรง สถานการณ์เมื่อวานมีความพยายามที่จะยึดสภา การใช้แก๊สน้ำตาของตำรวจถือเป็นเรื่องสากลในการระงับเหตุจลาจล ส่วนตำรวจที่ได้รับบาดเจ็บเหตุเพราะถูกปืนยิง ถูกแทง เหล็กแหลมบ้าง เสาธงบ้าง ทำให้เห็นว่าผู้ที่มาชุมนุมไม่ได้ชุมนุมโดยสงบ แต่มีการทำร้ายอย่างนั้น ส่วนที่ได้รับบาดเจ็บจากการยิงแก๊ส น้ำตานั้น ทางแพทย์ได้แถลงแล้วว่า แก๊สน้ำตาไม่ได้ ทำให้สูญเสียอวัยวะหรืออะไร
อ่านรายละเอียดต่อ ไทยรัฐ