บล็อคข่าวส่งเสริมคนดี (รักดีหามจั่ว รักชั่วหามเสา หามจั่วก็หนักนะ)

ข่าวจากสื่อ

บทความจากสื่อ

วันพุธที่ 29 ตุลาคม พ.ศ. 2551

สมรภูมิ ของพันธมิตร ทิศทาง การเมือง การทหาร ฐานที่มั่น ทำเนียบรัฐบาล

คอลัมน์ วิภาคแห่งวิพากษ์

มีความแตกต่างอย่างแน่นอนระหว่างการเคลื่อนไหวของพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย กับการเคลื่อนไหวของศูนย์กลางนิสิตนักศึกษาแห่งประเทศไทย (ศนท.) เมื่อเดือนตุลาคม 2516

แตกต่างอย่างแน่นอนกับการเคลื่อนไหวเมื่อเดือนตุลาคม 2519

แตกต่างอย่างแน่นอนกับการเคลื่อนของสมาพันธ์ประชาธิปไตย เมื่อเดือนพฤษภาคม 2535

แตกต่างตรงวิธีการและกระบวนการของการเคลื่อนไหว

เมื่อเดือนตุลาคม 2516 ศนท.สะสมกำลังโดยมีมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ เป็นฐานที่มั่น แต่ในวันที่ 13 ตุลาคม ก็เคลื่อนไปบนถนนราชดำเนินและประสบความสำเร็จพลันที่สามารถกดดันให้ จอมพลถนอม กิตติขจร ลาออกจากตำแหน่งได้ในวันที่ 14 ตุลาคม

กระนั้น ก็เกิดความเข้าใจผิดอันนำไปสู่การปะทะกัน ณ บริเวณหน้าสวนจิตรลดารโหฐาน

เมื่อเดือนตุลาคม 2519 ศนท.เคลื่อนกำลังจากสนามหลวงไปยืนหยัดอยู่บริเวณสนามฟุตบอลมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ และถูกล้อมปราบ จับกุม และเข่นฆ่าอย่างเหี้ยมโหด

เมื่อเดือนพฤษภาคม 2535 เริ่มต้นที่ท้องสนามหลวงและเคลื่อนขบวนไปบนถนนราชดำเนินกระทั่งมีการปะทะ จับกุม และปราบปรามอย่างรุนแรง

แต่การเคลื่อนไหวของพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย แตกต่างออกไป

ความแตกต่างนั้นดำรงอยู่ภายในความเหมือนอันเป็นจุดร่วมอย่างมีนัยสำคัญทางการเมือง แต่ได้มีการยกระดับไปสู่กระบวนการทางการเมืองซึ่งมีลักษณะกึ่งทหาร

ด้านหลักของ พันธมิตรคือการตรึงกำลังสร้างฐาน

นั่นก็คือ การตรึงกำลังอยู่บริเวณสะพานมัฆวานรังสรรค์ ถนนราชดำเนิน ตั้งแต่เดือนพฤษภาคม 2551

นั่นก็คือ การตรึงกำลังอยู่ในทำเนียบรัฐบาลตั้งแต่เดือนสิงหาคม 2551

ขณะเดียวกัน ด้านรองของพันธมิตรคือการเคลื่อนไหวในลักษณะดาวกระจาย แยกย้ายไปที่ถนนสีลม แยกย้ายไปที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ เป็นต้น

ทั้งๆ ที่พันธมิตรตรึงกำลัง ณ บริเวณสะพานมัฆวานรังสรรค์ตั้งแต่เดือนพฤษภาคม ทั้งๆ ที่พันธมิตรตรึงกำลัง ณ ทำเนียบรัฐบาลตั้งแต่เดือนสิงหาคม แต่พันธมิตรก็ยังตรึงกำลังและยังดำรงจุดมุ่งหมายของตนไม่แปรเปลี่ยน

ไม่มีใครให้คำตอบได้ว่าคำขาดที่พันธมิตรยื่นต่อรัฐบาลจะประสบความสำเร็จเมื่อใด ไม่มีใครให้คำตอบได้ว่าชัยชนะของพันธมิตรจะเป็นเมื่อใด

ความเป็นไปได้ที่เห็นอย่างเด่นชัดก็คือ การต่อสู้ในลักษณะยืดเยื้อและยาวนาน

หากศึกษาบทเรียนจากอดีต ไม่ว่าจะเป็นเมื่อเดือนตุลาคม 2516 ไม่ว่าจะเป็นเมื่อเดือนตุลาคม 2519 ไม่ว่าจะเป็นเมื่อเดือนพฤษภาคม 2535

การตรึงกำลังอยู่ในที่ตั้งเสมอเป็นเพียงจุดเริ่มต้น เป้าหมายคือการสะสมกำลัง

เมื่อสะสมกำลังได้พอสมควร และทดสอบความแน่วแน่มั่นคงของมวลชนได้ในระดับที่แน่นอนหนึ่งก็จะเริ่มเคลื่อนขบวน

การตรึงกำลังอยู่ในที่ตั้งอย่างเมื่อเดือนตุลาคม 2519 คือหายนะ

น่าสนใจก็ตรงที่การเคลื่อนไหวของพันธมิตรนับแต่เดือนพฤษภาคม 2551 เป็นต้นมา มีลักษณะการตรึงกำลังสร้างฐานเป็นด้านหลัก การเคลื่อนไหวแบบดาวกระจายเป็นด้านรอง

ไม่ว่าจะเป็นบริเวณสะพานมัฆวานรังสรรค์ ไม่ว่าจะเป็นทำเนียบรัฐบาล

เพราะการตรึงกำลังนั่นเองทำให้พันธมิตรจำเป็นต้องพัฒนาไปสู่การจัดตั้งกองกำลังในแบบนักรบศรีวิชัย ในแบบการ์ดพันธมิตร

ในความเป็นจริง คือ การพัฒนาจากขบวนการทางการเมืองเป็นขบวนการทางทหาร

พัฒนาการนี้เคยมีบทเรียนมาแล้วในกรณีของกองกำลังติดอาวุธของมุสโลลินี เคยมีบทเรียนมาแล้วในกรณีของกองกำลังติดอาวุธของฮิตเลอร์

นี่เท่ากับเป็นพัฒนาการบนพื้นฐานแห่งแนวคิดแบบทหาร

ในทางการรบ มาตรการยึดที่ตั้งสร้างฐานทางเศรษฐกิจสะสมกำลังเพื่อขยายตัวมีความจำเป็น

แต่ในทางการเมือง การเคลื่อนไหวมวลชนในลักษณะสร้างฐานโดยการยึดทำเนียบรัฐบาลโดยการยึดถนน ถือได้ว่าเป็นของใหม่

เป็นของใหม่ซึ่งไม่มีใครคาดหมายได้ว่าที่สุดของการยุทธจะอยู่ ณ จุดใด

ข่าวส่งเสริมคนดี

จำนวนผู้เข้าเยี่มมชม

link to affordable web hosting
Powered by web hosting provider .

สถิติการเข้าชม DMNEWS

eXTReMe Tracker