บล็อคข่าวส่งเสริมคนดี (รักดีหามจั่ว รักชั่วหามเสา หามจั่วก็หนักนะ)

ข่าวจากสื่อ

บทความจากสื่อ

วันจันทร์ที่ 5 ตุลาคม พ.ศ. 2552

งานรำลึก 6 ตุลา ครบรอบ 33 ปี : ประชาธิปไตยสมบูรณ์...?

ที่มา ประชาไท

คนรุ่นใหม่ที่อายุน้อยกว่าสามสิบปีส่วนใหญ่ คงไม่รู้ว่า 6 ตุลา 2519 คืออะไร แต่ในความทรงจำของคนรุ่นก่อน 6 ตุลา หรือคนเดือนตุลา 6 ตุลาอาจเปรียบเช่นเส้นไหมที่สวยงาม รอการถักทอเป็นผืนผ้า หรือเปรียบดั่งลวดหนามที่ร้าวราน บ่งบอกถึงบาดแผลที่เกรอะกรัง
3 ปีที่แล้วเมื่อต้องเผชิญกับสถานการณ์การรัฐประหารครั้งใหม่ เหตุการณ์ 6 ตุลา 2519 ก็มีส่วนช่วยในการปกป้องสังคมไทยมิให้ตกไปเป็นเหยื่อของความรุนแรง
นับตั้งแต่ พ.ศ. 2475 เป็นต้นมา ประเทศไทยได้เปลี่ยนแปลงการปกครองจากระบอบสมบูรณาญาสิทธิราชย์มาเป็นระบอบประชาธิปไตย โดยเชื่อว่าเป็นระบอบการปกครองที่ดีที่สุดรูปแบบหนึ่ง เพราะคำนึงถึงผลประโยชน์ของประชาชนส่วนใหญ่ แต่ก็ไม่ละเลยประโยชน์ของคนส่วนน้อย ระบอบนี้มุ่งเน้นให้ประชาชนมีสิทธิเสรีภาพ และความเสมอภาค รวมทั้งเปิดโอกาสให้ประชาชนเข้ามามีส่วนร่วมในกระบวนการทางการเมือง
หากแต่ว่าการพัฒนาประชาธิปไตยในประเทศไทยที่ผ่านมา 77 ปี ยังคงประสบปัญหาหลากหลายประการที่ทำให้การพัฒนาประชาธิปไตยไม่บรรลุผล ขณะที่ความขัดแย้งสำแดงพลังเป็นฝักเป็นฝ่ายจนกลายปรากฏการณ์แย่งชิงมวลชน แย่งชิงพื้นที่สื่อ
เพราะฉะนั้น วันนี้หากถามว่า ประชาธิปไตยคืออะไร ...ตรงกันข้ามกับประชาธิปไตยคือเผด็จการใช่หรือไม่ …ผลประโยชน์ของประชาชนส่วนใหญ่ได้มารึยัง ประชาชนมีสิทธิเสรีภาพจริงหรือ...ความเสมอภาคมีหน้าตาอย่างไร...ใครกันที่ได้เข้ามามีส่วนร่วมในกระบวนการทางการเมือง?
เมื่อคณะราษฎรทำการปฏิวัติ คำประกาศคณะราษฎรฉบับที่ 1โดยท่านปรีดี พนมยงค์ ได้เขียนไว้ว่า “รัฐบาล......(ก่อนหน้าการปฏิวัติ 2475) กล่าวหมิ่นประมาทราษฎรผู้มีบุญคุณ เสียภาษีอากรให้......ได้กินว่าราษฎรมีเสียงทางการเมืองไม่ได้ เพราะราษฎรยังโง่ ถ้าราษฎรโง่ ......ก็โง่ เพราะเป็นคนชาติเดียวกัน” ประกาศไว้ในราชกิจจานุเบกษา ปัจจุบันมีการกล่าวกันว่าราษฎรไม่ควรมีสิทธิทางการเมือง ไม่ควรได้รับสิทธิเลือกตั้ง 1 สิทธิ์ 1 เสียง เพราะราษฎรโง่
จริงๆ แล้วราษฎรโง่หรือใครโง่กันแน่?
เมื่อ 33 ปีก่อน ไม่ว่าจะเป็นทุนอนุรักษ์นิยม ทุนขุนนาง ขุนศึก ต่างร่วมมือกันเข่นฆ่านักศึกษาประชาชนในเหตุการณ์ 6 ตุลา 2519 ทุกกลุ่มมีความเห็นพ้องต้องกันว่า ไม่ต้องการจะเปลี่ยนแปลงประเทศไทยไปสู่ระบอบใหม่อันเป็นระบอบประชาธิปไตยของคนส่วนใหญ่
พวกเขาชูคำขวัญ “ชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ ” มาสร้างความชอบธรรมในการปราบปราม นักศึกษาประชาชนที่ชุมนุมอย่างสงบในมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ใช้อำนาจป่าเถื่อน ใช้ความรุนแรงเข้าประหัตประหาร เข่นฆ่า จับกุม ตั้งข้อหาสารพัด ทั้งข้อหากบฏ และมีการกระทำอันเป็นคอมมิวนิสต์ ประชาธิปไตยที่เบ่งบานจากการปฏิวัติ 14 ตุลา 2516 จึงตายไปพร้อมๆ กันในเหตุการณ์ 6 ตุลา 2519
เจตนารมณ์ของวีรชน 6 ตุลา ส่วนหนึ่งคือการต่อต้านเผด็จการ ในกรณีจอมพลถนอมบวชเณรกลับเข้าไทย หลังจากถูกขับไล่ออกไปเมื่อ 14 ตุลา แต่แล้วการรัฐประหาร 19 กันยายน ปี 2549 ก็นำเผด็จการทหารกลับมาอีกครั้ง
คำถามคือ ประชาธิปไตยที่ดำรงอยู่ทุกวันนี้เป็นประชาธิปไตยของใคร
เมื่อโลกต้องเผชิญกับวิกฤตทุนนิยม แนวคิดสังคมนิยมกำลังได้รับการรื้อฟื้น แม้ พ.ร.บ. คอมมิวนิสต์จะถูกยกเลิกไปนานแล้ว แต่วันนี้มีการปลุกผีคอมมิวนิสต์ ผ่านสื่อของฝ่ายเสื้อเหลืองและสื่อของรัฐอย่างเป็นระบบ ทั้งๆ ที่ไม่ว่าเสื้อเหลืองหรือเสื้อแดงต่างก็มีสมาชิกเป็นอดีตคอมมิวนิสต์ อดีตคนเข้าป่า มีการเชื่อมโยงถึงการโค่นล้มสถาบันอันเป็นที่เคารพ กฎหมายหมิ่นพระบรมเดชานุภาพถูกนำมาใช้จนกลายเป็นกระแส มีความพยายามยกเลิกอำนาจอธิปไตยของปวงชนไทย
จากหนังสือพิมพ์มติชน ฉบับวันที่ 26 เมษายน 2549 ในหลวงทรงตรัสถึงความหมายของประชาธิปไตยไว้ว่า “..... ขอยืนยันว่า มาตรา 7 ไม่ได้หมายถึงมอบให้พระมหากษัตริย์มีอำนาจที่จะทำอะไรตามชอบใจ ไม่ใช่ มาตรา 7 พูดถึงการปกครองแบบมีพระมหากษัตริย์เป็นประมุข ไม่ได้บอกว่าให้พระมหากษัตริย์ตัดสินใจทำได้ทุกอย่าง ถ้าทำ เขาก็จะต้องว่าพระมหากษัตริย์ทำเกินหน้าที่ ซึ่งข้าพเจ้าไม่เคยขอ ไม่เคยทำเกินหน้าที่ ถ้าทำเกินหน้าที่ก็ไม่ใช่ประชาธิปไตย”
ขณะที่กลุ่มการเมืองฝ่ายหนึ่งกำลังสร้างสถานการณ์นำไปสู่ประชาธิปไตยสมบูรณาญาสิทธิ์ฯ อดีตซ้ายเก่าเหมาอิสต์บางกระแสเสนอว่า ต้องเร่งสร้างประชาธิปไตยนายทุนให้เต็มใบ ทั้งๆ ที่สังคมไทยก็เป็นประชาธิปไตยนายทุนมานานแล้ว ประชาธิปไตยของประชาชนคนยากคนจน คนส่วนใหญ่คงต้องรอไปก่อน...
“ แนวคิดประชาธิปไตยสมบูรณ์ของปรีดี พนมยงค์ กับเจตนารมณ์วีรชน 6 ตุลา 2519” คืออะไร ปาฐกถา ดร.ฐาปนันท์ นิพิฏฐกุล อาจารย์คณะนิติศาสตร์ ธรรมศาสตร์ จะค้นคว้ามานำเสนอ ประกอบกับหนังสือ “เราจะต่อต้านเผด็จการได้อย่างไร” โดย อ.ปรีดี พนมยงค์ในวันอังคารที่ 6 ตุลาคมปีนี้ เวลา 9.30 น.-12.00 น. ณ ห้องแอลที คณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ท่าพระจันทร์
ความขรุขระบนหินรูปเขื่อนสีเลือดเกรอะกรังของชิ้นงานประติมากรรม 6 ตุลา 2519 ที่หน้าหอประชุมใหญ่ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์สะท้อนให้เห็นด้านที่อัปลักษณ์ของสังคมไทย เตือนใจให้จำเหตุการณ์ทารุณโหดร้าย เตือนสติแก่ทุกคนว่า เหตุการณ์เช่น 6 ตุลาจะไม่เกิดขึ้นอีกในอนาคต
6 ตุลาปีนี้ ครบรอบปีที่ 33 แล้ว จึงอาจจะเป็นได้ทั้งวิกฤต และโอกาส
-----------------------------------------------------------------------
หมายเหตุ
- อยากรู้ความจริงเรื่อง 6 ตุลา คลิก www.2519.net
- วิภา ดาวมณี ปัจจุบันเป็นอาจารย์ประจำวิทยาลัยนวัตกรรม มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์
เป็นกรรมการโครงการกำแพงประวัติศาสตร์: ธรรมศาสตร์กับการต่อสู้เพื่อประชาธิปไตย กรรมการเครือข่ายเดือนตุลา และผู้ประสานงานคณะกรรมการรับข้อมูลและสืบพยานเหตุการณ์ 6 ตุลาคม 2519

ข่าวส่งเสริมคนดี

จำนวนผู้เข้าเยี่มมชม

link to affordable web hosting
Powered by web hosting provider .

สถิติการเข้าชม DMNEWS

eXTReMe Tracker