บล็อคข่าวส่งเสริมคนดี (รักดีหามจั่ว รักชั่วหามเสา หามจั่วก็หนักนะ)

ข่าวจากสื่อ

บทความจากสื่อ

วันอาทิตย์ที่ 4 ตุลาคม พ.ศ. 2552

จักรภพ เพ็ญแข : อำมาตย์ไม่หยุด !

ที่มา Thai E-News

จาก คอลัมน์ ผมเป็นข้าราษฎร
หนังสือพิมพ์รายสัปดาห์วิวาทะ Thai Red News ปีที่ 1 ฉบับที่ 18
โดย จักรภพ เพ็ญแข

ผู้ใหญ่หลายท่านเตือนผมว่า ใจเย็นๆ ระบอบอำมาตยาธิปไตย คือสิ่งที่ฝืนกงล้อประวัติศาสตร์อยู่แล้ว รอเวลาอย่างเดียว ฝ่ายประชาธิปไตยก็จะชนะ และคนทุกชั้นในประเทศไทย จะได้รับประชาธิปไตยอันแท้จริง

แทรกไว้ สักนิด เพื่อให้เราตีความ ประชาธิปไตยอันแท้จริงให้ตรงกัน

สำหรับผม คำๆ นี้หมายถึง ระบอบการปกครองที่ประชาชนส่วนใหญ่ หรือปวงชนมีอำนาจสูงสุด โดยไม่มีอำนาจลับหรือเปิดเผยใดๆ สูงไปกว่า

ระบอบประชาธิปไตยที่แท้ ต้องไม่มีเงื่อนไขใดๆ ทั้งสิ้น อำนาจอธิปไตย เป็นของ ประชา โดยไม่ต้องมีวงเล็บอะไรต่อท้าย ถือว่าจบข่าว

ผม อยากจะเชื่อคำเตือนของท่านผู้ใหญ่ใจจะขาด ผมอยากจะคิดอย่างท่านว่า ป่าดงพงไพร ย่อมมีกลไกในการเปลี่ยนแปลงของตนเอง เมื่อใดที่ใบไม้สีเหลืองปลิดร่วงไป ใบไม้สีเขียวใบใหม่ก็จะรับแสงแทน คงไม่มีใครอยากเดินข้ามภูเขาทุรกันดาร ผ่านสิงห์สาราสัตว์และหลุมพราง หากมีถนนดีๆ ให้เดินสู่ที่หมาย

แต่ผมก็ได้รับรู้เรื่องราวแบบที่ จะเล่าต่อไปนี้ ทำให้ปลงใจยาก ทั้งที่เป็นเพียงเรื่องเล็กๆ ในกระแสธารของระบอบอำมาตยาธิปไตยไทยเท่านั้นเอง

เมื่อวันที่ ๒๖ สิงหาคม พ.ศ.๒๕๕๒ ได้มีการตั้งกองพลทหารม้าที่ ๓ ณ ค่ายติณสูลานนท์ จังหวัดขอนแก่นใช้งบประมาณแผ่นดินหนึ่งแสนล้านบาท ในระยะ ๑๐ ปี เฉลี่ยแล้วปีละหนึ่งหมื่นล้านบาท

เสมือน เป็นของขวัญวันเกิดแก่ พลเอกเปรม ติณสูลานนท์ ครบ ๘๙ ปี ซึ่งเป็นของขวัญชิ้นใหญ่ในประวัติศาสตร์ไทย เพราะมีมูลค่าหนึ่งแสนล้านบาทต่อหนึ่งชิ้น ค่าคอมมิชชั่นจะเป็นของใครอย่างไรบ้าง ขอให้ไปล้วงกันเอาเอง ผมไม่ได้ใส่ใจนักในประเด็นนี้

ประเด็น คือจัดตั้งกองพลทหารม้าที่ ๓ ที่ว่านี้ขึ้นมาทำไม ในประเทศที่กำลังทรุดโทรมและยากจนลงเรื่อยๆ แถมยังเป็นประเทศที่เขายกให้เป็นประธานสมาคมประชาชาติเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ หรืออาเซียน ซึ่งเน้นการร่วมพัฒนาเศรษฐกิจ การแก้ไขข้อพิพาทอย่างสันติ และความมั่นคงระหว่างกัน

เพราะความคิดที่เอะอะก็จะรบกันนั้น คือความฟุ้งซ่านโดยแท้

กองพลทหารม้าใหม่เอี่ยมที่จังหวัดขอนแก่น มีประโยชน์อะไรหรือไม่ กับปัญหาความมั่นคงอันดับหนึ่ง อย่าง ๓ จังหวัดชายแดนใต้ ที่แรงขึ้นทุกขณะ

ถ้าจะรักษาความมั่นคงกันจริงๆ เอาเงินบางส่วนของหนึ่งแสนล้าน ไปขยายกองกำลังทหารพรานประจำถิ่นในพื้นที่ ไม่ดีกว่าหรือ?

ปัญหาคือ เรื่องแบบนี้ เขาไม่ได้ตั้งขึ้นมาประดับบารมี ของ พลเอกเปรม ติณสูลานนท์ โดยเฉพาะหรอกครับ อย่าเพิ่งไปโกรธใส่คุณเปรมเพียงคนเดียว

งานนี้ เขาเตรียมไว้ใช้ในงานรัฐประหาร ซึ่งคุณเปรมเป็นเพียงหลงจู๊

ฐานมวลชนสำคัญของฝ่ายประชาธิปไตย คือ อีสาน ซึ่งเป็นบริเวณที่อำมาตย์พยายามสร้างรอยจารึกเอาไว้มาก แต่เมื่อเกิดรอยรัฐบาลทักษิณขึ้นแล้ว หกปี ก็กลายเป็นรอยลึกที่อำมาตย์ผู้มาภายหลัง ไม่สามารถกลบหรือลบรอยได้อีกเลย

เพราะเป็นครั้งแรก ที่คนอีสานที่ถูก กัก ให้ยากจนมานาน ตั้งแต่ครั้งบรรพบุรุษ ได้รู้ว่า กูก็เป็นมนุษย์เหมือนคนไทยภาคอื่นๆ เขาเหมือนกัน และมีสิทธิ์เรื่องการรักษาพยาบาล เงินกู้สำหรับคนจน ทุนการศึกษาลูกหลาน และอื่นๆ อย่างที่ไม่นึกว่า ชาตินี้จะมี

ในที่สุดชาวอีสาน ก็ลบภาพมายาที่ฝ่ายอำมาตย์สร้างไว้ แบบช้างเหยียบนาพระยาเหยียบเมือง ถึงขนาดทวงบุญคุณเสียจนใช้คืนไม่หวาดไหว และหันมาสวมกอดประชาชนธรรมดาด้วยกัน ที่เขายกขึ้นเป็นรัฐบาลบริหารบ้านเมือง โดยผ่านการเลือกตั้งแทน

พอมาปล้นของเขาไป ราษฎรเขาก็พร้อมจะต่อสู้ชิงคืนฝ่าย อำมาตย์เขาก็รู้เรื่องนี้ดี ด้วยความช่ำชองเกมอำนาจ ยึดบ้านยึดเมือง เขาจึงเดินหน้าเตรียมกำลังทหารพร้อมอาวุธเพิ่มเติม ในงานควบคุมฝูงชนที่เขารู้สึกว่า บัดนี้ไม่จงรักภักดีต่อตัวเขา แถมยังมีพฤติกรรม กระด้างกระเดื่อง

ยึดอำนาจครั้งต่อไป หมายความว่า ฝ่ายอำมาตย์จะต้องควบคุมมวลชนในอีสานและเหนือ ตลอดจนบางส่วนของภาคกลางให้ได้

หนึ่งแสนล้านบาท จะไปใช้ทำอะไรที่อีสาน ในเงื่อนไขการเมืองโลกในปัจจุบัน หากไม่ใช่งานเลี้ยงฉลองว่า ใครคือผู้ปกครอง และใครคือผู้ถูกปกครอง หรือจะพูดว่า ใครคือผู้ดี ใครคือขี้ข้า ก็ยังได้

ผม มักจะตอบความปรารถนาดีของท่านที่เตือนเสมอว่า ไม่ได้อยากเอาหัวชนกำแพงเล่นหรอกครับ แต่มันมีความแตกต่างกันจริงๆ ระหว่าง อำมาตย์ กับ ระบอบอำมาตยาธิปไตย

อำมาตย์ใกล้จะปลิดร่วงไปตามเวลาและ ธรรมชาตินั้น เป็นความจริงโดยแท้ แต่ตัวอย่างที่ยกขึ้นมา บอกเราว่า ถึงตัวบุคคลหมดไป ระบอบของเขาก็ยังอยู่ โดยสรรหาบุคคลใหม่มาทำหน้าที่แทน จะทำหน้าที่ได้เท่าเทียมหรือด้อยกว่าอย่างไร เป็นอีกเรื่องหนึ่ง

เชื่อหรือครับว่า งบประมาณหนึ่งแสนล้านบาท ในเวลาสิบปีเต็ม เขากำหนดมาให้คนที่เป็นไม้ใกล้ฝั่งได้ใช้

เขากำลังลงทุน เพื่อให้เกิดการทดแทนกัน เมื่อเวลาและธรรมชาติเข้าทำหน้าที่ของตน เพื่อให้เป็นเครื่องมือของคนกลุ่มใหม่ต่างหาก

เป้าหมายอันแท้จริง คือเพื่อคนทั้งหลาย ที่กำลังช่วงชิงกันอย่างหนัก เพื่อขึ้นมาแทนทั้งในระดับบนและระดับล่าง

กองพลทหารม้าที่ ๓ จังหวัดขอนแก่น เป็นเพียงส่วนเล็กๆ ในการเตรียมการขนาดใหญ่ครั้งนี้

ใครช่วยเตรียมการบ้าง? ดูจากงบประมาณหนึ่งแสนล้านบาทก้อนนี้ก้อนเดียว ก็พอจะถอดรหัสออกแล้วครับ
๑. รัฐบาลประชาธิปัตย์ และพรรคประชาธิปัตย์
๒. พรรคร่วมรัฐบาล เช่น พรรคภูมิใจไทย ฯลฯ
๓. สำนักงบประมาณ
๔. ธนาคารแห่งประเทศไทย
๕. กระทรวงการคลัง
๖. สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ หรือสภาพัฒน์
๗. สำนักงานผู้ตรวจเงินแผ่นดิน และอื่นๆ อีกมากมาย

ข้อสรุปงานนี้ จึงมีเพียง ๒ ข้อเท่านั้นเอง
๑. อำมาตย์เก่าหมดไป อำมาตย์ใหม่ก็จะมา ตราบเท่าที่รังยังอยู่
๒. เครือข่ายของอำมาตย์ไม่ใช่คนสองคน แต่ใหญ่เท่าๆ กับประเทศไทยทั้งประเทศ
หรือใหญ่กว่า

งานขนาดนี้ นอนอยู่เฉยๆ รอให้ประชาธิปไตยเกิดขึ้นเอง ไหวไหมล่ะครับ.

ข่าวส่งเสริมคนดี

จำนวนผู้เข้าเยี่มมชม

link to affordable web hosting
Powered by web hosting provider .

สถิติการเข้าชม DMNEWS

eXTReMe Tracker