โดย ปลายอ้อกอแขม
…ปรีดีกับทักษิณ เหมือนและต่าง... |
จำชื่อได้ไม่ชัดว่า ส.ศิวลึงค์หรือศิวรักษ์นี่แหละ ที่บอกว่าอย่านำเอาคนอย่างทักษิณ ชินวัตร จอมโกงไปเทียบกับ รัฐบุรุษอาวุโสปรีดี พนมยงค์ เพราะมันห่างไกลกัน เหมือนฟ้ากับเหว ...หน้ามือหลังเท้า
เนื่องจากนาย ส.คนนี้ รักยกย่อง เทิดทูลบูชาท่านปรีดีอย่างสุดหัวใจ จึงเห็นแต่สิ่งดีที่มีอยู่ในตัวของท่านปรีดี ไม่เคยเห็นสิ่งที่เป็นตรงกันข้าม และนาย ส.คนนี้แหละ ที่มีข้อหาหมิ่นสถาบันมากที่สุด ..นักหมิ่นตัวยง !
ชะตาชีวิตของท่านอดีตนายกฯ 3 สมัยปรีดี พนมยงค์ กับอดีตนายกฯ 2 สมัย มีหลายสิ่งสำคัญๆที่ละม้ายคล้ายกัน หรือเรียกได้ว่าเหมือนกันในทางการเมือง การเปลี่ยนแปลงประเทศ หรือเป็นผู้มีความคิดก้าวไกล..ประเภทคนเก่ง
แต่ที่หลายคนยังไม่ทราบอย่างหนึ่งก็คือ ปรีดีกับทักษิณนั้นเกี่ยวดองเป็นเครือญาติกันด้วย เพราะท่านผู้หญิงพูนศุข พนมยงค์นั้น มาจากตระกูล ณ ป้อมเพชร และผู้ที่ใช้นามสกุลดังกล่าวซึ่งเป็นที่รู้จักกันดีก็คือนางพจนีย์ ณ ป้อมเพชร มารดาของคุณหญิงพจมาน ณ ป้อมเพชร(ชินวัตร)นั่นเอง ..หลายคนคงทราบแล้ว !
ท่านอดีตนายกฯปรีดีถูกพรรคการเมืองบางพรรค กล่าวร้ายว่าลอบปลงพระชนม์ในหลวง ร.8 และทหารก็ได้ทำรัฐประหาร และคิดจะจับตัวท่าน จนท่านต้องเผ่นหนีไปอยู่ต่างประเทศ ในที่สุดท่านก็ถึงแก่อสัญกรรม ..ที่ฝรั่งเศส
ท่านอดีตนายกฯทักษิณ ได้รับข้อหาแนวเดียวกันกับท่านปรีดี แต่ทันสมัยยิ่งกว่าตามโลกาภิวัฒน์ ที่สำคัญบังเอิญก็เป็นพรรคการเมืองพรรคเดียวกับที่ใส่ร้ายท่านปรีดี เพียงแต่เปลี่ยนเป็นคนรุ่นใหม่ที่ใช้พฤติกรรมเดิมและปรับปรุงให้ทันสมัยจนเรียกว่า “เลวกว่า”อย่างสมภาคภูมิ จนกระทั่งทหารเข้ายึดอำนาจ ในขณะที่ทักษิณอยู่ต่างประเทศ..ปัจจุบันอยู่ดูไบ
ท่านปรีดีเคยกลับมาเมืองไทยครั้งหนึ่ง ประมาณปี 2492 เพื่อร่วมวางแผนยึดอำนาจจอมพล.ป พิบูลสงครามแต่ไม่สำเร็จ จึงระเห็จหนีไปต่างประเทศอีกครั้ง
เช่นเดียวกับทักษิณที่กลับมาเมืองไทยเมื่อปี 2550 เพื่อเยี่ยมลูกเยี่ยมเมีย แต่ถูกข้อหาฉกาจฉกรรจ์ยิ่งกว่าคาร์บอมบ์โจรใต้ ยิ่งกว่าพันธมิตรปิดสนามบิน ศาลจำคุก 2 ปี คดี “เซ็นชื่อยอมให้เมียซื้อที่ดินรัชดา” ..เผ่นไปอยู่ต่างประเทศอีกครา
ท่านปรีดี พนมยงค์มิได้ทำผิดอย่างที่ถูกกล่าวหา ในคดีลอบปลงพระชนม์ แต่ต้องหนีจากความอยุติธรรมที่ถูกยัดเยียดให้จากการใส่ร้ายของพรรคการเมืองพรรคหนึ่ง ซึ่งเป็นใครก็คงไม่สามารถจะรับสภาพนั้นได้ ..หนีไปตั้งหลัก !
ท่านทักษิณ ชินวัตร ต้องออกไปอยู่ต่างประเทศ หนีความอยุติธรรมที่ถูกยัดเยียดให้จากไทยแลนด์แดนสารขัณฑ์ ขืนอยู่ก็คงถูกกฎหมู่เล่นงาน ทั้งคาร์บอมบ์ โบอิ้งบอมบ์ในที่ต่างๆจากพวกคนเถื่อน ..หนีไปตั้งหลัก !
มีคนถามทักษิณว่า ถ้าเอ็งไม่ผิด แล้วจะหนีทำไม มาสู้คดีซิ มาติดคุกก่อน ? แต่ไม่มีคนถามท่านปรีดีเหมือนกับที่ถามท่านทักษิณ ..คงคิดไม่ออก !
ผมเชื่อโดยสุจริตใจว่าท่านปรีดีต้องหาทางต่อสู้กับพวกมารร้ายเหล่านี้อย่างแน่นอน ท่านคงไม่เอามือเกาสะดือนอนเล่นไปวันๆหรอก มิเช่นนั้น จะแอบกลับมาวางแผนยึดอำนาจจอมพล.ป.ทำไม ..ถือเป็นการต่อสู้ในยุคนั้น
แต่ในยุคทักษิณ ทักษิณ “ จ๊าบ “กว่ายุคท่านปรีดีมาก เพราะเป็นยุคไฮเทค และทักษิณก็เป็นจ้าวแห่งเทคโนโลยีคนหนึ่ง การต่อสู้จึงสนุกสนานกว่า ได้อารมณ์กว่า มันส์กว่าหลายเท่า คำพูดหนึ่งคำดังไปทั้งโลก ทักษิณจึงจับพวกเผด็จการมาโน้มคอตีเข่าเหย็งๆชนิดเมามันส์ พวกเผด็จการได้แต่ปิดป้องอุตลุต ทำตาปริบๆ ปากแตก หูฉีก หางตก ร้องเอ๋งๆ ..จะตายแหล่มิตายแหล่
อาวุธของทักษิณแต่ละดอก เผด็จการแทบจะหัวใจวาย คิดไม่ถึง รับไม่ทัน เดาไม่ถูก ..คนละชั้น !
ทักษิณ สู้กับเผด็จการได้สนุกสนานเร้าใจกว่าท่านปรีดี เพราะเป็นยุคโลกาภิวัฒน์ที่ไม่มีใครจะปิดกั้นได้ และพวกพ้องเพื่อนฝูงเยอะกว่า ..แถมรวยกว่า
แต่ที่ผมมั่นใจก็คือทักษิณจะต้องกลับมาตายที่เมืองไทย..ตายอย่างรัฐบุรุษ
ส่วนคนที่จะต้องบินหนีไปตายต่างประเทศนั้น ผมยังไม่รู้ว่าเป็นใครบ้าง ..แต่รู้ว่ามีหลายคนนะ !!!