เหลืออยู่ทางเดียวที่จะเอาพระวิหารเหนือเขาคืนกลับมาเป็นของประเทศไทย...ไม่ใช่ทางเดียวที่รัฐบาลลูกครึ่งประชาธิปไตย...อภิสิทธิ์ เวชชชีวะ เป็นผู้ขีดเส้น
แต่เป็น...นายกรัฐมนตรี ฮุน เซน แห่งกัมพูชา...ขีดไว้ให้คำสั่ง...ยิงคนไทยทุกคนที่บุกรุกเข้าไปในเขตพระวิหาร...และในเขตทับซ้อนที่กล่าวอ้างกัน ยืนยันว่า สมเด็จฮุน เซน แห่งกัมพูชา...ไม่มีอารมณ์ร่วมกับ...ประเทศไทยที่จะเล่นเกมที่ยืดเยื้อยืนยาวถ้า กัมพูชา คิดว่าหากรบกันแล้วเขาจะเป็นฝ่ายแพ้...เขาก็คงจะไม่กล้าร่ำร้องเรียกหาสงครามแต่....รัฐบาลไทยกับกองทัพไทย...จะบอกกล่าวกับประชาชนคนไทยอย่างไร...ถึงการยอมเสียดินแดน โดยปฏิเสธที่จะไม่ทำสงครามหากจะกลับไปหาต้นเหตุแห่งข้อพิพาทแล้ว...บุคคลที่สมควรจะขุดเอาชื่อออมมาประจาน...ก็คือผู้คนในประวัติศาสตร์ 2 ท่าน...จอมพล สฤษดิ์ ธนะรัชต์ นายกรัฐมนตรีหม่อมราชวงศ์ เสนีย์ ปราโมช...ว่ากันว่า...ศาลโลกที่กรุงเฮกนั้น..จะไม่พิจารณาคดีระหว่างประเทศที่มีเพียงฝ่ายเดียว...ซึ่งก็หมายความว่า...
หาก จอมพล สฤษดิ์ ธนะรัชต์ นายกรัฐมนตรีเผด็จการในครั้งนั้น...ไม่เข้าไปสู้คดีที่กัมพูชากล่าวหาเรียกร้อง...หรือฟ้องร้องขอให้ศาลโลกคืนดินแดนไทยทั้งหมดก่อนที่ฝรั่งเศสจะเข้ามาปล้นไปแล้ว...กัมพูชานอกจากจะไม่ได้คืนเขาพระวิหารแล้ว ยังจะต้องเสียดินแดนไปถึง...นครวัดนครธมให้กับประเทศไทยด้วย...หากหม่อมราชวงศ์เสนีย์ ปราโมช...จะมองเห็นถึงประโยชน์ชาติมากกว่าความอยากใหญ่อยากดังของตนเองแล้ว...ทนายความอย่างท่านเสนีย์...จะต้องชี้ให้นายกรัฐมนตรีเผด็จการ...เห็นว่า...การขึ้นไปสู้คดีในศาลที่หากชนะก็จะได้แค่เสมอ...หากแพ้จะเสียแผ่นดินนั้นเป็นเรื่องโง่เง่าเต่าตุ่นอย่างยิ่ง...ถึงวันนี้...หากจะเอาคำพิพากษามากางดูแล้ว...พื้นที่ทับซ้อนก็ไม่อยู่ในคำพิพากษา...กัมพูชาใช้กรณีย์เขาพระวิหาร...สร้างกฤษฎาภินิหารให้กับผู้นำของประชาชนชาวกัมพูชา...เพื่อปลุกความเป็นชาตินิยมเพื่อประโยชน์ทางการเมืองของเขาแต่เรา...เอากรณีเดียวกันเพื่อจะมาสร้างความแตกแยกภายใน...อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ...จะเป็นนายกรัฐมนตรีของประเทศไทยแบบไหน...จะบี้กับ สมเด็จฮุน เซน...ได้อย่างไร...สติปัญญาและหัวใจ...ฝีมือกับความสามารถ...นี่คือสงครามของ อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ