บทความโดย ice angel
ปูยี จักรพรรดิองค์สุดท้ายของจีน
วันนี้ วันที่ 1 ตุลาคม ถือว่าเป็นวันชาติของจีน ที่มีการเปลี่ยนแปลงการปกครองจากระบบจักรพรรดิ หรือที่เราคนไทยเรียกกันติดปากว่า ฮ่องเต้ มาเป็นระบอบสาธารณรัฐ อย่างที่เราเห็นในปัจจุบัน ทั้งนี้ จักรพรรดิองค์สุดท้ายของจีนคือ จักรพรรดิปูยี แห่งราชวงษ์แมนจู
ประเทศจีน มีประวัติศาสตร์อันยาวนานมากกว่า 5000 ปีแล้ว นับเป็นแหล่งอารยธรรมโบราณแห่งสำคัญแห่งหนึ่งของโลกทีเดียว และมีความยาวนานเทียบเท่าได้กลับอียิปต์หรือไอยคุปต์โบราณ นับเป็นแหล่งอารยธรรมมนุษย์เจริญรุ่งเรืองมาเป็นเวลานาน ผ่านการเปลี่ยนแปลงมาอย่างมากมายในประวัติศาสตร์ แต่ที่สำคัญคือ เขายังคงความเป็นประเทศจีนอยู่ได้ ไม่เหมือนอียิปต์โบราณ หรือจักรวรรดิโรมัน ที่สูญสลายไปแล้ว
มีการศึกษาข้อเท็จจริงทางประวัติศาสตร์เกี่ยวกับประเทศจีน คล้ายๆ กับที่มีการอภิปรายว่าคนไทยอพยพมาจากเทือกเขาอัลไตหรือไม่ ในจีนมีตำนานเกี่ยวกับอภินิหารตำนานเทพ เหมือนนิยายกำลังภายในที่คุณๆ ชอบอ่านกันนั่นแหละค่ะ เหตุนี้กระมังถึงมีเรื่องเล่ากันว่า ก่อนที่จีนจะมีการเปลี่ยนแปลงการปกครอง จีนเคยมีองค์จักรพรรดิในราชวงศ์ต่างๆ ประมาณ ๕,๐๐๐ ปีก่อน โดยชาวจีนในสมัยนั้นใช้วิธีการเลือกกษัตริย์ขึ้นมาปกครองบ้านเมือง
โดยการคัดเลือกจากความสามารถและคุณธรรม กษัตริย์แต่ละองค์ต้องแข่งกันแสดงความสามารถถ้าไม่มีความสามรถ ก็อาจจะถูกถอดจากบัลลังก์ได้
เชื่อกันว่ากษัตริย์องค์แรกของจีน ชื่อ ฝูซี หรือฟูสี ซึ่งนิทานพื้นบ้านบางแห่งถือเป็นเทพเจ้าผู้ให้กำเนิดชนชาติจีน กษัตริย์ที่เด่นๆ ในยุคนั้นมีหลายพระองค์ เช่น เสินหนง หรือเสินหนุง ซึ่งภายหลังคนยกย่องให้เป็นเทพแห่งเกษตรกรรม ตี้ซุ่น ซึ่งท่านเหลี่ยวฝานกล่าวถึงบ่อยๆ
ตี้ซุ่นองค์นี้เองที่เป็น ๑ ใน ๒๔ ยอดกตัญญูของจีน หรือ ยี่จั๊บสี่ห่าว จนฟ้าดินส่งช้างกับนกมาช่วยทำไร่ไถนา หวงตี้ หรือจักรพรรดิเหลือง เหยา-ซุ่น และอีกหลายองค์ บางสมัยมีคนเก่ง โดยเฉพาะเรื่องแก้น้ำท่วม เรื่องน้ำท่วม ถือเป็นปัญหาสำคัญในสมัยนั้น ผู้ใดแก้ได้จะได้ยศถาบรรดาศักดิ์มาก ถ้าแก้ไม่ได้ก็จะถูกลงโทษ ชาวบ้านอาจเลือกตั้งให้เป็นกษัตริย์อีกองค์ให้บริหารคู่กับกษัตริย์ ถึงสมัยของอวี่ ชาวบ้านเห็นว่าราชโอรสเหมาะสมที่จะสืบราชสมบัติที่สุด จึงให้อวี่ยกราชสมบัติให้ ตอนแรกอวี่ก็ไม่เห็นด้วย ตั้งขุนนางคนอื่นเป็นแทน แต่ภายหลังโอรสก็ได้ครองบัลลังก์ จึงเป็นการเริ่มต้นการสืบราชสันติวงศ์และเริ่มยุคราชวงศ์ของจีนตั้งแต่นั้นมา ราชวงศ์แรกๆ ของจีนก็มี
ราชวงศ์เซี่ยซึ่งเชื่อว่าเป็นราชวงศ์เริ่มแรกของ ตามด้วย ราชวงศ์ ชาง/อิน/อินชาง/โจว/ฉิน/ฮั่น/สุย/ถัง/ซ้อง/มองโกล/หมิง/และยุคสุดท้ายคือยุคราชวงศ์ชิง (แมนจู)
และจักรพรรดิคนสุดท้ายของจีนมีชื่อว่า
สมเด็จพระจักรพรรดิปูยี (ภาษาจีน: 溥儀; พินอิน: Pǔyí ผู่อี๋) ประสูติ 7 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2449 สวรรคต 17 ตุลาคม พ.ศ. 2510 มีพระนามเต็มว่าอ้ายซิน เจี๋ยหลอ ปูยี (Aisin-Gioro Puyi, ภาษาจีน: 愛新覺羅 溥儀; พินอิน: Àixīnjuéluó Pǔyí) เป็นจักรพรรดิหรือฮ่องเต้ชาวแมนจูแห่งราชวงศ์ชิง และเป็นจักรพรรดิองค์ที่ 10 แห่งราชวงศ์ชิง (นับเริ่มแต่จักรพรรดิซุ่นจื้อ) และเป็นองค์สุดท้าย (末代皇帝) ของประเทศจีน
ปูยีดำรงตำแหน่งจักรพรรดิของประเทศจีนระหว่าง ค.ศ. 1908 - ค.ศ. 1912 และอภิเษกกับจักรพรรดินีว่านหยง (婉容皇后) หลังจากนั้นในปี พ.ศ. 2467 (ค.ศ. 1924) ปูยีถูกขับออกจากพระราชวังต้องห้ามและดำรงชีวิตดุจสามัญชน
ปี พ.ศ. 2475 (ค.ศ. 1932) ปูยีขึ้นดำรงตำแหน่งจักรพรรดิแห่งประเทศแมนจูกัว ซึ่งเป็นรัฐในปกครองของประเทศญี่ปุ่น ทางตะวันออกเหนือของดินแดนประเทศจีนในปัจจุบัน ปูยีถูกควบคุมอย่างใกล้ชิดจากญี่ปุ่น เพื่อเตรียมการปกครองแมนจูกัวอย่างเต็มตัวของญี่ปุ่น เมื่อสิ้นสุดสงครามโลกครั้งที่สอง ใน พ.ศ. 2488 (ค.ศ. 1945) แมนจูกัวล่มสลายและปูยีถูกสหภาพโซเวียตควบคุมตัว และส่งให้กับรัฐบาลคอมมิวนิสต์จีน ปูยีเสียชีวิตเยี่ยงสามัญชนในปักกิ่ง เมื่อ พ.ศ. 2510 (ค.ศ. 1967) ด้วยโรคมะเร็งในช่วงที่เกิดการปฏิวัติวัฒนธรรม
และในปี พ.ศ. 2530 (ค.ศ. 1987) ได้มีการฉายภาพยนตร์ชีวประวัติของจักรพรรดิปูยี มีชื่อว่า The Last Emperor หรือในชื่อภาษาไทยว่า จักรพรรดิโลกไม่ลืม กำกับโดย เบอร์นาโด แบร์โตลุชชี ผู้กำกับชาวอิตาลี ซึ่งภาพยนตร์ประสบความสำเร็จอย่างมาก โดยได้รับรางวัลออสการ์ด้วยกันถึง 9 รางวัล และประสบความสำเร็จในทุกประเทศที่เข้าฉาย
และทำไมถึงได้เป็นสมเด็จพระจักรพรรดิโลกไม่ลืม หรือ จักรพรรดิองค์สุดท้ายของแผ่นดินจีน ก่อนที่จะมีการเปลี่ยนแปลงการปกครองดังที่เรากันทุกวันนี้ ไว้มีโอกาสจะมาร่วมรวบข้อมูลและเขียนเล่าให้ฟัง นะค่ะ