บล็อคข่าวส่งเสริมคนดี (รักดีหามจั่ว รักชั่วหามเสา หามจั่วก็หนักนะ)

ข่าวจากสื่อ

บทความจากสื่อ

วันอังคารที่ 20 ตุลาคม พ.ศ. 2552

เขานั่งเครื่องเรานั่งเกวียน

ที่มา บางกอกทูเดย์

ประชุมคณะรัฐมนตรีสัญจรของรัฐบาลอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ขอบอกว่า อลังการงานสร้างจริงขอรับ! ก็เล่นเกณฑ์ทั้งกองทัพไปอารักขาเคยได้ยินไหมขอรับ “มดไม่ให้ไต่ ไรไม่ให้ตอม”เฮลิคอปเตอร์ ใช้บริการโดย “สุเทพเทือกสุบรรณ” รองนายกฯ ฝ่ายความมั่นคงของเรา “บินตรง” ...ไปหัวหิน ประจวบคีรีขันธ์ ...เอาล่ะ! กลับมาใช้สิทธิ์ “คอมเมนท์” รัฐบาลดีกว่า..ทางการจีนได้เตรียมการและเตรียมพร้อมสำหรับงานเฉลิมฉลองวันชาติ ครบรอบปีที่60 อย่างยิ่งใหญ่ทางการไทยเตรียมการและเตรียมพร้อมสำหรับการประชุมอาเซียนด้วยกำลังอารักขาอย่างยิ่งใหญ่ในระยะ 60 ปีที่ผ่านมา จีนมีผู้นำมาแล้ว4 รนุ่ เรมิ่ จากเหมาเจอ๋ ตงุ เตงิ้ เสยี่ วผงิ เจยี งเจอ๋ หมนิและ หูจิ่นเทา ขณะนี้พรรคได้วางตัวผู้นำรุ่นที่ 5ไว้แล้วผู้นำจีนตั้งแต่รุ่นเติ้งเสี่ยวผิงเป็นต้นมาได้นำจีนเข้าสู่ยุคใหม่ ยุคแห่งการพัฒนาที่ทำให้คนจีนกินดีอยู่ดีขึ้น จีนได้เข้าสู่แกนกลางของโลกแล้ว ซึ่งจะทำให้จีนมีความรับผิดชอบต่อสันติภาพโลกมากขึ้นในระยะ 5 ปีที่ผ่านมา ไทยมีผู้นำมาแล้ว4 คน เริ่มจาก พ.ต.ท.ดร.ทักษิณ ชินวัตร สมัครสุนทรเวช สมชาย วงศ์สวัสดิ์ และอภิสิทธิ์เวชชาชีวะ และขณะนี้ความแปรปรวนทางการเมือง อันนำมาซึ่งการเปลี่ยนแปลง “ผู้นำ”เริ่มส่งสัญญาณ“พ.ต.ท.ดร.ทักษิณ ชินวัตร” เป็นจุดเริ่มต้นในการสร้าง “ความแปลกใหม่” ในการบริหารราชการแผ่นดิน19 กันยายน 2549 เกิดการหักเหของระบอบประชาธิปไตย เข้าสู่ระบอบประชาธิปไตยครึ่งๆกลางๆ ส่งผลให้ “ไทย” หยุดชะงักการพัฒนากระทั่งวันนี้ก็ยังไม่ดีขึ้นนัก...ผู้นำจีนวิเคราะห์ว่า หลังสงครามเย็น

กระแสหลักของโลกคือการก้าวข้ามความแตกต่างทางลัทธิอุดมการณ์ ความเชื่อทางการเมือง ไม่ว่าประเทศใหญ่เล็ก แข็งแกร่ง อ่อนแอสามารถร่วมมือเพื่อแสวงประโยชน์ร่วมกันได้ที่ผ่านมา ความร่วมมือเป็นไปอย่างคึกคักจีนใช้โอกาสนี้สร้างสภาพแวดล้อมที่สันติเพื่อขอเวลาในการพัฒนาประเทศผู้นำไทย (บางคน) วิเคราะห์ว่า หลังการปฏิวัติ ฝ่ายชนะจะขึ้นเป็นใหญ่และก้าวข้ามศัตรูไปอย่างเย่อหยิ่ง! อีกทั้งยังเป็นโอกาส “โกย”เข้าพกเข้าห่อ..จีนถือว่าปัญหาด้านเศรษฐกิจโลก -ตนมีความรับผิดชอบโดยร่วมมือกับประเทศต่างๆ ในการต้านทานวิกฤติเศรษฐกิจและช่วยให้ประเทศในภูมิภาคอยู่ได้ แม้ว่าเศรษฐกิจจีนผ่านจุดตํ่าสุดไปแล้ว และมีโอกาสฟื้นตัวก่อนคนอื่น แต่จีนก็ถือว่าเป็นหน้าที่ความรับผิดชอบที่จะต้องช่วยและร่วมมือกับทุกประเทศในการก้าวข้ามวิกฤตินี้ไปให้ได้ไทยถือว่าปัญหาด้านเศรษฐกิจโลก –เป็นปัญหาที่ต้อง “กู้เงิน” มากระตุ้นเศรษฐกิจด่วน รวมทั้งโหมโรงสร้าง “เมกะโปรเจ็กต์”อย่างเร่งด่วน!! อาทิ ถนนไร้ฝุ่น และรถเมล์เอ็นจีวี นี่ล่ะสำคัญมากๆ ที่จะช่วยลดค่าครองชีพประชาชนและกระตุกเศรษฐกิจให้มีดัชนีพุ่งขึ้น...นโยบายด้านการป้องกันประเทศ จีนเน้นการป้องกันประเทศเป็นหลัก จีนจะไม่แทรกแซงก้าวก่ายในกิจการของประเทศอื่น จีนสร้างความเข้มแข็งเพื่อป้องกันตนเอง ไม่ใช่รุกรานคนอื่นนโยบายด้านการป้องกันประเทศ ไทยเน้นการป้องกันตัวเองเป็นหลัก จะไม่แทรกแซงและเหยียบเข้าไปในพื้นที่เสี่ยงในทะเลจีนใต้ - จีนยืนหยัดในหลักการแก้ไขข้อพิพาทโดยสันติวิธี จีนเสนอให้มีการพัฒนาพื้นที่ขัดแย้งร่วมกันเพื่อให้เกิดปัจจัยบวกอันจะนำไปสู่การแก้ปัญหาบั้นปลาย จีนเห็นว่าคู่กรณีทุกฝ่ายต้องยับยั้งชั่งใจ ไม่สร้างและขยายความตึงเครียด และใช้วิธีเจรจากันในการแก้ไขปัญหา แม้จะแก้ไม่ได้ในช่วงคนรุ่นนี้แต่ก็หวังว่าคนรุ่นลูกหลานจะแก้ไขได้ในพื้นที่ทับซ้อนเขาพระวิหาร – ไทยยืนหยัดในหลักการแก้ไขข้อพิพาทโดยสันติวิธีแต่หาข้อสรุปไม่ได้ และคล้ายว่ารัฐบาลไทยจะเจรจากับรัฐบาลเขมรไม่รู้เรื่อง เพราะคำตอบไม่เคยชัดเจนจีนเป็นเมืองใหญ่..แต่ที่น่าทึ่งเพราะเขาใหญ่กว่าที่เราเห็น ด้วยการทำงาน ด้วยยุทธศาสตร์ด้วยความรับผิดชอบ และด้วยหน้าที่..จีนทำเต็มที่ภายใต้มาตรฐานไม่ก้าวก่ายให้ใครเดือดร้อนและไม่เดือดร้อนใครแล้วไทยล่ะ??? 

ข่าวส่งเสริมคนดี

จำนวนผู้เข้าเยี่มมชม

link to affordable web hosting
Powered by web hosting provider .

สถิติการเข้าชม DMNEWS

eXTReMe Tracker