.............................................
ที่บ้านพระยาเทพหัสดิน จ.นนทบุรี บนเนื้อที่ประมาณ 40 ไร่ ที่ถูกซื้อไว้ไร่ละ 1 บาท ในช่วงสมบูรณาญาสิทธิราชย์
จากบ้านอดีตอำมาตย์ใหญ่ บัดนี้กลายเป็นบ้านนักการเมืองที่เลี้ยงลูกน้อง-บริวารไว้ไม่น้อยกว่า 40 คน
เป็นบ้านที่ถูกครอบครองโดย "ปลอดประสพ สุรัสวดี" รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย
ช่วงที่พรรคเพื่อไทยพ่ายแพ้เลือกตั้ง หลังชนฝา และอาจต้องครองตำแหน่งฝ่ายค้านอีกยาวนาน
"ปลอดประสพ" เปิดใจ ทบทวนท่าทีทางการเมืองของ "ทักษิณ" และพรรคเพื่อไทย มีหลายบประเด็นน่าสนใจ
คิดอย่างไรกับข้อวิจารณ์พรรค เช่น คุณจาตุรนต์ ฉายแสง เสนอให้เปิดตัวว่าที่นายกรัฐมนตรีของฝ่ายนี้
ผมก็ไม่เห็นด้วยและไม่ค่อยชอบเท่าไหร่ เพราะมันไม่เป็นความจริง เช่น คำว่า "ก้าวข้ามคุณทักษิณ" เราต้องมองข้อเท็จจริง ผมพูดตรง ๆ ว่าทุกพรรคมันก็มีเจ้าของ ถ้าผมเอ่ยชื่อก็ได้เยอะแยะ คุณบรรหาร ศิลปอาชา ก็เป็นเจ้าของพรรค คุณสุวัจน์, คุณเนวิน ชิดชอบ ก็เป็นเจ้าของพรรค ส่วนประชาธิปัตย์ ก็มีเจ้าของพรรค แต่มีมานานแล้ว
เช่นเดียวกับพรรคเพื่อไทย มาจากพรรคพลังประชาชน มาจากพรรคไทยรักไทย ใครเป็นผู้ก่อตั้ง ก็คือคุณทักษิณ การเป็น founder แปลว่าผู้สร้าง ออกเงิน ออกทอง ออกสติปัญญา ความคิด จนเกิดมาเป็นทุกวันนี้ ชื่อเสียงและความนิยมในตัวคุณทักษิณ ก็เห็นได้ชัดเจนในอีสานและในภาคเหนือ
ฉะนั้น การที่บอกว่า ก้าวข้ามเนี่ย ผมไม่รู้แปลว่าอะไร ถามว่า ตึกที่อยู่ทำงานทุกวันนี้ คุณทักษิณให้เช่าราคาถูกใช่ไหม ข้าวที่กินกันฟรีทุกวันนี้ ถามว่า ใครซื้อข้าว ? เวลาขอความเห็น ท่านก็ให้ จะเชื่อหรือไม่เชื่อ ก็เรื่องของเรา เวลาไปเลือกตั้ง ก็ใช้กระแสของท่าน มากบ้าง น้อยบ้าง
แล้วอยู่ ๆ จะบอกว่า เฮ้ย...ลื้อไปเหอะ อั๊วะก้าวข้ามลื้อไปแล้ว ไม่ต้องมีลื้อแล้ว ผมว่ามันเป็นคำพูดที่มันไม่จริง แล้วก็เป็นคำพูดที่ไม่ค่อยจะกตัญญูเท่าไหร่นะ มันไม่ควรนะ...ใจผม ควรจะคิดว่า สิ่งใดดี ก็เก็บไว้ สิ่งใดควรให้ประชาชน ก็ต้องให้ แต่ไม่ใช่มาแสดงความรังเกียจมิตรเก่าที่มีบุญคุณเพื่อได้มิตรใหม่ (เน้นเสียง) ผมขอพูดหยาบ ๆ หมาตัวไหนมันจะไปคบ เพราะไม่เคยกตัญญูต่อใครเลย รู้ได้ไง ว่าวันไหนจะไม่ไปหักหลังเขาอีก
ส่วนที่คุณจาตุรนต์พูด ก็เป็นตรรกะ เป็นเหตุผล ผมก็เห็นด้วย ว่าสักวัน เราควรมีหัวหน้าที่ชัดเจน ผมใช้คำว่าหัวหน้าก่อนนะ เพราะผมยังไม่เคยได้ยินใครอาสาเป็นหัวหน้า แต่ผมได้ยินคนอาสาเป็นนายกรัฐมนตรี 3 คน ตั้งแต่คุณเฉลิม ก็อาสาเป็นสั้น ๆ คุณชวลิต ก็อาสาเป็น และล่าสุด คุณมิ่งขวัญ แต่ทั้ง 3 คน ไม่มีใครอาสาเป็นหัวหน้าพรรคเลย ก็ต้องถามเหตุผล ว่ามันเรื่องอะไร ที่อาสาเป็นนายกรัฐมนตรี แต่ไม่อาสาเป็นหัวหน้าพรรค ผมสงสัย
เพราะการเป็นหัวหน้าพรรค เป็นภาระนะ เป็นผู้ให้นะ ให้ความคิด สติปัญญา การสนับสนุน ให้เงิน ให้ทอง ให้ทรัพย์สมบัติ และเสี่ยงกับการต่อสู้ แพ้หรือชนะ ก็ไม่รู้...แล้วที่ไม่เสนอตัวเป็นหัวหน้าพรรค เพราะอะไร เพราะกลัวความรับผิดชอบแบบนี้ ใช่ไหม กลัวเสียตังค์ ใช่หรือไม่ กลัวต้องต่อสู้ ใช่หรือไม่
ในฐานะที่ท่านเป็นรองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย จะจัดการกับคนเสื้อแดงกลุ่มไม่เอาสถาบันอย่างไร
เราสนับสนุนกลุ่มที่แสวงหาประชาธิปไตย ความยุติธรรม ความเท่าเทียม ผมเข้าใจและเห็นใจในความรู้สึกเจ็บในใจ ที่ถูกกดขี่ข่มเหง ถูกมองเหมือนไม่ใช่มนุษย์ ถูกยิงไป 90 กว่าศพ บาดเจ็บไปสองพัน ติดคุก ไม่รู้ข้อหาอะไร ผมเห็นใจ ผมช่วย แต่ไอ้กลุ่มที่จะทำลายล้างสถาบันแบบนี้ ผมไม่เห็นด้วย แล้วผมจะต่อต้าน ผมไม่เคยคบค้าสมาคมกับคนพวกนี้ ไม่รู้จัก และไม่ประสงค์ที่จะคบค้า เพราะนั่นคือการทำลายชาติ
จะตัดกลุ่มนี้ทิ้งจากคนเสื้อแดงหรือไม่
ผมว่าคนที่คิดล้มเจ้าน่ะ มันกลุ่มเล็ก ๆ ไอ้พวกนี้แหละโหนกระแสเสื้อแดง แต่เสื้อแดงไม่กล้าปฏิเสธ รุนแรง เกรงจะเสียแนวร่วม ดังนั้น ก็มัวแต่อ้ำอึ้ง ๆ ผมเคยเตือนเพื่อน ๆ ผมบางคนที่อยู่ในวังว่า รู้ไหมว่า มีการวิพากษ์วิจารณ์เยอะแยะ แล้วรู้ไหมว่า คำวิจารณ์นั้นไม่จริง ดังนั้น แทนที่จะไปคิดห้ำหั่นเสื้อแดง ควรคิดวิธีการที่จะเอาข้อมูลที่ถูกต้องไปใช้ได้ไหม และวิธีการที่ดีที่สุด คือการใช้ความเมตตา กรุณา การให้อภัยอย่างเดียวเลย จึงจะชนะ อย่าไปใช้วิธีแบบทหารบางคน วันนี้ ผมไม่เห็นด้วย
มองว่าปรากฏการณ์คนเสื้อแดงวิพากษ์วิจารณ์สถาบันสำคัญ เป็นเพราะความเข้าใจผิด
ถูกต้อง มีการสร้างข้อมูลเข้าไป แล้วไม่มีคำอธิบาย วิธีที่จะไปเอาเสื้อแดงกลับคืนมา คือต้องอธิบาย และมีความเมตตา แต่คนมีอำนาจกลับใช้วิธีปราบปราม คิดว่าเป็นการปราบเสี้ยนหนาม อย่างนี้ ก็เจ๊งสิ
นี่เป็นวิธีการของทหารหรือเปล่า
ทำตลอดเวลา ไม่เคยหยุด ผมรู้จักทหารกลุ่มนี้มาพอสมควร ไม่ใช่ว่าโตมาด้วยกัน เพราะผมโตมาก่อน เห็นกันมานาน ผมไม่เห็นด้วย และผมพูดไปแล้ว ว่าผมไม่เห็นด้วย...คุณประยุทธ (พล.อ.ประยุทธ จันทร์โอชา ผบ.ทบ.) ก็เหมือนกัน เรารู้จักกันมานานมากนะ เรียกพี่เรียกน้องกันมาตลอด คุณประยุทธต้องใจเย็นกว่านี้ ต้องพูดเพราะกว่านี้ ยิ่งใหญ่ ยิ่งมีอำนาจ ยิ่งต้องแสดงความอ่อนโยน ตำแหน่ง ผบ.ทบ.ใหญ่อยู่แล้ว แค่กวาดสายตาไป คนเขาก็กลัว...ประเทศชาติยังต้องพึ่งคุณประยุทธอีกเยอะ
ผมคิดว่าบทบาทของทหารกับการเมืองต้องลดลง เพราะทหารไม่มีหน้าที่มาจัดรัฐบาล หรือมารังเกียจพรรคโน้นพรรคนี้ ทหารก็เป็นข้าราชการประเภทหนึ่ง...ประชาธิปไตย ธรรมชาติทหาร ต้องไม่มาเกี่ยวข้อง ประเทศไทยล้าหลังมาก เรื่องความสัมพันธ์ของกองทัพกับการพัฒนาการเมือง ทหารมีหน้าที่ปกป้องขอบขัณฑสีมา ปกป้องสถาบันพระมหากษัตริย์ ไม่ต้องมาปกป้องสถาบันการเมือง ไม่ใช่หน้าที่ของท่าน
( อ่านฉบับสมบูรณ์ ที่ คลิกที่ ประชาชาติธุรกิจ www.prachachat.net/news_detail.php?newsid=1293341350&grpid=no&catid=04 )