บล็อคข่าวส่งเสริมคนดี (รักดีหามจั่ว รักชั่วหามเสา หามจั่วก็หนักนะ)

ข่าวจากสื่อ

บทความจากสื่อ

วันศุกร์ที่ 18 มีนาคม พ.ศ. 2554

วันที่ 18 มีนาคม พ.ศ. 2554 ปีที่ 20 ฉบับที่ 7414 ข่าวสดรายวัน วัดกระแส"ยิ่งลักษณ์"ลงส.ส.เพื่อไทย

ที่มา ข่าวสด

รายงานพิเศษ



1.องอาจ คล้ามไพบูลย์
2.ดิเรก ถึงฝั่ง
3.สมศักดิ์ ปริศนานันทกุล
4.สุรชัย ศิริไกร
5.ว่าที่ร.ต.พงศ์พันธุ์ สุนทรชัย
จากกรณีที่มีข่าวว่าพรรคเพื่อไทยวางตัว น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร น้องสาวคนสุดท้องของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เป็นเบอร์ 1 ในบัญชีปาร์ตี้ลิสต์ของพรรค เพื่อสู้ศึกเลือกตั้งส.ส.ทั่วไป ที่จะมีขึ้นในเร็วๆ นี้ มุ่งหวังนำมาเป็นจุดขาย สู้กับ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์

จึงมีเสียงสะท้อนในมุมมองต่างๆ ดังนี้



องอาจ คล้ามไพบูลย์

รมต.ประจำสำนักนายกฯ

ประธานส.ส.กทม.พรรคประชาธิปัตย์

หากพรรคเพื่อไทยจะส่ง น.ส.ยิ่งลักษณ์ ลงสมัคร ส.ส. เป็นเรื่องน่ายินดีที่เราจะได้นักการเมืองหญิงเพิ่มเข้ามามากขึ้น และจะเป็นอีกทางเลือกหนึ่งของประชาชน

นอกจากนี้จะได้ชัดเจนเสียทีที่น.ส.ยิ่งลักษณ์ ประกาศเล่นการเมืองเบื้องหน้า หลังจากอยู่ข้างหลังมานาน อย่างไรก็ตาม พรรคประชาธิปัตย์ไม่ได้กังวลหรือมีปัญหา เพราะตลอด 60 กว่าปีที่ผ่านมา พรรคเจอนักการเมืองหน้าใหม่ๆ หมุนเวียนมาต่อ สู้ด้วยอยู่ตลอด

ทั้งนี้ คงปฏิเสธไม่ได้ว่าการที่น.ส.ยิ่งลักษณ์ ลงสมัครเลือกตั้งชัดเจนเช่นนี้ ไม่เกี่ยวกับพ.ต.ท.ทักษิณ และคงไม่ทำให้เกิดการได้เปรียบหรือเสียเปรียบ เพราะการเลือกตั้งขึ้นอยู่กับการตัดสินใจของประชาชนว่าจะให้ความไว้วางใจใคร





ดิเรก ถึงฝั่ง

ส.ว.นนทบุรี

การชูน.ส.ยิ่งลักษณ์ ถ้าพูดในแง่ของตัวแทน พ.ต.ท.ทักษิณ สามารถทำได้ แต่ความสามารถในการทำงาน น.ส.ยิ่งลักษณ์ ยังสู้พ.ต.ท.ทักษิณ ไม่ได้ เพราะที่ผ่านมา น.ส.ยิ่งลักษณ์ ไม่ได้แสดงบทบาททางการเมืองอะไรเลย หรือพูดง่ายๆ ยังไม่เห็นผลงาน และยังไม่รู้ว่ามีความแก่งแค่ไหน

แต่ถ้ามองอีกมุม การที่ประ เทศไทยจะมีนายกฯเป็นผู้หญิงสักคน เป็นอะไรที่น่าสนใจ ฉะนั้น ก่อนการเลือกตั้งนับจากนี้ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ต้องออกมาแสดงบทบาท รวมถึงความสามารถทางการเมืองบ้าง

ส่วนคะแนนเสียงเลือกตั้ง คงเป็นไปตามกระแสพรรคและกระแสของ พ.ต.ท.ทักษิณ ที่อาจได้เท่าเดิม หรือได้ไม่น้อยกว่าเดิมก็ได้ หรือหากน.ส.ยิ่งลักษณ์ ได้เป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาลจริง ในฐานะผู้หญิงคงไม่ทำให้สถานการณ์การเมืองร้อนแรงหรือลดลง มันขึ้นอยู่กับการทำงาน เพราะบ้านเมืองมีปัญหาหมักหมมหลายอย่าง เป็นสิ่งที่ผู้นำประเทศต้องแก้ไข สร้างความปรองดองให้กับคนในชาติให้ได้

หากจะเปรียบการทำงานระหว่างน.ส.ยิ่งลักษณ์ กับนายกฯอภิสิทธิ์ ถ้าถามขณะนี้ไม่สามารถตอบได้ เพราะยังไม่เห็นผลงานของน.ส.ยิ่งลักษณ์ ต้องให้เวลาทำงานก่อน ถึงจะเปรียบเทียบกับนายกฯอภิสิทธิ์ได้

หรือถ้าได้ทำงานแล้ว จะเป็นคำถามว่าน.ส.ยิ่งลักษณ์ ที่ยังไม่มีประสบการณ์การเมือง จะทนต่อกระแสได้หรือไม่ เพราะการเป็นนายกฯ มักมีแรงเสียดทานมาก ถ้าจิตใจไม่เข้มแข็งพอ เมื่อโดนกระตุกเข้าหน่อย ดีไม่ดี อาจม้วนเสื่อกลับบ้านก่อนกำหนด เราต้องวัดใจกันตรงนี้ด้วย



สมศักดิ์ ปริศนานันทกุล

คณะกรรมการที่ปรึกษาหัวหน้าพรรคชาติไทยพัฒนา

ในฐานะที่น.ส.ยิ่งลักษณ์ เป็นน้องสาวของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ คงทำให้การเมืองมีสีสันมากขึ้น ยิ่งเมื่อตัดสินใจเข้ามาทำงานการ เมืองอย่างเปิดเผยเต็มตัว เชื่อว่าสมาชิกพรรคเพื่อไทยคงมีกำลังใจกันมากขึ้น ซึ่งเป็นผลดีต่อประชาชนและประเทศชาติ เนื่องจากมีตัวเลือกในการทำหน้าที่บริหารประเทศมากขึ้น

แต่ถ้าหลายคนจะมองว่าเป็นตัวแทนของอดีตนายกฯทักษิณ คงเป็นการมองอย่างอคติ เพราะไม่ว่าพรรคเพื่อไทยจะส่งใครขึ้นมา ต้องถูกมองว่าคนๆ นั้นเป็นเงาอดีตนายกฯทักษิณทั้งนั้น

ที่ผ่านมาทั้ง นายสมัคร สุนทรเวช นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ อดีตนายกฯ และนายยงยุทธ วิชัยดิษฐ หัวหน้าพรรคเพื่อไทย ก็ถูกมองอย่างนั้น ซึ่งไม่ว่าพรรคเพื่อไทยจะทำอะไร จะเกิดการตัดสินในความรู้สึกของคนเป็นเช่นนั้น

ผมไม่อยากให้มองอย่างนั้น แต่สิ่งที่ควรมองเป็นสำคัญคือ สามารถเข้ามาแก้ปัญหาให้สังคมไทย ให้ประเทศไทยและได้รับความไว้วางใจได้หรือไม่มากกว่า

ส่วนจะทำให้เกิดภาพปรองดองมากขึ้นหรือไม่เพราะน.ส.ยิ่งลักษณ์ เป็นผู้หญิงนั้น มองว่าทุกวันนี้สังคมไทยให้ความเสมอภาค ความเท่าเทียม เชื่อว่าศักยภาพของบุคคลในการทำงานจะทำให้ประชาชนไม่มีเส้นแบ่งเรื่องเพศ ชาย หรือหญิง

ทั้งนี้ ความปรองดองไม่ได้ขึ้นอยู่กับว่าชายหรือหญิง แต่อยู่ที่เจตนารมณ์มากกว่า ว่าจะนำนโยบายเดินไปสู่สันติสุขอย่างไร ดังนั้น เป็นผู้หญิงหรือผู้ชายจึงไม่สำคัญ



สุรชัย ศิริไกร

อาจารย์คณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์



การชูน.ส.ยิ่งลักษณ์ ถือเป็นความพยายามหนึ่งของพ.ต.ท.ทักษิณ ที่ต้องการกลับมาทำงานการเมือง เพราะเล็งเห็นแล้วว่าไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะกลับมา เนื่องจากต้องคำพิพากษาอยู่ จึงเป็นไปได้ว่า การชู น.ส. ยิ่งลักษณ์ เพื่อมุ่งช่วยเหลือพ.ต.ท.ทักษิณ โดยเฉพาะการออกกฎหมาย นิรโทษกรรม

อีกทั้งพ.ต.ท.ทักษิณ คงไม่กล้าไว้ใจคนอื่น นอกจากสายเลือดตัวเองเพราะเคยมีบทเรียนมาแล้วในเรื่องการทรยศหักหลัง ขณะเดียวกันก็เกิดภาพชัดเจนในเรื่องการเป็นนอมินี

ที่สำคัญ การชูน.ส.ยิ่งลักษณ์ จะช่วยทำให้พรรคเพื่อไทยได้คะแนนเสียงเลือกตั้งไม่น้อยกว่าเดิม หรืออาจจะมากกว่าด้วยซ้ำ โดยเฉพาะภาคเหนือ และภาคอีสาน ยังนิยมในตัวพ.ต.ท.ทักษิณอยู่ ตรงนี้จึงไม่น่ามีปัญหา

ประกอบกับกระแสของพรรคประชาธิปัตย์ตกลงอย่างมาก ดูได้จากผลโพลต่างๆ ที่ส่วนใหญ่จะไม่เลือกพรรคประชาธิปัตย์อีก และกฎเหล็ก 9 ข้อของนายกฯก็ไม่เห็นมีอะไร มีแต่ทำให้คนเสื่อมศรัทธา ตรงนี้ยอมรับว่าพรรคเพื่อไทยมีโอกาสที่จะจัดตั้งรัฐบาลอีกครั้ง

ขณะที่การทำงาน หากน.ส.ยิ่งลักษณ์ เป็นผู้นำจัดตั้งรัฐบาลจริง ก็ไม่ต้องเป็นห่วง เพราะมีทีมงาน ที่ปรึกษาที่ดีอยู่แล้วว่าควรเล่นและแสดงบทบาทไปทางไหน รวมทั้งมีการแนะนำแนวทางจากพ.ต.ท.ทักษิณ

จึงขึ้นอยู่กับวุฒิภาวะการตัดสินใจส่วนตัวว่าจะเข้มแข็งแค่ไหน อะไรที่ต้องเด็ดขาดก็ต้องตัดสินใจ อย่างไรก็ตาม เชื่อว่าการมีนายกฯเป็นผู้หญิงคงไม่ใช่ประเด็นทำให้การเมืองลดความร้อนแรงลง





ว่าที่ร.ต.พงศ์พันธุ์ สุนทรชัย

ส.ส.หนองคาย พรรคเพื่อไทย

เป็นเรื่องดีที่พรรคชูน.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ลงส.ส.บัญชีรายชื่อ อันดับ 1 แต่กลัวว่าเจ้าตัวจะไม่ตัดสินใจลงสมัคร การเสนอชื่อน.ส.ยิ่งลักษณ์ คงไม่ใช่ความประสงค์ของเจ้าตัว

แต่ทางคณะทำงานยุทธศาสตร์และการเมืองพรรคเพื่อไทยต้องการให้มาเป็นส.ส. เพราะเห็นว่ามีความรู้ความสามารถ ต้องการให้มาเรียนรู้การทำงานการเมืองก่อนจะก้าวไปสู่ตำแหน่งรัฐมนตรีหรือตำแหน่งอื่นๆ ต่อไป และมีความเป็นไปได้ที่อาจจะไปถึงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี

ส่วนที่ตั้งข้อสังเกตว่าจะสู้นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกฯไม่ได้ ผมเชื่อว่าสู้ได้อย่างไม่มีปัญหา เพราะน.ส.ยิ่งลักษณ์ เป็นคนที่มีความสามารถ เป็นนักธุรกิจที่บริหารงานมูลค่านับแสนล้านบาทได้ประสบความสำเร็จ ขณะที่นายอภิสิทธิ์ ไม่มีคุณสมบัติเหล่านี้หรือคุณสมบัติอะไรเป็นพิเศษ

อีกทั้งน.ส.ยิ่งลักษณ์ ยังคลุกคลีช่วยงานพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร พี่ชาย เกี่ยวกับการเมืองมานาน ตั้งแต่ปี 2544 และลงพื้นที่ทำกิจกรรมต่างๆ รวมทั้งศึกษาโครงสร้างการทำงานของพรรค ถือว่ามีคุณสมบัติที่เป็นนายกฯได้

มั่นใจว่าหากน.ส.ยิ่งลักษณ์ ลงส.ส.ปาร์ตี้ลิสต์ มีโอกาสที่จะชนะ เพราะมีจุดขายเรื่องนโยบายพรรค เป็นบุคคลที่ฉลาด อ่อนน้อมถ่อมตน และสามารถพูดคุยกับทุกฝ่ายได้

ดังนั้น ควรเปิดโอกาสให้แสดงวิสัยทัศน์ นำเสนอนโยบายพรรคก่อนจะตัดสิน เปรียบเหมือนชกมวย หากยังไม่ขึ้นเวทีก็ยังไม่เห็นว่าฝีมือเป็นอย่างไร และเราเชื่อว่านักมวยของเราฝีมือไม่เป็นรองใคร จึงไม่จำเป็นต้องมีตัวช่วยเป็นพิเศษ เพราะช่วง 2-3 เดือนที่ผ่านมา น.ส.ยิ่งลักษณ์ ทำการบ้านเตรียมตัวเป็นอย่างดี

ส่วนตัวเชื่อว่าประชาชนจะให้โอกาส เพราะถือเป็นตัวแทนในการทำงานทางการเมืองของพ.ต.ท. ทักษิณ ทางหนึ่งด้วย

ข่าวส่งเสริมคนดี

จำนวนผู้เข้าเยี่มมชม

link to affordable web hosting
Powered by web hosting provider .

สถิติการเข้าชม DMNEWS

eXTReMe Tracker