โดย ทีมข่าวไทยอีนิวส์
28 มีนาคม 2554
กิจกรรมรณรงค์ให้ยกเลิกมาตรา 112 เป็นไปอย่างแพร่หลายทั้งในและต่างประเทศ ล่าสุดกลุ่มคนไทยในเยอรมนี ได้จัดกิจกรรมรณรงค์ขึ้นที่ Saarbruecken เมืองหลวงของแคว้น Saarland
กิจกรรมรณรงค์ครั้งนี้นอกจากเพื่อหนุนเสริมความเคลื่อนไหวในประเทศไทย และคนไทยในระดับนานาชาติแล้ว ก็เพื่อสร้างความตระหนักรับรู้ในปัญหานี้ให้เป็นที่แพร่หลาย เพื่อนำไปสู่การยกเลิกมาตรา 112
********
ชมวิดิโอ หรือเทปเสียงงานอภิปรายนิติราษฎร์ ที่ธรรมศาสตร์ 27 มี.ค.54
เสียง ftp://baygon5.no-ip.org/savefiles/27-03-11/niti27-03-11.mp3
vdo แบ่ง3ช่วง
ช่วง 1 ftp://baygon5.no-ip.org/savefiles/27-03-11/niti27-03-11-1.wmvช่วง 2 ftp://baygon5.no-ip.org/savefiles/27-03-11/niti27-03-11-2.wmvช่วง 3 ftp://baygon5.no-ip.org/savefiles/27-03-11/niti27-03-11-3.wmv
*********
ก่อนหน้านี้คนไทยในต่างประเทศ ในนามเสื้อแดงนานาชาติได้ออกแถลงการณ์ฉบับหนึ่งเรียกร้องให้ยกเลิกม.112
จดหมายเปิดผนึกฉบับที่ 1 เสื้อแดงนานาชาติ :สนับสนุนให้ยกเลิกกฏหมายอาญามาตรา 112
ถึง บุคคล กลุ่มบุคคล องค์กร สถาบัน และหน่วยงานเกี่ยวข้อง อันสามารถกำหนดให้ข้อเรียกร้องที่ระบุในจดหมายนี้บรรลุผล
นับแต่มีการรัฐประหารล้มล้างรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้งของประชาชนด้วยคะแนนเสียงท่วมท้น เมื่อวันที่ ๑๙ กันยายน พ.ศ. ๒๕๔๙ เป็นต้นมา ประเทศไทยตกอยู่ภายใต้การปกครองอย่างเผด็จการซ่อนรูป จากอำนาจรวมศูนย์ของบุคคล (Autocracy) และกลุ่มคณะบุคคล (Oligarchy) ร่วมมือประสานความสอดคล้อง โดยวิธีปฏิบัติบิดเบือนระบอบประชาธิปไตยด้วยกระบวนการตุลาการภิวัฒน์และองค์กรอิสระ ทำลายรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้ง โดยชี้นำบังคับให้กลุ่มการเมืองที่ได้รับเลือกตั้งบางส่วนแปรพักตร์ไปสนับสนุนพรรคประชาธิปัตย์ ที่มีคะแนนเสียงส่วนน้อย เป็นแกนจัดตั้งรัฐบาลในค่ายทหาร
เมื่อประชาชนออกมาชุมนุมเรียกร้องให้กลับไปสู่การยอมรับเสียงข้างมากจากการเลือกตั้ง รวมทั้งต่อต้านการเข้ามาแทรกแซงทางการเมืองโดยอำนาจแฝงเร้น หรือที่เรียกว่า “มือที่มองไม่เห็น” ไปจนถึงการต่อต้านอำนาจนอกระบบของมือที่มองเห็น เช่นประธานองคมนตรี แต่กลุ่มอำนาจนอกระบบกลับไม่สนใจตอบสนอง จึงเป็นเหตุสำคัญทำให้ประชาชนเข้าร่วมประท้วงแบบสันติวิธีขยายจำนวนมากขึ้นหลายแสนคน ในนามแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการ (นปช.)
ด้วยความกลัวในพลังประชาชนและกลัวต่อความสูณเสียอำนาจ จึงใช้กำลังทหารพร้อมอาวุธสงคราม และพลแม่นปืน (สไน้เปอร์) เข้าปราบปรามเข่นฆ่าผู้ประท้วงที่ชุมนุมกันอย่างสันติ และปราศจากอาวุธ ระหว่างวันที่ ๑๐ เมษายน ถึง ๑๙ พฤษภาคม ๒๕๕๓ จนเป็นผลให้ประชาชนที่เรียกร้องต้องการให้มีประชาธิปไตยแท้จริง เสียชีวิตไม่น้อยกว่า ๙๑ คน บาดเจ็บเกือบสองพัน และสูญหายอีกจำนวนหนึ่ง
ไม่เพียงแต่เท่านั้น ผู้เข้าร่วมการชุมนุมระดับแกนนำที่รอดตายจำนวนมาก ถูกกฎหมายเถื่อนตามกวาดล้างคร่าชีวิตไม่ต่ำกว่า ๕ ราย และบางส่วนไม่น้อยกว่าสองร้อยคนถูกจับกุมคุมขัง ตั้งข้อหาร้ายแรงเป็นผู้ก่อการร้าย โดยไม่ได้รับสิทธิของการดำเนินคดีเฉกเช่นประเทศอารยะต่างๆในสากลโลก
ส่วนประชาชนที่เห็นพ้องและ/หรือ สนับสนุนการชุมนุมเรียกร้องประชาธิปไตย ได้แสดงความคิดเห็นของตนอย่างเสรีตามสิทธิอันพึงมีของปัจเจกชนในสังคมประชาธิปไตย กลับถูกคุกคาม รังควาญ กลั่นแกล้งด้วยการแจ้งข้อหา ต้องการล้มสถาบันหรือหมิ่นพระบรมเดชานุภาพฯ อันเป็นความผิดตามประมวลกฏหมายอาญา มาตรา ๑๑๒ ทำให้มีผู้ที่ถูกคุมขังด้วยข้อหาดังกล่าวจำนวนมาก รวมทั้งหลายรายถูกตัดสินอย่างเร่งรัดให้รับโทษจำคุกเป็นเวลานานตั้งแต่ ๘ ปีถึง ๑๘ ปี ซึ่งขบวนการพิจารณาคดีทั้งหมดนั้น กระทำโดยลักษณะขัดหลักการและระเบียบกฏหมายสากลที่อาระยะประเทศยอมรับ
ด้วยเหตุแห่งความไม่ชอบในหลักปกครอง และกระบวนยุติธรรมดังกล่าวข้างต้น จึงทำให้ประเทศชาติเต็มไปด้วยความแตกแยก จนเป็นความขัดแย้งรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ นอกจากนั้น ฝ่ายกลุ่มผู้กุมอำนาจและกลุ่มสนับสนุน ยังพยายามอย่างไม่ลดละที่จะจุดไฟสร้างความเกลียดชัง เพื่อกล่าวหาประชาชนที่มีความคิดต่าง ยิ่งทำให้ประชาชนผู้ไม่ได้รับความเป็นธรรม ก้าวมาสู่จุดที่ไม่สามารถถอยและพร้อมที่จะแตกหักเพื่อปกป้องตนเอง
ดังนั้น พวกเราผู้ยึดมันในความถูกต้อง ความยุติธรรม และรักประธิปไตย ที่มีชื่อต่อท้ายจดหมายเปิดผนึกฉบับนี้เห็นพ้องร่วมกันว่า เพื่อระงับยับยั้งแนวโน้มมิคสัญญีในชาติเสียแต่บัดนี้ และเชื่อว่าจะเป็นหนทางเดียวที่แก้ปัญหาได้ จึงขอเรียกร้องต่อผู้มีส่วนเกี่ยวข้องทั้งหลาย ให้ดำเนินการดังต่อไปนี้
๑. ยกเลิกกฏหมายอาญามาตรา ๑๑๒ เสียโดยสิ้นเชิง เพราะการปกป้องสถาบันพระมหากษัตริย์นั้นบรรลุได้ด้วยการบังคับใช้กฏหมายอาญาปกติซึ่งมีอยู่แล้ว การคงมาตรา ๑๑๒ ไว้รังแต่จะทำให้เสื่อมเสียแก่สถาบันมากยิ่งขึ้น ด้วยเพราะถูกนำมาใช้ทางผลประโยชน์การเมือง และการทำลายล้างฝ่ายตรงข้าม
๒. ปลดปล่อยผู้ต้องหา และผู้ต้องโทษทางการเมืองทั้งหมดโดยไม่มีเงื่อนไข ไม่ว่าจะเป็นข้อหาผู้ก่อการร้ายจากผลแห่งการประกาศใช้พระราชกำหนดปฏิบัติราชการสถานการณ์ฉุกเฉิน หรือข้อหาหมิ่นตามประมวลกฏหมายอาญามาตรา ๑๑๒
๓. เร่งรัดการสืบสวน เพื่อนำคนผิดมาลงโทษ กรณีผู้เสียชีวิตในเหตุการณ์วันที่ ๑๐ เมษายน และการกระชับพื้นที่สี่แยกราชประสงค์ เมื่อวันที่ ๑๙ พฤษภาคม ๒๕๕๓
สุดท้ายนี้ จึงขอปฏิญานว่า จะร่วมยืนเคียงข้างกับพี่น้องคนไทยทั่วทุกมุมโลก พี่น้องคนไทยผู้ยึดมันในหลักการประชาธิปไตยในประเทศทุกคน รณรงค์ต่อสู้อย่างไม่หยุดยั้ง ในการที่จะทำให้ได้รับการตอบสนองจากข้อเรียกร้องและทำให้ประเทศไทยมีประชาธิปไตยสมบูรณ์ ตามวัตถุประสงค์ที่ตั้งปณิธานไว้โดยเร็ว
ร่วมลงนามโดย
Thai Red Australia
Red USA
แดงสังคมนิยม Sweden
Thai Red Japan
Red in Japan
แดงแนวร่วม Taiwan
แดงแนวร่วม Greek
********
จดหมายเปิดผนึกฉบับภาษาอังกฤษ
March 10, 2011
An Appeal for Justice:
An Open Letter to the People of Thailand and Their Representatives:
Ever since the military coup of September 19, 2006 that overthrew the legitimate government of Prime Minister Thaksin Shinawatra whose Thai Rak Thai Party was overwhelmingly elected into office.
Thailand now ruled by Dictatorial Power of Autocracy and Oligarchy.
The group of these ruling elite has been lying and distorting facts, claiming that Thailand is a democratic state. They were brutal. They used every tools in their disposals, including Military, Judicial, and ‘Independent Bodies’ whose mandate is to be fair and impartial, destroying the governments elected by the people.
They used the military and its apparatus to force MPs to switch side. And helped forming the current Thai government of Mr. Abhisit Vejjajiva which literally can be said was born from the military womb.
Once the people learnt of the truth, they came out en-masse to protect their rights. Under the banner of United Front for Democracy against Dictatorship or UDD, they demanded the return of power to the people through electoral process, demanding ‘no political interference’ from hidden power or ‘Invisible Hands’, and Privy Council.
What they got in return were bullets in the heads in 2009 and 2010!
During 10 April to 19 May 2010, the ruling elite used military force (tanks and snipers) to disperse the demonstrators in Bangkok, resulted in 91 deaths, almost 2000 injuries, hundred missing.
Many local leaders of the UDD who survived the ‘Bangkok Massacre’ went home, some into hiding. There was news report of no less than 5 local leaders were assassinated. Over 200 remained in jails on terrorism charge for exercising their Constitution Rights of peaceful assembly.
Those in jails seldom allowed to have bails, If bails were granted, amount was so large that beyond the means of many families and friends to provide.
Now Thailand behaves as a 3rd rate nation.
People who agreed or supported the ideal of democracy or against the political interference of Thai politics from ‘Outsider’ by expressing their views in public were harass, intimidated and/or charged with Les Majeste (LM) under Criminal Law 112.
Any citizens of the world can see the oddness of this law. Everyone can file the LM charge. Once file, the authorities have to investigate and proceed with the charge. If the authority refuses to do so may misconstrue as an act of disrespect and/or constitutes as violation of the LM itself. So every LM accusations are taken seriously by the authorities. Often it is used to stifle dissents and now more than ever becomes a political tool.
Cases of LM skyrocketed. As of today, 5 more will be charged, and 39 more will be investigated. The penalty is unusually harsh. For each counts, the minimum penalty is 3 years, and maximum 15 years. This penalty is much harsher than during the time of absolute monarchy!
No wonder Thailand is now divided.
The small ruling elite, in light of this awareness, seek to ignore. The flame of injustice is still hotly burning. How long can people take?
As concerned Thais, we are afraid that Thailand will be next in line for chaos and violent just like Libya should Thailand remains status quo. Movement for Democracy is spreading.
To prevent this destructive path, we believe Thailand must change. A sense of justice and fair play must be restored.
To achieve that end, we would like to propose the followings for your consideration:
1. Campaign to reform Les Majeste Law. Help free Khun Surachai Danwattananusorn and many others charged with Les Majeste. Les Majeste Law shall not be used for any political purpose, gain, or to stifle dissents. We believe the first step is to abolish Section 112 of the Criminal Law. There are laws currently in the book such as Defamation is sufficient enough to protect the institution of Monarchy.
2. We believe in healing the wound. The first step must be to free all Political Prisoners and Prisoners of Conscience. This would include those arrested for demonstrations during the Emergency Decree. Wound cannot be healed if victims still victimized.
3. Truth and Reconciliation Commission has to be more effective, and impartial. It is almost one year since the ‘Bangkok Massacre’ and the commission has not yet issue a single report. Reconciliation and Forgiveness are very important--- but truth must come first. The perpetrators of murder have to be identified. Should amnesties be considered, it must be made aware that this does not change the fact that overthrowing the government in a coup or shooting unarmed civilians is wrong and against the law. We believe those responsible for the massacre during 10 April through 19 May 2010 should be brought to justice.
We understand that this undertaken is not easy, but necessary. We also understand that this idea is not new in Thailand. Many have done or making similar plea before us. We admire and applaud them and would like to follow their footsteps.
We wrote this letter to you, the People of Thailand as well as the representatives of the Thai People because we strongly believe that if Thailand is truly to be democratic and civilized, actions must come from you.
We the undersigned are committed to the course of justice. We want to see a better Thailand. We pledge to work together with friends around the world to help bring justice, peace, democracy, and prosperity to Thailand.
“If mind can conceive it, and your heart can believe it, we know you can achieve it”
Yours Truly,
Thai Red Australia
Red USA
แดงสังคมนิยม Sweden
Thai Red Japan
Red in Japan
แดงแนวร่วม Taiwan
แดงแนวร่วม Greek
ยกเลิก-กิจกรรมรณรงค์ยกเลิกมาตรา112 เป็นไปอย่างแพร่หลาย ทั้งในและต่างประเทศ ขณะที่"คณะชาวไทยผู้สนับสนุนประชาธิปไตยในสหรัฐอเมริกา"เคยเคลื่อนไหวยื่นจดหมายต่อรัฐบาลนายชวน หลีกภัย เมื่อปี2536 หรือ 18 ปีที่แล้ว ให้ยกเลิกรัฐธรรมนูญและกฎหมายอาญาหลายมาตรา เพื่อไม่ให้ฝ่ายต่างๆนำสถาบันกษัตริย์ไปเป็นเครื่องมือทางการเมือง ซึ่งกระทบกระเทือนต่อสถาบันฯเอง และให้ประชาชนแสดงความเห็นได้โดยเปิดเผยเช่นเดียวกับอารยะประเทศทั่วโลก เหตุการณ์ผ่านไป 18 ปี การณรงค์ประเด็นนี้กลับมาอีกคำรบ
*******
เรื่องเกี่ยวเนื่อง:
-อภิปรายนิติราษฎร์ พร้อมด้วยข้อเสนอ การแก้ไขเพิ่มเติมกฎหมายเกี่ยวกับกฎหมายมาตรา 112
-เคลื่อนไหวใหญ่เลิก#112วันนี้ เจ้ย-อภิชาติพงศ์โดดร่วมนักวิชาการ-คนดังระดับโลกตื่นรู้กฎหมายหมิ่นฯ