คอลัมน์ เหล็กใน
มันฯ มือเสือ
ทั้งยังขอร้องทุกฝ่ายช่วยกันสนับสนุนการเลือกตั้งเพื่อให้บ้านเมืองเดินหน้าต่อไปได้
ขณะที่พรรคการเมืองเล็กใหญ่ต่างขานรับแนวทางนี้ ทั้งยังร่วมมือร่วมใจผลักดันกฎหมายลูก 3 ฉบับรองรับการเลือกตั้งและการทำงานของกกต. จนผ่านวาระแรกอย่างรวดเร็ว
นั่นเพราะทุกพรรคการเมืองและประชาชนจำนวนมากต่างคาดหวัง การเลือกตั้งจะเป็นเครื่องยุติความขัดแย้งทางการเมืองที่ดำเนินมายาวนานหลายปี
กระนั้นก็ตามยังอุตส่าห์มีบุคคลบางกลุ่มบางพวกพยายามกวนน้ำให้ขุ่น
เคลื่อนไหวปล่อยข่าวตลอดเวลาเช่นกันว่าอาจไม่มีการเลือกตั้งเกิดขึ้น เพราะทหารจะออกมาปฏิวัติล้มกระดานเสียก่อน
ทำให้ทั้งพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผบ.ทบ. หรือแม้แต่ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รมว.กลา โหม ต้องออกมาให้หลักประกันว่า กองทัพพร้อมสนับสนุนการเลือกตั้ง
และไม่ทำปฏิวัติเด็ดขาด
ทีนี้พอแผนยั่วยุกองทัพทำปฏิวัติดูท่าจะไม่สำเร็จ กลุ่มคนดังกล่าวเลยเปลี่ยนวิธีใหม่มาเป็นการกดดันเรียกร้องให้กกต.ลาออก จะได้ไม่มีหน่วยงานจัดการเลือกตั้ง
ขีดเส้นเวลาให้เสร็จสรรพว่า กกต.ควรลาออกหลังจากรัฐบาลประกาศยุบสภาแล้วเพื่อให้เกิดสุญญากาศทางการเมือง
จากนั้นก็ตั้งรัฐบาลแห่งชาติขึ้นมาบริหารประเทศ เปิดโอกาสให้ "คนนอก" เข้ามาเป็นนายกรัฐมนตรี ตามบทบัญญัติในมาตรา 7 ของรัฐธรรมนูญ
คนคิดแผนนี้ได้ต้องถือว่าวิปริต
มีกลุ่มที่จัดการชุมนุมอยู่ขณะนี้ที่พูดจาในทำนองเดียวกัน เป็นกลุ่มเดียวกับที่เคลื่อนไหวจุดชนวนสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา
ครั้งนี้หันมามุ่งการเมืองในประเทศ
ทั้งที่แรกเริ่มเดิมทีคนกลุ่มนี้ได้ตั้งพรรคการเมืองของตนเองขึ้น แต่ไปๆ มาๆ ทำท่าจะไปไม่รอดเพราะขาดผู้สนับสนุน ทั้งยังขยันสร้างศัตรู ด่ากราดคนอื่นไปทั่ว
มิตรสหายแนวร่วมนับวันยิ่งร่อยหรอ
ถึงเวลาเลือกตั้งแทนที่จะเอาเวลาไปเตรียมตัวส่งคนลงสมัคร และวางนโยบายหาเสียงแข่งกับพรรคอื่นๆ ดันเอาเวลามาจัดชุมนุมเรียกร้องวิธีการนอกระบบ
อย่างนี้ไม่เรียกว่าเป็นกลุ่มถอยหลังลงคลอง แล้วจะเรียกว่าอะไร
ใช่-ไม่ใช่...พี่น้อง!