บล็อคข่าวส่งเสริมคนดี (รักดีหามจั่ว รักชั่วหามเสา หามจั่วก็หนักนะ)

ข่าวจากสื่อ

บทความจากสื่อ

วันศุกร์ที่ 11 มีนาคม พ.ศ. 2554

จี้ รบ.ไทย ตอบรับการเยือนของคณะทำงาน UN หวังหยุด "คุมตัวตามอำเภอใจ-คนหาย"

ที่มา ประชาไท

อังคณา นีละไพจิตร ในนามคณะกรรมการนักนิติศาสตร์สากล เรียกร้องให้คณะทำงานฯ ยูเอ็น ร่วมมือกับรัฐบาลไทยยุติการควบคุมตัวตามอำเภอใจ โดยให้รัฐบาลไทยตอบรับการมาเยือนอย่างเป็นทางการของคณะทำงานยูเอ็น พบยังมีกรณีผู้สูญหายกว่า 50 กรณี ห่วงการคุมตัวใต้ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ขัดมาตรา 9 ของกติกาสากลระหว่างประเทศว่าด้วยสิทธิพลเมือง และสิทธิทางการเมือง

เมื่อวันที่ 7 มีนาคม 2554 นางอังคณา นีละไพจิตร ประธานมูลนิธิยุติธรรมเพื่อสันติภาพ ในนามคณะกรรมการนักนิติศาสตร์สากล (International Commission of Jurists–ICJ) ได้แถลงด้วยวาจาระหว่างการเสนอรายงานร่วมของคณะทำงานด้านการบังคับสูญหายโดยไม่สมัครใจ และคณะทำงานด้านการควบคุมตัวตามอำเภอใจ ขององค์การสหประชาชาติ ในที่ประชุมคณะมนตรีสิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติ นครเจนีวา สวิตเซอร์แลนด์ เรียกร้องให้คณะทำงานฯ ร่วมมือกับรัฐบาลไทยยุติการควบคุมตัวตามอำเภอใจ และให้ความกระจ่างถึงชะตากรรมของบรรดาผู้ถูกบังคับให้สูญหาย โดยให้รัฐบาลไทยตอบรับการมาเยือนอย่างเป็นทางการของคณะทำงานของสหประชาชาติ

ทั้งนี้เมื่อ 2 ปีที่แล้ว ในการประชุมครั้งที่ 10 ของคณะมนตรีสิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติ คณะกรรมการนักนิติศาสตร์สากลได้แสดงความยินดีต่อรัฐบาลไทยในการให้การรับรองว่าผู้กระทำผิดในการทำให้นายสมชายสูญหายจะต้องถูกนำเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม แต่จนปัจจุบันยังไม่มีมาตรการอย่างเป็นรูปธรรมที่จะหาตัวผู้รับผิดชอบต่อการสูญหายของนายสมชาย นีละไพจิตร ในขณะที่ครอบครัวยังต้องเผชิญกับการข่มขู่ คุกคาม โดยเฉพาะในช่วงเวลาที่จะมีการอ่านคำพิพากษา

นางอังคณายังกล่าวถึงกรณีผู้สูญหายอื่นๆ ในประเทศไทยว่า คณะทำงานด้านการบังคับสูญหายโดยไม่สมัครใจของสหประชาชาติได้รับกรณีผู้สูญหาย 57 กรณีและได้ส่งคำถามถึงรัฐบาลไทย พบว่ามี 54
กรณีของผู้สูญหายรวมถึงคดีนายสมชาย นีละไพจิตร ที่ยังไม่ได้รับการคลี่คลาย

นอกจากนี้ คณะกรรมการนักนิติศาสตร์สากลยังได้แสดงความกังวลเรื่องการควบคุมตัวประชาชนตามอำเภอใจ ภายใต้พระราชกำหนดการบริหารราชการณ์ในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ.2548 ในประเทศไทย โดยกล่าวว่า พระราชกำหนดฯ ฉบับนี้ ได้กัดกร่อนหลักนิติธรรม
และหลักกฎหมายของประเทศไทย รวมถึงยังเป็นการส่งสัญญาณการขยายขอบเขตอำนาจในการจับกุม และควบคุมตัวประชาชน
โดยอนุญาตให้สามารถควบคุมตัวบุคคลได้ตามอำเภอใจ ซึ่งขัดแย้งกับมาตรา 9 ของกติกาสากลระหว่างประเทศว่าด้วยสิทธิพลเมือง และสิทธิทางการเมือง

ทั้งนี้ ดร.เจรามี ซาร์กิน ประธานคณะทำงานด้านการบังคับสูญหายโดยไม่สมัครใจของสหประชาชาติ ได้แถลงเรียกร้องให้รัฐต่างๆ พัฒนาให้มีกฎหมายภายในรัฐต่างๆ กำหนดให้การบังคับสูญหายเป็นอาชญากรรม
รวมทั้งการรับรองสิทธิของเหยื่อและครอบครัว ไม่ว่าจะเป็นสิทธิที่จะทราบความจริง สิทธิในความยุติธรรม และสิทธิที่จะได้รับการเยียวยา

ในขณะที่ประธานคณะทำงานด้านการควบคุมตัวตามอำเภอใจของสหประชาชาติได้เรียกร้องต่อรัฐบาลไทยตอบรับการมาเยือนอย่างเป็นทางการของคณะทำงานฯ เพื่อตรวจสอบสถานการณ์การควบคุมตัวบุคคลโดยไม่เป็นไปตามกฎหมาย และกติกาสากลระหว่างประเทศ

ข่าวส่งเสริมคนดี

จำนวนผู้เข้าเยี่มมชม

link to affordable web hosting
Powered by web hosting provider .

สถิติการเข้าชม DMNEWS

eXTReMe Tracker