เหล็กใน
ไม่น่าจะเป็นแค่การพบกันโดยบังเอิญ
เพราะเกิดแอ๊กชั่นขึ้นมาทันที
คนเสื้อแดงบางกลุ่มออกมาต่อต้านการพบปะกันครั้งนี้
ไม่พอใจท่าทีของรักษาการประธานนปช.ที่ดูจะพินอบพิเทาจนเกินไป
มองว่าคนเสื้อแดงเป็นฝ่ายถูกกระทำ ทำไมต้องไปเจรจาอ้อนวอนรัฐบาลซึ่งเป็นผู้กระทำ
ความจริงแล้วไม่แปลกใจเลยที่นางธิดาใช้วิธีเจรจา
เพราะคงอยากให้เห็นว่าคนเสื้อแดงก็ยึดแนวทางสันติวิธี
ฉะนั้น การพูดคุยเพื่อให้ฝ่ายรัฐบาลยอมปลดปล่อยผู้บริสุทธิ์ออกจากเรือนจำก็เป็นเรื่องที่ถูกต้องแล้ว
ไม่ใช่เรื่องเสียหน้าอะไร
กลับกันยิ่งตอกย้ำความเป็น 2 มาตรฐานและการละเมิด สิทธิมนุษยชนของรัฐบาลชุดนี้เข้าไปอีก !!
แต่ที่ดูไม่ปกติมาจากฝ่ายรัฐบาลมากกว่า !?
หลังการเจรจาครั้งนั้น มีผลทำให้เกิดการต่อต้านของเสื้อแดงบางกลุ่ม
เข้าทางรัฐบาล
พรรคประชาธิปัตย์ก็รีบออกมาขยายประเด็นความแตกร้าวภายในแกนนำคนเสื้อแดงทันที
ออกมากันหมดตั้งแต่นายกฯ รองนายกฯ โฆษกพรรค ระบุว่านปช.เริ่มสั่นคลอนแล้ว
เกิดปัญหาขัดแย้งกันระหว่างกลุ่มสันติวิธีกับกลุ่มฮาร์ดคอร์
แบบว่าคนเสื้อแดงไปไม่รอดแล้ว
จนสุดท้ายนายจตุพร พรหมพันธุ์ ต้องจับมือกับนางธิดาออกมาเปิดโปงว่าที่แท้นายอภิสิทธิ์นั่นแหละเป็นคนนัดเจรจาเอง !?
ไม่ใช่ฝ่ายเสื้อแดงเป็นคนเริ่มก่อน
อีกทั้งการชุมนุมรำลึกเหตุการณ์สลายม็อบราชประสงค์เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา คนเสื้อแดงมากันหลายหมื่น
เป็นการยืนยันแล้วว่าคนเสื้อแดงยังกลมเกลียว
ไม่ได้มีปัญหาภายใน
ดังนั้น น่าเชื่อว่าการนัดเจอกันครั้งนั้นเป็นอุบายการ เมือง
เป็นหลุมพรางที่รัฐบาลขุดดักไว้ !!
หวังให้เกิดความร้าวฉานขึ้นในกลุ่มคนเสื้อแดงกันเอง
หวังให้กลุ่มคนเสื้อแดงกับพรรคเพื่อไทยไม่ลงรอยกัน
นายอภิสิทธิ์อาจเล็งผลไปถึงหลังยุบสภาปีหน้า
แค่ประชานิยม หรือประชาวิวัฒน์ แจกดะแจกลูกเดียวคงไม่พอแล้ว
หากต้องการชนะการเลือกตั้ง
ก็ต้องเสี้ยมให้คนเสื้อแดงกับพรรคเพื่อไทยแตกหัก
ไม่งั้นก็หมดหวังกุมเสียงข้างมากในสภา
มีกลอุบายอะไรงัดมาใช้หมด
เข้าตำรา "ไม่ได้ด้วยเล่ห์ ก็ต้องเอาด้วยกล"