สวัสดีครับ กระผมชื่อ นายสมนึก ……. อายุ 16 ปีครับ
นักเรียนระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4
.
กระผมเป็นบุคคลหนึ่งครับ ที่มีความศรัทธาอย่างสูงต่อหลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชโช และ
ขอถือวิสาสะปวรณาตนเป็นศิษย์ของหลวงพ่ออีกคนหนึ่ง หลวงพ่อเป็นผู้ที่ทำให้ผมรู้สึกโชคดีที่สุด
ที่ได้เกิดมาบนแผ่นดินของพระพุทธศาสนา ศาสนาแห่งการที่จะดำเนินสู่ความพ้นทุกข์แห่งภัยของ
สังสารวัฎนี้ ซึ่งเมื่อก่อนนี้กระผมไม่ได้รู้สึกเช่นนี้เลยครับ ก่อนที่กระผมจะได้มาศึกษาปฎิบัติกับ
หลวงพ่อ ผมเห็นศาสนาพุทธ และธรรมะเป็นเรื่องที่น่าเบื่อ จะปฎิบัติไปทำไม ให้มันได้อะไร เพื่อ
อะไร เพราะเมื่อก่อนผมก็ไม่ค่อยเชื่อเรื่องกฎแห่งกรรม ชาตินี้ ชาติหน้า ผลบุญ สักเท่าไร(เป็นความ
คิดส่วนตัวครับ ) กระผมเป็นคนที่จะเชื่อเรื่องอะไรมันจะต้องพิสูจน์ได้ และสามารถอธิบายได้ด้วย
หลักของเหตุและผล ไม่จมอยู่กับความงมงาย จะต้องสามารถพิสูจน์ได้ตามหลักของวิทยาศาสตร์
ซึ่งผมคิดว่าเพื่อนๆ รุ่นเดียวอีกหลายๆคน ก็คงจะคิดเช่นเดียวกับผม ซึ่งแน่นอนที่เมื่อก่อนนี้ผมย่อม
เห็นว่าธรรมะ และพุทธศาสนารวมถึงศาสนาอื่นๆย่อมเป็นเรื่องที่ผมไม่ได้ศรัทธาสักเท่าไรนัก
เพราะมันไม่สามารถพิสูจน์ได้ หรือเห็นผลได้ แม้แต่การทำบุญ ก็ไม่แน่ใจว่าจะได้บุญจริงหรือปล่าว
และที่สำคัญภาพของพระพุทธศ่าสนาในหัวของผมมันก็เรื่องของไสยศสาสตร์ดีดีนี่เอง เพราะในวิถี
ชีวิตที่จะพบเห็นการปลุกเสกเครื่องรางของขลัง พิธีกรรมต่อดวง สะเดาะเคราะห์ แทบทุกวัน และ
ยิ่งทุกวันนี้กระแสจาตุคามรามเทพมาแรงยิ่งทำให้เห็นภาพที่พระสงฆ์กระทำการที่ผมนั้นหมด
ศรัทธาอยู่เนืองๆ ทั้งการปลุกเสกเครื่องรางของขลัง การเข้าทรง การแสดงพฤติกรรมแปลกๆซึ่งไม่
ได้มอบปัญญาให้กับพุทธศาสนิกชนเลย แต่การเปลี่ยนแปลงทางความคิดเละจิตใจครั้งยิ่ง
ใหญ่ที่สุดในชีวิตของผมก็เกิดขึ้น เมื่อผมได้รู้จักกับแนวทางการสอนของหลวงพ่อ(ตอนนั้นเมื่อ
ประมาณต้นปีที่แล้ว ผมอายุ 15 ปีครับ) หลวงพ่อได้เมตตานำหลักธรรมคำสอนของพระพุทธเจ้าที่
แสนจะเรียบง่ายและธรรมดาแต่ให้ผลอันยิ่งใหญ่ ซึ่งเมื่อผมนำมาปฎิบัติแล้วทำให้เกิดการ
เปลี่ยนแปลงในชีวิตและสิ่งที่อัศจรรย์ คำว่าอัศจรรย์ไม่ได้หมายความว่าในเรื่องของการมีอิทธิฤทธิ์
ปาฎิหารย์อะไร มันคนละเรื่องกันอย่างสิ้นเชิงเลย แต่ที่ว่าอัศจรรย์คือการได้พบกับความจริงของชีวิต
และสัจธรรม ความเป็นไปของจิตใจและร่างกาย เมื่อได้เรียนรู้และศึกษาปฎิบัติก็ได้พบว่า ธรรมะเป็น
เรื่องที่ไม่น่าเบื่อ เป็นเรื่องที่สูงสุดแล้วในชีวิต เป็นเรื่องที่มากกว่าการทำบุญเป็นเรื่องที่หาคำใดใดมา
เปรียบไม่ได้ เพราะธรรมะเป็นสิ่งเดียวที่จะนำไปสู่หนทางแห่งการพ้นทุกข์ โดยไม่ต้องยึดติดกับ
ความงมงาย หรือยึดติดกับการบริจาคทานเพียงเพื่อหวังบุญซึ่งทำไปด้วยโลภะอันแรงกล้า ที่ผู้กระทำ
ส่วนใหญ่ไม่เคยรู้ตัวเลย หลวงพ่อปราโมทย์ได้เมตตาสั่งสอนในสิ่งที่เรียกว่าธรรมะแท้ ๆ ธรรมะที่
บริสุทธิ์ ธรรมะที่ไม่ได้เจือปนไปด้วยความเชื่ออย่างขาดปัญญา ธรรมะที่ไม่ได้เจือไปด้วยไสยศาสตร์
ธรรมะที่พร้อมต่อการพิสูจน์หากแม้นผู้นั้นนำไปปฎิบัติ เป็นหลักคำสอนของพระพุทธะเจ้าที่นำไปสู่
การมีชีวิตที่พ้นทุกข์
.
หลังจากที่ผมได้ศึกษาปฎิบัติตามวิธีการสอนของหลวงพ่อปราโมทย์แล้ว ทำให้ผมได้รู้ว่า
ธรรมะเป็นเรื่องเหตุผลอันลึกซึ้ง เป็นเรื่องที่ทนต่อการพิสูจน์ทุกกาลทุกสมัย สามารถพิสูจน์ได้ด้วย
หลักการทางวิทยาศาสตร์ หรือกระบวนการใดใดก็ตาม เพราะธรรมะเมื่อปฎิบัติแล้วก็ย่อมเห็นผลใน
ขณะนั้น และพบกับการปลี่ยนแปลง ณ ขณะนั้น คือการเจริญสติสัมปชัญญะ รู้สึกตัว เห็นอาการ
เคลื่อนไหวของร่างกายและการเปลี่ยนแปลงของจิตใจ มองลงไปในแง่ที่ว่ามันเป็นอนิจจัง ทุกขัง
และอนัตตา แล้วจะพบกับความจริงของกายและใจ คนอื่นอาจจะบอกว่าหลวงพ่อสอนผิดบ้าง หรือ
สอนไม่ถูกต้องบ้าง ในความคิดของผม เชื่อว่าหากเราลองปฎิบัติด้วยใจที่วางทิฎฐิลงได้ โดยไม่มัวมา
ถกเถียงกัน ก็จะพบว่าคำสอนนั้นถูกต้องแล้วเพราะหากเรามัวแต่ถกเถียงแต่ไม่เคยได้ฝึกปฎิบัติสัก
ครั้งเลย หรือฝึกแล้วเกิดความย่อท้อ ไม่สามารถฝึกปฎิบัติต่อได้ ทำแล้วไม่เกิดการพัฒนาก็หาข้ออ้าง
ว่า วิธีนี้เป็นวิธีที่ผิดบ้าง ไม่ถูกต้องบ้าง ซึ่งจะเป็นการปิดกั้นเส้นทางแห่งการพ้นทุกข์ของตัวเองเสีย
ปล่าวๆ(ในความคิดส่วนตัวของกระผมนะครับ) กระผมไม่ค่อยได้สนใจข่าวสักเท่าไรนัก หรือไปถก
เถียงกับใคร เพราะหากเราภาวนาแล้วก็จะมีสติอยู่เนืองๆ ไม่ค่อยไหวติงกับข่าวพวกนี้ ด้วยเป้าหมาย
ของพวกเราเมื่อเปรียบเทียบกับข่าวพวกนี้แล้วมันเป็นเรื่องเล็กน้อยมาก ผมหมั่นภาวนาดูกาย ดูใจ
อยู่เนืองๆจนถึงวันนี้ผมสัมผัสได้ถึงความสุขของชีวิต เนื่องจากการที่มีจิตที่เข้มแข็ง ไม่หมกมุ่นหรือ
เผลอไปยึดติดอยู่กับความทุกข์ และชีวิตจิตใจได้เปลี่ยนเป็นคนละคนแล้วครับ
.
สุดท้ายนี้กระผมขอกราบขอบพระคุณอย่างใจที่เคารพอย่างสูงในความเมตตาของหลวงพ่อ
ปราโมทย์ ปาโมชโชที่ทำให้ผมได้รู้จักและรักในพระพุทธศาสนา ที่ทำให้ผมได้มีวันนี้ หลวงพ่อทำให้
ผมก้มลงกราบคุณของพระพุทธเจ้าด้วยใจที่เคารพอย่างสูงโดยไม่มีข้อกังกาใดใด ในคำสอนของ
พุทธะองค์ หลวงพ่อทำให้ผมมองธรรมะว่าเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตเพราะมันคือเรื่องของกายและใจ
ของเรานั่นเอง ทุกวันนี้ชีวิตผมมีความสุขขึ้นและอยู่ร่วมกับความทุกข์ได้ด้วยใจที่ทุกข์น้อยลงและ
เปลี่ยนแปลงไปอย่างมากก็เพราะหลวงพ่อ กระผมขอกราบขอบพระคุณมากครับ
.
สุปฎิปันโน ภควโต สาวกสังโฆ สังฆังนะมามิ
พระสงฆ์สาวกของพระผู้มีพระภาคเจ้า ปฎิบัติดีแล้ว ข้าพเจ้าขอนอบน้อมแด่พระสงฆ์ผู้นั้น
ปล.ข้อความดังกล่าวทั้งหมดเป็นข้อความที่เกิดจากความคิดเห็นและความรู้สึกส่วนตัวรวมถึงข้อ
เท็จจริงที่เกิดขึ้นกับตัวกระผมเองครับ ไม่เกี่ยวข้องกับผู้ใด หรือใครสั่งให้เขียนทั้งนั้น แต่มันเกิดจาก
จิตที่ศรัทธาในหลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชโช ที่ทำให้ผมค้นพบกับสิ่งล้ำค่าที่สุดในชีวิตของผมครับ
นายสมนึก