ที่ศูนย์ประชาสัมพันธ์ช่วยเหลือผู้ประสบภัย (ศปภ.) นายสมบัติ บุญงามอนงค์ ประธานมูลนิธิกระจกเงา แถลงข้อเสนอแนะแนวทางต่อรัฐบาลในการเตรียมรับมือกับสถานการณ์ภัยพิบัติน้ำ ท่วมว่า ขอให้ประชาชนที่อยู่พื้นที่เสี่ยงเตรียมความพร้อมในการอพยพ เก็บของขึ้นที่สูง และควรออกจากพื้นที่ โดยทำการตัดกระแสไฟให้เรียบร้อย แต่หากบุคคลใดมีความประสงค์จะเข้าไปอาศัยในพื้นที่น้ำท่วมนั้น ควรเตรียมอาหารและน้ำดื่ม เข้าไปอย่างน้ำ 1-2 อาทิตย์ ให้เพียงพอแก่การบริโภค และขอให้ภาคเอกชนจัดเตรียมสถานที่สำหรับฝากรถ เพราะไม่ควรนำรถไปจอดไว้ในทางด่วน หรือสะพาน เนื่องจากจะทำให้เป็นอุปสรรคต่อการขนส่ง และลดขีดความสามารถในการเข้าช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย
นายสมบัติกล่าวอีกว่า ขอให้ผู้ประสบภัยพิบัติน้ำท่วม เข้าพักอาศัยกับญาติ เพื่อนสนิท เพื่อช่วยลดปัญหาความแออัดที่ศูนย์พักพิง ขอให้ผู้ประกอบการหอพัก คอนโดฯ งดเว้นการจัดเก็บค่าเช่าล่วงหน้ารายเดือน สำหรับบริษัทเอกชน ห้างร้าน หากมีพนักงานที่ประสบอุทกภัยน้ำท่วม ควรประกาศให้เป็นวันหยุด และขอเรียกร้องให้ทางการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) กรมการปกครอง และกรมการปกครองส่วนท้องถิ่น จัดทำโครงการโฮมสเตย์ เพื่อให้ผู้ประสบภัยเดินทางไปพักอาศัยในต่างจังหวัดได้ ซึ่งทางมูลกระจกเงา ที่สำนักงานจังหวัดเชียงราย ได้เปิดรับผู้ประสบภัยจำนวน 50 คน เข้าพักอาศัย ในโครงการท่องเที่ยวชาวเผ่า เพื่อให้ผู้ประสบอุทกภัยได้เรียนรู้วิถีชีวิตของชาวเขา อย่างไรก็ตาม ขอให้มีการควบคุมราคาสินค้า ต้องจัดการกับผู้ประกอบการที่ฉวยโอกาสในการขึ้นราคาสินค้า