บล็อคข่าวส่งเสริมคนดี (รักดีหามจั่ว รักชั่วหามเสา หามจั่วก็หนักนะ)

ข่าวจากสื่อ

บทความจากสื่อ

วันศุกร์ที่ 11 กรกฎาคม พ.ศ. 2551

ในวิกฤติย่อมมีโอกาส

คอลัมน์: โต๊ะข่าวประชาทรรศน์

ปัญหาความเดือดร้อนของประชาชนคนส่วนใหญ่ของประเทศ ที่ต้องเผชิญกับค่าครองชีพที่พุ่งทะยานสูงขึ้น มาจากสิ่งที่ฝ่ายตรงข้ามกับรัฐบาล พยายาม “เติมเชื้อ” เพื่อทำลายความเชื่อถือศรัทธา เพราะต้องการให้สังคมมองว่า รัฐบาลไม่มีความ “จริงใจ” ในการแก้ปัญหาของประชาชน

ถ้ามองและคิดด้วยใจเป็นธรรมแล้ว จะเห็นว่ารัฐบาลพร้อมจะเดินหน้าทำงาน สานต่อนโยบายที่รัฐบาลไทยรักไทยได้วางรากฐานและดำเนินการ จนได้รับ “ความไว้วางใจ” อย่างถล่มทลายมาแล้ว

หลายโครงการรอการสานต่อและต่อยอด แต่ถูกขัดขวางโดยกลุ่มคนที่เรียกการกระทำของตัวเองว่า เป็นการกู้ชาติ มีการ “ลองของ” รัฐธรรมนูญที่ตั้งธงไว้แล้วว่า ไม่ต้องการให้รัฐบาลมีความเข้มแข็ง ซึ่งเปิดช่องให้เกิดปัญหาความวุ่นวายปั่นป่วนขึ้นในสังคม

เปิดช่องให้ “อันธพาลทางการเมือง” หยิบมาเป็นของเล่น จับมายื่นตีความกันจนเลอะเทอะ

ถามว่าวันนี้ประเทศชาติวิกฤติพอหรือยัง

ถ้าเรามองไปที่ “รากหญ้า” คนยากคนจน คนที่ด้อยโอกาส คนที่รอคอยโอกาส ซึ่งเป็นคนส่วนใหญ่ของประเทศ ต้องปากกัดตีนถีบในยุคข้าวยากหมากแพง เพื่อให้มีชีวิตอยู่รอด

ความจริงแล้วคนเหล่านี้ เขาพร้อมที่จะช่วยเหลือตัวเอง คงไม่มีใครคิดต่างไปจากนี้ เพราะ “ศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์” มีอยู่ในตัวของคนทุกคน ไม่ว่าจะเป็นคนที่มีอำนาจวาสนา มีบารมี มีเงินมีทอง เป็นเศรษฐี หรือแม้แต่พ่อค้าแม่ค้า หาบเร่แผงลอย ไปจนถึงคนที่ด้อยโอกาส คนที่ยังถูกทอดทิ้งให้เผชิญชีวิตตามลำพัง

การสร้างงานสร้างรายได้ เป็นความปรารถนาอย่างยิ่ง

รัฐบาลนี้มีนโยบายชัดเจนว่า ต้องการเพิ่มศักยภาพของกองทุนหมู่บ้านและชุมชน ให้เป็นแหล่งเงินหมุนเวียนในการลงทุน สร้างรายได้ลดรายจ่ายของประชาชน และสามารถต่อยอดไปสู่การเป็นธนาคารหมู่บ้านและชุมชน

สิ่งที่ได้รับคือ เขาสามารถเข้าถึงแหล่งเงิน เป็นการลดการพึ่งพาแหล่งการเงินนอกระบบ

นอกจากนี้ ให้สถาบันการเงินของรัฐ สนับสนุนผู้ประกอบการขนาดกลาง ขนาดย่อม ที่จะก้าวไปสู่วิสาหกิจชุมชน การสนับสนุนสินค้าโอทอป ที่เป็นภูมิปัญญาของท้องถิ่น ที่คนไทยมีความสามารถผลิตสินค้ามาประกวดประชันกันจนได้ 4 ดาว 5 ดาว เป็นสินค้าส่งออกนำรายได้เข้าประเทศ

รวมทั้งการสร้างหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้า การนำเทคโนโลยีสารสนเทศมาใช้เพิ่มประสิทธิภาพการเรียนการสอน การเรียนรู้อย่างจริงจัง

นี่เป็นบางส่วนของนโยบายที่ดีของรัฐบาล สามารถแก้ปัญหาความเดือดร้อน ปัญหาปากท้องของชาวบ้าน โดยเฉพาะในระดับ “รากหญ้า” ได้ แต่ยังไม่ได้มีการเดินหน้าไปอย่างที่ควรจะเป็น

การที่จะปล่อยให้คนเหล่านี้ดิ้นรนช่วยตัวเอง ออกไปรับจ้าง แบกปูน แบกหิน แบกทราย ก็มีปัญหา เพราะอสังหาริมทรัพย์ งานก่อสร้าง ถูกเงินเฟ้อเล่นงาน จนผู้ประกอบการหดหายไปกว่าครึ่ง

มีคำถามว่า ผู้จัดการชุมนุมประท้วงในขณะนี้ ได้รับเงินจากไหนมาเป็นค่าใช้จ่าย ซึ่งน่าจะไม่ใช่ก้อนเล็กๆ มีใครหยิบยื่นหรือต่อท่อมาจากใครที่ไหนอย่างไร

ปัญหาของบ้านเมืองที่ประสบอยู่นี้ คนอย่างอดีตนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง นายวีรพงษ์ รามางกูร พูดไว้ชัดว่า การเมืองส่งผลโดยตรงในการฉุดเศรษฐกิจ และมีความเห็นจาก นายณรงค์ชัย อัครเศรณี ประธานเอ็กซิม แบงก์ ที่บอกว่ารัฐบาลต้องดูแลเรื่องปากท้องของประชาชนโดยเร็วที่สุด

การที่จะยุติวิกฤติได้ก็ต้องมีสติ ต้องคิด และคิดถึงบ้านเมืองให้มาก ต้องให้โอกาสรัฐบาลทำงานช่วยเหลือเรื่องปากท้องของประชาชนก่อนเป็นอันดับแรก ส่วนเรื่องของคดีความก็ว่ากันไปตามขั้นตอนกระบวนการ

เลิกกันเสียทีได้ไหม สำหรับการเมืองที่ต้องการล้างผลาญทำลายกัน ทำลายความศรัทธาความเชื่อถือรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้ง ให้มาทำหน้าที่บริหารจัดการบ้านเมืองอย่างเต็มที่ จนคนรากหญ้าต้องทนทุกข์ระทม

ปัญหาการเมืองต้องแก้ด้วยการเมือง แต่วันนี้ การเมืองถูกแปลความเป็น “การเมืองใหม่” มีกลุ่มคนอ้างว่า ใช้สิทธิตามรัฐธรรมนูญ แต่ขณะเดียวกัน ไปละเมิดสิทธิสาธารณะ

ภาพของผู้ชุมนุมประท้วงที่ออกอาการถูกอกถูกใจ ปรบมือโห่ร้องด้วยความดีใจสะใจ กับถ้อยคำโจมตีกล่าวหาเพื่อล้มล้างรัฐบาลของผู้ปราศรัยบนเวที

ถือเป็นความสุขบนความทุกข์ของเพื่อนร่วมชาติ ไม่ใช่หรือ

แต่ก็ยังเชื่อว่า...ในวิกฤติย่อมมีโอกาสเสมอ

บิ๊กโบ๊ต


ข่าวส่งเสริมคนดี

จำนวนผู้เข้าเยี่มมชม

link to affordable web hosting
Powered by web hosting provider .

สถิติการเข้าชม DMNEWS

eXTReMe Tracker