เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 14 ก.ค. แกนนำกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ได้ยื่นหนังสือต่อคณะกรรมการ ป.ป.ช. นายศราวุธ เมนะเศวต เลขาธิการ ป.ป.ช. เพื่อให้ดำเนินคดีอาญากับนายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรี ครม.ทั้งคณะ ตลอดจนนายกฤช ไกรจิตติ อธิบดีกรมสนธิสัญญาและกฎหมาย นายเชิดชู รักตะบุตร อัครราชทูตประจำกรุงปารีส ปฏิบัติราชการที่กรมสนธิสัญญาและกฎหมาย นายพิษณุ สุวรรณรชฎ รองอธิบดีกรมเอเชียตะวันออก นายวีระศักดิ์ ฟูตระกูล ปลัดกระทรวงการต่างประเทศ พล.ท.แดน มีชูอรรถ เจ้ากรมแผนที่ทหาร พล.ท.สุรพล เผื่อนอัยกา เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ และ พ.ต.ท. ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี รวมทั้งหมด 41 คน ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 275 ข้อหามีเจตนาใช้อำนาจการบริหารราชการแผ่นดิน พ.ศ. 2545 กระทำการปกครองโดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย ทำให้เกิดผลเสียหายต่ออาณาเขตของประเทศไทย เข้าข่ายการใช้อำนาจหน้าที่มิชอบตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157 นอกจากนี้ ยังเป็นการกระทำการเพื่อให้ส่วนหนึ่งส่วนใดของราชอาณาจักรตกไปอยู่ภายใต้อำนาจอธิปไตยของรัฐต่างประเทศ หรือเพื่อให้เอกราชของรัฐเสื่อมไปตามมาตรา 119
ชงเรื่องให้ที่ประชุมสอบเร่งด่วน
นายศราวุธ เมนะเศวต เลขาธิการ ป.ป.ช.กล่าวว่า หลังจากรับหนังสือจากกลุ่มพันธมิตรฯแล้วจะรีบนำเรื่องรายงานต่อที่ประชุมคณะกรรมการ ป.ป.ช.ทราบในวันที่ 15 ก.ค. เพื่อให้พิจารณาว่าจะดำเนินการอย่างไรต่อไปคาดว่า ป.ป.ช.จะเร่งดำเนินการตรวจสอบโดยเร่งด่วนคงใช้เวลาไม่นาน
ท้า “สมัคร” ร้องสอบที่มา ป.ป.ช.
นายศราวุธกล่าวว่า ส่วนกรณีที่นายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม ระบุว่า ป.ป.ช.มีที่มาไม่ถูกต้อง เนื่องจากไม่ผ่านการถวายสัตย์ปฏิญาณนั้น ยืนยันว่า ป.ป.ช.มีที่มาและอำนาจถูกต้องตามกฎหมายทุกประการ เพราะผ่านการตรวจสอบคุณสมบัติจาก ส.ว. จึงยังสามารถปฏิบัติหน้าที่ได้ต่อไปตามปกติ และไม่จำเป็นต้องผ่านการถวายสัตย์ปฏิญาณตามที่นายกฯระบุ หากยังมีข้อสงสัยความถูกต้องเรื่องที่มาของ ป.ป.ช.ก็ให้ ส.ส. หรือ ส.ว. เข้าชื่อกัน 1 ใน 4 ยื่นต่อรัฐสภา เพื่อให้ตรวจสอบ ป.ป.ช.ได้ เมื่อถามว่า กรณีนี้จะทำให้การทำงานของ ป.ป.ช. และรัฐบาลเป็นไปด้วยความยากลำบากหรือไม่ เพราะต้องมีการตรวจสอบกันและกัน นายศราวุธตอบว่า คงไม่เพราะทั้ง ป.ป.ช.และรัฐบาลต่างทำตามหน้าที่คงไม่มีเส้นระยะห่าง อย่างไรก็ตาม นายกรัฐมนตรีไม่ได้โทรศัพท์มาติดต่อกับตนเพื่อทำความเข้าใจเรื่องดังกล่าว
จวกนายกฯมีอคติเล่นงาน ป.ป.ช.
ทางด้านนายปานเทพ กล้าณรงค์ราญ ประธาน ป.ป.ช. ให้สัมภาษณ์กรณีกลุ่มพันธมิตรฯ และ ส.ว.ยื่นเรื่องให้ ป.ป.ช.ดำเนินคดีอาญากับ ครม.ทั้งคณะ ตามรัฐธรรมนูญมาตรา 275 ว่า เบื้องต้น ป.ป.ช.จะดูว่าเรื่องที่ยื่นมามีองค์ประกอบครบหรือไม่ แต่ส่วนใหญ่จะรับไว้พิจารณา จากนั้นจะมีการตั้งอนุกรรมการไต่สวน อาจจะเรียกนายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรี และนายนพดล ปัทมะ อดีต รมว.ต่างประเทศ มาให้ปากคำในชั้นอนุกรรมการไต่สวน เพื่อเปิดโอกาสให้ทุกฝ่ายได้ชี้แจง หากพบว่ามีความผิดตามข้อกล่าวหาจริง ป.ป.ช.จะส่งให้อัยการพิจารณาส่งฟ้องศาลต่อไป ส่วนกรณีนายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรี ระบุ ป.ป.ช.เป็นองค์กรขัดต่อรัฐธรรมนูญ เพราะมีที่มาจาก คมช.นั้น ป.ป.ช.ไม่ใช่องค์กรที่ขัดรัฐธรรมนูญ เพราะได้รับการรองรับในรัฐธรรมนูญปี 2550 โดยเฉพาะบทเฉพาะกาล มาตรา 299 ระบุว่า ให้องค์กรอิสระที่มีอยู่ทำหน้าที่ต่อไปจนครบวาระ โดยใช้อำนาจตาม พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติปี 2542 ไม่ทราบว่านายกฯมีอคติหรือไม่ ที่ออกมาโจมตีว่า ป.ป.ช.จ้องเล่นงาน แต่ยืนยันว่า ป.ป.ช.เป็นกลาง ทำทุกอย่างตามกฎหมาย
อ่านรายละเอียดต่อ ไทยรัฐ