เมื่อวันที่ 15 ก.ค. นายชูศักดิ์ ศิรินิล รมต.ประจำสำนักนายกฯ กล่าวถึงเสียงวิจารณ์ว่าพรรคพลังประชาชนเร่งแก้ไขรัฐธรรมนูญ เมื่อเปิดสภาสมัยนิติบัญญัติ จะยิ่งเพิ่มความขัดแย้งในบ้านเมืองว่า พรรคร่วมรัฐบาลและ ส.ส.คงต้องคุยกันให้ ตกผลึกมากกว่านี้เสียก่อน ว่าจะแก้ไขบางมาตราหรือแก้ไขทั้งฉบับ เท่าที่สอบถามนายกฯเข้าใจว่าจะให้เป็นเรื่องของรัฐสภาให้ ส.ส.เข้าชื่อกันเสนอแก้ไขตามสิทธิของ ส.ส.ตามมาตรา 291 ส่วนที่ ส.ส.พรรคพลังประชาชนระบุอาจไม่รอผลการศึกษาของคณะกรรมาธิการศึกษาการแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญ เป็นผลจากที่เราเห็นว่ามีปัญหา และเราไม่ยอมรับที่มาของรัฐธรรมนูญที่มาจากการปฏิวัติ เมื่อถามว่า นายอักขราทร จุฬารัตน ประธานศาลปกครองสูงสุด ออกมาระบุว่า รัฐธรรมนูญไม่ใช่ตัวปัญหา แต่ตัวปัญหาอยู่ที่ผู้ใช้รัฐธรรมนูญมากกว่า นายชูศักดิ์ตอบว่า ความคิดอยู่ที่ว่าที่มาที่ไปของรัฐธรรมนูญฉบับนี้มาจากการปฏิวัติ พวกเรารับไม่ได้ และที่มาที่ไปรัฐธรรมนูญฉบับนี้ก็มองพรรคการเมืองและนักการเมืองเลวร้ายกันไปหมด
จวก “จรัญ” พูดจารุนแรงเกินเหตุ
“เท่าที่ฟังข่าว มีตุลาการบางท่านถึงบอกว่าจะให้อาชญากรแก้รัฐธรรมนูญหรือ เป็นการแสดงถึงวุฒิภาวะและใช้ถ้อยคำที่รุนแรงเกินไป ฝากไปถึงตุลาการท่านนั้นด้วยว่าคุณใช้คำพูดไม่ได้เรื่องเลย ถ้าผมถามกลับไปว่าคุณร่างรัฐธรรมนูญเอง แล้วก็มาเป็นองค์กรอิสระเสียเอง คุณไม่คิดบ้างหรือว่านี่เป็นการกระทำแบบไหน คนชั้นใดร่างกฎหมายก็เพื่อประโยชน์ของคนชั้นนั้น ขณะที่คุณร่างกฎหมายคุณเป็นอะไรอยู่ แล้วคุณก็กลับมาเป็นอันนี้หรือเป็นอันนั้นต่อไป ผมไม่อยากใช้ถ้อยคำรุนแรงถึงขนาดนั้น ท้ายที่สุดพวกผมมองว่ารัฐธรรมนูญฉบับนี้ มีอคติกับพรรคการเมืองนักการเมืองเกินเลยไปกว่าที่ควรจะเป็น การเสนอแก้ไขไม่ใช่ว่าเราทำตาต่อตาฟันต่อฟันเพื่อดิสเครดิตฝ่ายตรงข้าม แต่อยากให้สังคมคิดว่าเมื่อรัฐธรรมนูญมีปัญหาต่อการบริหารงานของรัฐบาลและการดำรงตำแหน่งก็ต้องแก้กัน” รมต.ประจำสำนักนายกฯกล่าว
“จตุพร” มั่นใจญัตติแก้ไข รธน. 50
นายจตุพร พรหมพันธุ์ ส.ส.สัดส่วน ในฐานะคณะกรรมการประชาสัมพันธ์การแก้ไขรัฐธรรมนูญ พรรคพลังประชาชน กล่าวถึงการแก้ไขรัฐธรรมนูญว่า ร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญฉบับของคณะกรรมการประชาชนเพื่อการแก้ไขรัฐธรรมนูญ (คปพร.) ที่ นพ.แหวง โตจิราการ ยื่นต่อประธานสภาฯ ก่อนหน้านี้นั้น ทางสภาฯได้ตรวจสอบรายชื่อกว่า 8 หมื่นรายชื่อเรียบร้อยแล้ว ถือว่าเกินจาก 5 หมื่นชื่อ และถือว่ายุติแล้ว แม้ว่า ส.ส. และ ส.ว.ไม่ได้เข้าชื่อยื่นเข้าไปใหม่ แต่ญัตติเพื่อเสนอแก้ไขรัฐธรรมนูญนี้ ก็ต้องเข้าวาระการประชุมสภาในเดือน ส.ค.นี้อยู่ดี ไม่จำเป็นต้องรอผลการศึกษาจากกรรมาธิการศึกษาแก้ไขรัฐธรรมนูญ ให้เสร็จสิ้นก่อน เพราะเราจะใช้ช่องทางจากภาคประชาชนนี้ ในการเสนอแก้ไข และขอฝากไปทางกรรมาธิการศึกษารัฐธรรมนูญว่า อย่าดึงหรือยื้อเวลา เพราะไม่มีประโยชน์ อะไร วันนี้คนไทยทุกคนรู้ว่ารัฐธรรมนูญฉบับนี้มีปัญหาอย่างไร เมื่อถามว่าการตั้งกรรมาธิการเพื่อศึกษารัฐธรรมนูญ จะสูญเปล่าหรือไม่ นายจตุพรตอบว่า ไม่สูญเปล่า เพราะชัดเจนอยู่แล้วว่าต้องเสร็จในกรอบเวลา 60 วัน ถ้าไม่ดึงเรื่องเวลาจะพอดีกัน มั่นใจว่า นายชัย ชัดชอบ ประธานสภาฯ ต้องบรรจุวาระร่างของ คปพร.ในการเปิดประชุมสภาฯเดือน ส.ค.นี้ แน่นอนถ้าประธานสภาฯไม่บรรจุ ก็จะอยู่ไม่ได้
พปช.จวก “จรัญ” ก้าวก่ายนิติบัญญัติ
นายสุทิน คลังแสง ส.ส.มหาสารคาม พรรคพลังประชาชน กล่าวว่า คนที่จะอยู่ในสถานะสูงเป็นถึงตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ กลับใช้คำพูดที่ไม่เหมาะสม เป็นการส่งสัญญาณดูถูก ส.ส. และสถาบันนิติบัญญัติ ทั้งที่เมื่อ 2 ปีที่ผ่านมา ประเทศไทยถูกโจรกลุ่มหนึ่งเข้ามาปล้นอำนาจ และล้มกฎหมายของประชาชน โดยโจรกลุ่มนั้นก็เขียนกฎหมายขึ้นมาใหม่ เพื่อให้พรรคพวกตัวเองได้สืบอำนาจ ไม่มีระบบใดในโลกที่ให้คนเขียนกฎหมาย มานั่งพิพากษาในสิ่งที่ตัวเองเขียน
“หากนายจรัญยังคิดว่าตัวเองมีศักดิ์ศรีอยู่ ควรออกมาแสดงออกให้สังคมได้เข้าใจว่า ตั้งใจจะพูดดูถูกและก้าวก่ายการทำหน้าที่ของฝ่ายนิติบัญญัติหรือไม่ เพราะหากเป็นผมซึ่งมาจากกลไกที่สืบทอดอำนาจจากการรัฐประหาร คงไม่กล้าสู้หน้าต่อสังคมได้ ขอย้ำว่าพวกเราถูกส่งมาจากประชาชนเพื่อให้เข้ามาแก้กฎหมายที่โจรเขียน พอถึงเวลาจะแก้ไข โจรก็กลับออกมาคัดค้านทุกวิถีทาง” นายสุทินกล่าวและว่า จะขอดูท่าทีของนายจรัญอีกครั้ง ก่อนที่จะมีมาตรการใดๆต่อไปเพราะเข้าข่ายหมิ่นประมาท
อ่านรายละเอียดต่อ ไทยรัฐ