บล็อคข่าวส่งเสริมคนดี (รักดีหามจั่ว รักชั่วหามเสา หามจั่วก็หนักนะ)

ข่าวจากสื่อ

บทความจากสื่อ

วันพุธที่ 3 ธันวาคม พ.ศ. 2551

อย่างเพิ่งท้อแท้สิ้นหวังครับ ยุบพรรคเป็นอะไรที่เราคาดไว้แล้ว ถึงอย่างไรก็ไม่มีรัฐบาลแห่งชาติแน่นอน

ที่มา thaifreenews

บทความโดย...ลูกชาวนาไทย

ที่จริงฝ่ายเราโดนมามากแล้ว ครั้งนี้ก็แค่อีกหมัดหนึ่งเท่านั้น แต่ก็น็อคเรายังไม่ได้อยู่ดี

การยุบพรรคพลังประชาชน เป็นอะไรที่เราคาดการณ์กันไว้แทบทุกคนแล้ว และมีการเตรียมการเพื่อรับกับปัญหานี้แล้ว แม้จะไม่สามารถบรรเทาความเสียหายได้ทั้งหมดก็ตาม แต่ก็ไม่ได้หมายความว่า พวกเราจะพ่ายแพ้ เราเพียงแต่เสีย "แม่ทัพหน้า" พร้อม นายกองไปจำนวนหนึ่งเท่านั้น แต่เรายังไม่ได้แพ้สงครามครับ


แต่การแสดงออกวันนี้ จนศาล รธน. ต้องย้ายหนี นั้นก็เป็นการส่งสัญญาณให้ทราบกันอยู่แล้วว่า "บ้านเมืองนี้" เป็นจลาจล และไม่มีทางที่ใครจะใช้วิธีการหักด้ามพร้าด้วยเข่าได้อย่างแน่นอน องค์กรใดๆ ก็ไม่มีทางอยู่อย่างสงบสันติอีกต่อไปแล้ว บารมีใคร ก็ไม่อาจสยบวิกฤติความขัดแย้งนี้ได้แล้ว เมื่อแผ่นดินไม่มีธรรม ก็อย่าหวังว่าจะใช้การโฆษณาชวนเชื่อ สยบประชาชนได้เลยครับ

เมื่อโดนยุบพรรค สิ่งที่เสียไปอย่างแน่นอนคือ นายกฯสมชายต้องสิ้นสภาพไป ครม. ก็เป็นอันสิ้นสุดลงด้วย แม้ศาล รธน. จะเล่นกลแบบท่านนายกฯสมัคร สุนทรเวช คือ ห้ามคนที่โดนตัดสิทธิ์ทางการเมือง รักษาการในตำแหน่ง ต่อไป แต่ ครม. ก็มีรัฐมนตรี และรองนายกรัฐมนตรี รวม 21 คน ที่จะรักษาการต่อไป ซึ่งคงไม่ใช่ปัญหาใหญ่อะไร

สส.พรรคพลังประชาชน ทีต้องหลุดจากตำแหน่งไปเพราะเป็นกรรมการบริหารพรรค มีเพียง 12 คน เท่านั้น เฉพาะ สส. เขต แต่ สส.ปาตี้ลิสต์ ได้เลื่อนลำดับมาแทนกันไว้หมดแล้ว ดังนั้น สส.ในสังกัดของ พลังประชาชน ที่จะย้ายไปสังกัดพรรคเพื่อไทย จึงมีจำนวน 219 คน

ส่วนพรรคชาติไทย จะเสียหายมากที่สุดคือ สส. จะหลุดไป 15 คน เหลือ อีก18 คน สส.เหล่านี้ก็ต้องหาพรรคใหม่สังกัด ซึ่งมีความเป็นไปได้สูงที่จะย้ายมายยู่พรรคเพื่อไทย เพราะพื้นที่ส่วนใหญ่อยู่ในเขตของพรรคเพื่อไทย ส่วนตระกูลศิลปอาชา ตายหมู่ยกรัง

พรรคมัชฌิมา หลุดจากตำแหน่ง 1 คน เหลือ อีก 5 คน ซึ่งโอกาสจะย้ายไปพรรคเพื่อไทย ทั้งหมดมีความเป็นไปได้สูง

สภาผู้แทนฯ ตาม รธน.มาตรา 93 บัญญัติว่า หาก สส.ขาดไปและยังไม่ได้เลือกตั้งซ่อมให้ สมาชิกคงมีเท่ากับจำนวนที่มีอยู่ คือประมาณ 448 คน ดังนั้น ครึ่งหนึ่งคือ 224 คน พรรคเพื่อไทย หาพรรครวมสนับสนุนอีก ไม่เกิน 10 คน ก็สามารถครองเสียงเดินครึ่งของสภา ในวันเลือกตั้ง นายกรัฐมนตรีได้อยู่แล้ว

ดังนั้น ศาลรัฐธรรมนูญแม้จะตัดสินให้รัฐบาลล้มไปได้ แต่ก็ไม่สามารถทำให้สภาโดนยุบไปได้ แนวคิดเรื่อง "รัฐบาลแห่งชาติ" นั้นเป็นเรื่องที่เพ้อฝัน เพราะหากไม่ฉีก รธน. ปี 50 ทิ้งก่อน ก็ไม่สามารถทำอะไรนอกขอบเขตรัฐธรรมนูญได้ การฉีกรัฐธรรมนูญมีได้อย่างเดียวคือ ต้องทำรัฐประหาร ซึ่งขณะนี้มวลชนเสื้อแดงพร้อมแล้วที่จะต่อต้านการทำรัฐประหาร เราจึงไม่จำเป็นต้องกลัวกองทัพอีกต่อไป

ศาล รธน. ล้มรัฐบาลได้ แต่ไม่อาจยึดอำนาจรัฐได้ ดังนั้น เราอย่าเพิ่งตกใจ หรือท้อแท้สิ้นหวัง การรวมม็อบเสื้อแดงวันนี้ บอกให้ทุกฝ่ายทราบว่า กำลังคนเราพร้อมแล้ว ที่จะต่อสู้และไม่ยอมสยบก้มหัวให้กับใครอย่างเด็ดขาด แม้จะคิดว่าตัวเองมีบารมีสูงส่งก็ตาม บารมีที่ไม่ได้มาจากการสนับสนุนของประชาชน ไม่มีความสำคัญในทางการเมืองมากนัก

สงครามยังจะมีอีกต่อไป เราสูญเสียแม่ทัพ นายกอง กองทัพหน้า ไปจำนวนหนึ่ง ซึ่งเราก็เคยเสียมาแล้ว แต่เรายังไม่ได้แพ้ เรายังไม่ได้แตกทัพ ทัพหลวงเรายังมั่นคงดีอยู่



ที่จริงการยุบพรรคอาจไม่ร้ายแรงเกินไปสำหรับเราก็ได้ครับ เพราะผลในทางการเมืองที่ผลเห็นอย่างชัดเจน คือ การทำลายพรรคชาติไทย และตระกูลศิลปอาชา ออกจากการเมืองไปแบบถอนรากถอนโคนเลยทีเดียว พรรคเพื่อไทยที่เกิดใหม่ คงรวมเอาพรรคชาติไทยเข้าไปด้วย ดังนั้น พรรคเพื่อไทยก็อาจโตกว่าเดิมด้วยซ้ำไปครับ เมื่อมีการเลือกตั้งซ่อม แทน สส.เขตที่สิ้นสภาพไป 32 คนแล้ว ผมคิดว่า พรรคเพื่อไทย อาจมีที่นั่งในสภาถึง 280 ที่นั่งก็เป็นได้

สำหรับ สส. แถวที่สองของพรรคพลังประชาชน อาจเรียกว่าเป็นพวกแถวสาม หรือทีม C ของพรรคไทยรักไทยเดิมก็ว่าได้ จะได้มีโอกาสเป็นรัฐมนตรีกันทั่วหน้า เพราะแถวแรกๆ คือทีม A กับทีม B โดนใบแดง ตายในสนามรบหมดแล้ว ก็จำเป็นต้องเลื่อนแถวที่สอง ที่สามขึ้นมาแทน สรุปแล้ว ใครอยู่ฝ่ายทักษิณ ฝ่ายประชาธิปไตย ก็มีโอกาสได้เป็นรัฐมนตรีกันแทบทุกคน ส่วนใครอยู่ ปชป. ก็กินแห้วกันต่อไป

ดังนั้น ผมจึงไม่กังวลว่า สส.พรรคพลังประชาชน ที่โดนยุบจะกระจัดกระจายอีกต่อไป เพราะพวกเขามีโอกาสทางการเมืองมากขึ้น และ ประชาชนก็คอยขนาบข้างหลังอยู่

การยุบพรรค ให้โอกาสกับนักการเมืองรุ่นใหม่ เลือดใหม่ของฝ่ายทักษิณครับ ส่วนฝ่ายอำมาตยาธิปไตย ก็ยังคงเป็นพวกเก่าแก่ที่ปรับตัวยากอยู่

สรุปเราไม่มีอะไรต้องกลัว ท้อแท้ หรือสิ้นหวังครับ

ข่าวสุดท้ายที่ผมได้ยินคือ นางสดศรี สัตย์ธรรม ออกมาให้สัมภาษณ์ว่า การย้ายพรรคของ สส.สัดส่วนอาจมีปัญหา ต้องให้ กกต. ตีความ ซึ่งอาจเป็นอุปสรรคอย่างนั้นของฝ่ายประชาธิปไตย

แต่อย่างไรก็ตาม รัฐธรรมนูญกำหนดไว้ว่า สส.ที่ถูกยุบพรรค ต้องหาพรรคใหม่สังกัดภายใน 60 วัน หากหาไม่ได้จะหมดสิ้นสมาชิกภาพ

ผมคิดว่าเขาคงต้องมีการเลือกรัฐบาลภายในสองสามสัปดาห์นี้ แหละครับ ดังนั้น สส. ที่ถูกยุบพรรคยังคงมีสิทธิ์เลือกนายกรัฐมนตรีอยู่ แม้ว่าจะไม่มีพรรคก็ตาม และอีกอย่างการโหวตเลือกนายกรัฐมนตรี เป็นเอกสิทธิ์ของ สส. พรรคจะสั่งไม่ได้ ดังนั้น เกมนี้ก็ยังคงอยู่กับฝ่ายประชาธิปไตยครับ

ส่วนแนวคิดเรื่องรัฐบาลแห่งชาติ นั้นอย่าไปสนใจเลยครับ เป็นเรื่องเพ้อฝันของพวกที่ไม่รู้จะหาทางเอาชนะได้อย่างไรมากกว่า ถึงอย่างไร ประชาชนในประเทศนี้ก็ไม่เอารัฐบาลแห่งชาติครับ

ที่จริงไม่ใช่รัฐบาลแห่งชาติ แต่เป็น “รัฐบาลของพวก ศักดินาอำมาตยาธิปไตย โดยอำมาตย์ เพื่ออำมาตย์” นั่นแหละครับ พวกนี้ยัฝันถึงวันคืนอันเก่าๆ ที่พวกตนเคยรุ่งเรืองอยู่ แล้วคิดอหังการ์ ว่า เราจะหยุดโลกไม่ให้หมุน เราจะห้ามทะเลไม่ให้มีคลื่น อะไรประมาณนี้ครับ



ข่าวส่งเสริมคนดี

จำนวนผู้เข้าเยี่มมชม

link to affordable web hosting
Powered by web hosting provider .

สถิติการเข้าชม DMNEWS

eXTReMe Tracker