บล็อคข่าวส่งเสริมคนดี (รักดีหามจั่ว รักชั่วหามเสา หามจั่วก็หนักนะ)

ข่าวจากสื่อ

บทความจากสื่อ

วันอาทิตย์ที่ 19 กันยายน พ.ศ. 2553

สักวันความเจ็บปวดนี้อาจจะมีประโยชน์สำหรับพวกเราทุกคน*

ที่มา Thai E-News



โดย Peter Sri มีเฌอเ็็ป็นลูกรัก
ที่มา เฟซบุ๊ค

หมายเหตุ: บทความนี้เขียนขึ้นโดยผู้เขียนมีส่วนได้ส่วนเสียกับเหตุการณ์ความรุนแรง เมื่อเดือนเมษายน – พฤษภาคม 2553 ที่ผ่านมา และน่าจะประกอบสร้างไปด้วยโลภะ โทสะและโมหะ จึงเหมาะสำหรับประชาชนธรรมดาผู้มีสติ ส่วนผู้รักสันติและมีวิจารณญาณสูงส่งไม่ควรอ่านด้วยประการทั้งปวง


ภาย หลังการเสียชีวิตของประชาชนผู้บริสุทธิ์ที่ออกมาเรียกร้องประชาธิปไตยบนท้อง ถนนใจกลางเมืองเทวดา ตั้งแต่เมษายน – พฤษภาคม 2553 ประเทศไทยดูเหมือนจะกลับเข้าสู่ภาวะปรกติอย่างรวดเร็ว ท่ามกลางความประหลาดใจของชาวต่างชาติว่าที่นี่เกิดอะไรขึ้นกันหรือ ประชาชนตายจำนวนมากทำไมไม่มีการตรวจสอบหาผู้กระทำความผิด

สื่อต่าง ชาติบางสำนักถึงกับประณามว่าเหตุการณ์ความรุนแรงที่เกิดซ้ำแล้วซ้ำเล่าใน ประเทศไทย เป็นเพราะคนไทยไม่เคยแยแสถ้าหากว่าเหตุการณ์ความรุนแรงนั้นไม่เกิดขึ้นกับ ตัวเอง ครอบครัวหรือคนใกล้เคียง

เด็กชายเฌอเมื่อยังเยาว์

ใน ฐานะครอบครัวผู้สูญเสียผมคิดว่ามันน่าจะใกล้เคียง เพราะหากลูกชายคนเดียวของครอบครัวไม่เสียชีวิตผมก็สงสัยอยู่ว่าผมจะออกมา “อินเตอร์แอ็คทีฟ” ได้ขนาดนี้เชียวหรือ

แน่นอนว่าท่ามกลางความ ประหลาดใจ ย่อมเจือปนไปด้วยความเจ็บปวดเป็นระยะๆของครอบครัวผู้สูญเสีย ทั้งด้วยความไม่เจตนาหรือด้วยความต้องการแสดงออกอย่างใดอย่างหนึ่งของคนรอบ ข้าง โดยลืมหรืออาจตั้งใจที่จะละเลยสิ่งที่เรียกว่า “กาละเทศ” ผมจะลองลำดับเพียงบางเรื่องมาสู่กันฟังเผื่อว่าสักวันความเจ็บปวดนี้จะมี ประโยชน์สำหรับพวกเราทุกคนอยู่บ้าง

ความเจ็บปวดครั้งแรกๆ ของครอบครัวเราเกิด ขึ้นเมื่อญาติสนิทมิตรสหายทราบข่าวการเสียชีวิตของ “เฌอ” แน่นอนว่าส่วนหนึ่งยังนิยมใช้โทรศัพท์แสดงความเสียใจเพราะไม่ต้องลงทุนมาก มายนัก อีกทั้งโทรศัพท์บ้านเรายังไปไม่ถึงขั้น “มองหน้าสบตา” ในระหว่างที่สนทนากัน ทำให้การใช้โทรศัพท์มักจะเป็น “ทางออกที่ดี” รูปแบบหนึ่ง

กรณีหนึ่งผมได้รับสายจากคนที่ผมเคยนับเป็นเพื่อนคนหนึ่ง ที่ทราบเรื่องจากการบอกต่อของกลุ่มเพื่อนว่าผมเสียลูกชายในเหตุการณ์ความ รุนแรงที่รัฐบาลกระทำต่อประชาชน คำแรกที่เธอพูดออกมาคือ “เฮ้ย..เสียใจด้วยนะ แต่ฉันอยู่ฝ่ายรัฐบาลว่ะ” ก่อนจะสอบถามรายละเอียดเหมือนคนทั่วๆไป และบอกว่าจะมางานศพในวันไหน หลังจากนั้นก็แสดงความคิดเห็นทางการเมืองในฝักฝ่ายที่ตัวเองนิยม ก่อนจะร่ำลาและวางหูไปเมื่อเสร็จธุระของตัว ทิ้งให้ผมงงงวยโดยไม่มีโอกาสได้ชี้แจงใดๆอยู่เพียงลำพังว่า “ลูกกูตายแล้วเกี่ยวอะไรกับการอยู่ฝ่ายไหนของมันวะ” ได้แต่ปลอบใจตัวเองว่าอย่างน้อยก็ได้ฝึกฝน “การฟัง” ของตัวเองแหละน่า เรื่องนี้จบลงที่วันฌาปนกิจเธอโทรมาให้เหตุผลที่ไม่สามารถมาร่วมงานได้เพราะ ตอนนี้ “เกิดเหตุจลาจลเผาบ้านเผาเมืองไปทั่วแล้วเกรงว่าจะไม่ปลอดภัย” ผมรับฟังอย่างเงียบๆ ก่อนวางสายหันไปสนทนากับเพื่อนและครอบครัวที่บินตรงมาจากยะลา รวมทั้งพี่ที่เคยร่วมงานกันที่ตรงมาจากเชียงรายถึงพร้อมกันในวันสุดท้ายของ เฌอบนดาวแห่งความโหดร้ายดวงนี้

อีกสองสามครั้ง เมื่อคุณแม่น้องเฌอเดินทางไปรับเงินช่วยเหลือจากหน่วยงานต่างๆ “คำพูดและท่าที” ที่ไม่ระมัดระวังและแสดงความรังเกียจครอบครัวผู้สูญเสียของเจ้าหน้าที่ผู้ ปฏิบัติงานในบางหน่วยงาน ที่ภรรยามาถ่ายทอดให้ผมฟังอีกครั้งนั้นก็แสดงถึงความไม่รู้เท่าการณ์ และแสดงให้เห็นถึงอิทธิพลที่จิตใต้สำนึกที่ผลักดันการแสดงออกเช่นนี้ออกมา อย่างไม่สามารถปิดไว้ได้แม้จะมีความพยายามเช่นใด

เหตุการณ์ลักษณะ เดียวกันที่ผมมีโอกาสประสบพบเห็นโดยตรง และสามารถนำมาเล่าในเชิงรายละเอียดได้ คือ เมื่อกรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือ DSI. จัดแถลงข่าวความคืบหน้าของการสอบสวนคดีที่เกิดจากความรุนแรงที่รัฐบาลกระทำ ต่อประชาชนในช่วงเดือนเมษายน - พฤษภาคมที่ผ่านมา คุณแม่พะเยา อัคฮาด คุณแม่ของคุณกมนเกด อัคฮาด พยาบาลอาสาที่ถูกยิงเสียชีวิตในวัดปทุมวนาราม ได้โทรมาชักชวนให้ผมไปร่วมฟังด้วยเผื่อจะมีอะไรปรึกษาหารือกันรวมทั้งครอบ ครัวญาติอีกหลายราย

ขณะที่ผมกำลังเดินทางจะถึง DSI. ที่ศูนย์ราชการถนนแจ้งวัฒนะ คุณแม่คุณเกด ได้โทรมาบอกว่า DSI. ได้ย้ายสถานที่แถลงข่าวไปที่ที่ทำการของกระทรงยุติธรรม(เดิม) ที่อาคาร Software Park แล้ว พวกเราเลยต้องดั้นด้นตามไปเพียงเพื่อจะพบว่าการแถลงข่าวได้เสร็จสิ้นลงโดย ไม่มีความคืบหน้าใดๆ

สื่อมวลชนที่ลงมาจากห้องแถลงข่าวได้เล่าให้ฟัง ว่าสงสัยคงจะต้องการคลายความกดดัน จากการที่รัฐมนตรีกระทรวงการต่างประเทศของญี่ปุ่นมาวางดอกไม้เคารพศพนักข่าว ชาวญี่ปุ่น บริเวณหน้าโรงเรียนสตรีวิทยาเมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมา ทิ้งความงงงวยไว้ให้กับเหล่าครอบครัวผู้สูญเสียไว้เบื้องหลัง

วัน เดียวกัน กลุ่มเครือญาติโดยมีคุณแม่คุณเกดเป็นแกนนำ ยังได้ชักชวนให้ไปติดตามความคืบหน้าการพิจารณาเงินช่วยเหลือของสำนักงานช่วย เหลือทางการเงินแก่ผู้เสียหายและจำเลยในคดีอาญา กรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพ กระทรวงยุติธรรม ซึ่งหลายรายญาติมิตรได้ผ่านการทำบุญร้อยวันโดยไม่มีการชี้แจงความคืบหน้าของ การพิจารณาแต่อย่างใด เมื่อไปถึงท่านผู้อำนวยการฯได้ตอบข้อซักถามของคุณแม่น้องเกดและท่านอื่นๆ ก่อนจะยืนยันว่าจะดำเนินการให้รวดเร็วขึ้น

ท่านผู้อำนวยการฯ ยังได้ยกตัวอย่างความกรุณาของท่านในการให้ความช่วยเหลือผู้สูญเสียและผู้บาดเจ็บให้ฟังว่า
“มีคนหนึ่งหูหนวกแล้วก็พูดไม่ได้ มันจะเดินไปทำงานก็เดินตามคนอื่นๆที่ซอยรางน้ำจะไปขึ้นรถที่อนุสาวรีย์ฯ พอเริ่มมีการยิงกันคนอื่นก็วิ่ง ไอ้นี่ไม่รู้เรื่องไม่ได้ยินอะไร เห็นคนวิ่งก็วิ่งตาม แล้วคุณคิดดู คนเยอะแยะยิงโดนใครไม่โดนดันมาโดนไอ้หนวกนี่ แล้วโดนที่ไหนไม่โดนดันโดนไข่อีก ผมก็เลยอนุมัติเงินช่วยเหลือให้มันไป 15,000 บาท สงสารมันน่ะหูหนวกแล้วยังซวยอีก”
แล้วท่านก็หัวเราะด้วยความสนุกสนาน เป็นอีกครั้งที่ีผมได้ฝึกการข่มกลั้นพร้อมนึกถึงคำพระที่ว่า “มารไม่มีบารมีไม่เกิด”

ล่าสุด และเป็นสาเหตุที่ผมคิดว่าคงต้องถ่ายทอดอะไรออกมาบ้างก่อนที่จะช้ำในตายโดยไม่มีใครทราบสาเหตุ นั่นคือกรุงเทพมหานครได้ติดต่อให้ไปรับเงินช่วยเหลือเยียวยา ครั้งแรกผมยืนยันกับเจ้าหน้าที่ว่าครอบครัวมีทะเบียนบ้านอยู่ในจังหวัด นนทบุรีและไม่มีความเกี่ยวข้องสัมพันธ์ใดๆกับทางกรุงเทพมหานคร แต่ปลายสายยืนยันว่าทางผู้ว่าการฯยินดีให้ความช่วยเหลือทุกคน โดยไม่แบ่งว่าเป็นคนจังหวัดไหน ผมจึงแจ้งชื่อยืนยัน

ผมและภรรยาไปถึง ศาลาว่าการกรุงเทพมหานครค่อนข้างล่าเลยเวลานัดหมายพอสมควร แต่แถวของญาติที่กำลังลงทะเบียนก็ยาวมิใช่น้อย ขณะที่เรากำลังหันรีหันขวาง เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยได้เข้ามาถามและเมื่อทราบว่าเป็นครอบครัวผู้ เสียชีวิตจึงให้ไปรวมที่ห้องประชุมใหญ่เพื่อรอเรียก พอเราเข้าไปพบว่ากำลังมีการแถลงข่าว “มหกรรมสินค้าและผลิตภัณฑ์ชุมชน” เลยกำลังจะถอยออกมา แต่พบว่ามีกลุ่มญาติ 10 เมษา อยู่ในนั้นด้วย ตอนหลังเลยถึงบางอ้อ เมื่อพี่ๆกลุ่มญาติ 10 เมษาฯ บอกว่ากรุงเทพมหานครให้มารอในห้องไปก่อน เพราะไม่มีที่รอด้านนอก หลังจากนั้นก็มีการแถลงข่าวมหกรรมสินค้าและผลิตภัณฑ์ชุมชน ท่ามกลางความงงงวยอีกครั้งของกลุ่มญาติว่าตัวเองมาผิดงานหรือเปล่า

พี่ ผู้หญิงท่านหนึ่งซึ่งมาถึงก่อนเปรียบเปรยให้ฟังด้วยโทสะภายหลังงานแถลงข่าว ว่า “มันเอาหุ่นไทยมารำต่อหน้าต่อตาเรา เหมือนจะย้ำว่าพวกคุณมันก็แค่หุ่นเชิดนั่นแหละ” ถึงตอนนี้ผมไม่แน่ใจว่าเราโชคดีหรือเปล่าที่เดินทางมาถึงค่อนข้างล่าช้า

เวลา บ่ายโมง เมื่อเหล่าครอบครัวผู้เสียชีวิตประมาณ 102 รายจากกว่า 80 ครอบครัวลงทะเบียนครบแล้ว กรุงเทพมหานครก็พาเครือญาติทั้งหมดนั่งรถบัสสามคันพาไปที่ราชประสงค์ ทั้งที่ห้องประชุมใหญ่กรุงเทพมหานครก็ว่างไม่ได้ใช้งานแล้ว และถ้าจะจัดซ้อนกันก็น่าจะได้ เพราะช่วงเช้ายังให้กลุ่มญาตินั่งในงานแถลงข่าวได้เลย ผมคิดในใจว่ากรุงเทพมหานครอาจจะมี Gimmick อะไรมาให้ญาติรู้สึกดี หลังจากที่เคยเจ้ากี้เจ้าการ หลอกประชาชนผู้บริสุทธิ์มาร่วมทำลายหลักฐานคดีสังหารหมู่ที่ราชประสงค์ ชนิดที่นางพรทิพย์ โรจนสุนันท์ ผู้ อำนวยการสำนักงานนิติวิทยาศาสตร์ไม่ออกมาโวยวายอะไรเลย จะบอกว่าเธอรู้เห็นเป็นใจในฐานะที่อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษผู้บังคับบัญชา เป็นกรรมการศูนย์อำนวยการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉิน หรือ ศอฉ. ก็ไม่น่าจะใช่ เพราะดูเธอมีบุคลิกลักษณะของคนที่ซื่อสัตย์ ถือคุณธรรมเป็นที่ตั้งออกอย่างนั้น

ขณะที่ผ่านวัดปทุมวนาราม “พี่นรี” ที่ลูกชายถูกทหารยิงเสียชีวิตก็พูดขึ้นมาว่า “ทำไมมันไม่จัดที่วัดปทุมฯไปเลยวะ ไปทำไมราชประสงค์” ทำ เอาทั้งรถเงียบกันไปหมด เมื่อรถวิ่งไปถึง Urban Space ข้างนารายภัณฑ์ ฝั่งตรงข้าม Ground Zero ราชประสงค์ ผมเริ่มรู้สึกแปลกๆว่าทำไมพิธีมอบเงินถึงมีการตบแต่งสถานที่ออกมาได้หลากสี ขนาดนี้ หรือว่ากรุงเทพมหานครขอยืมสถานที่เขามาจัดงาน แต่เมื่อลงไปพบว่ากรุงเทพมหานครพาเรามาร่วมงานแถลงข่าว Bangkok Shopping Week และพิธีมอบเงินช่วยเหลือผู้ประสบภัยในการชุมนุมทางการเมือง

เริ่มงานผู้ว่าการกรุงเทพมหานคร ซึ่งอาจารย์สุลักษณ์ ศิวรักษืเคย ให้สัมภาษณ์ทำนองว่า “ถ้าไม่มีปฏิวัติ 2475 คนนี้จะเป็นบุคคลที่สำคัญมากๆ” ได้กล่าวถึงวัตถุประสงค์การจัดงาน Bangkok Shopping Week เพื่อให้ผู้ประกอบการที่ประสบภัยจากการชุมนุมทางการเมืองได้มีที่จำหน่าย สินค้า โดยได้เงินบริจาคมาตั้งกองทุนช่วยเหลือในครั้งนี้ ซึ่งในรายชื่อส่วนใหญ่จะเป็นผู้ประกอบการห้างสรรพสินค้าขนาดใหญ่ รวมทั้งผู้มีจิตศรัทธาอื่นๆ เช่น ASTV และมูลนิธิยามเฝ้าแผ่นดิน ฯลฯ และถือโอกาสนี้มอบเงินช่วยเหลือให้กับครอบครัวผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บ ทุพพลภาพ ตามเกณฑ์พิจารณาที่กรุงเทพมหานครได้ตั้งไว้

สุดท้ายคุณโก้ ธีรศักดิ์ พันธุจริยา เจ้าของครีมหน้าเด้งซึ่งกิจการในห้าง Zen ถูกเผาได้รับความเสียหายและเหล่าเพื่อนดาราได้มอบช่อดอกไม้และกล่าวขอบคุณ ท่านผู้ว่าการฯ ที่ได้จัดงานนี้ขึ้นมา หลังจากนั้นพิธีกรจึงให้ญาติผู้เสียชีวิตเข้าแถวรอรับมอบเงินช่วยเหลือ ผมค่อนข้างจะเห็นใจท่านผู้ว่าการฯที่ขณะมอบเงินไปก็ต้องซับเหงื่อให้ตัวเอง ไปด้วย ท่านจะรู้หรือไม่ว่าห้องประชุมใหญ่แอร์เย็นๆที่ศาลาว่าการกรุงเทพมหานครไม่ มีคนใช้

ภายหลังงาน ครอบครัวผู้สูญเสียต่างแยกย้ายกันไปเงียบๆ มีบางส่วนที่ต้องเดินทางกลับศาลาว่าการฯ บรรยากาศเต็มไปด้วยความเงียบที่น่าอึดอัด หลายคนคงนึกไม่ถึงว่าจะถูกกระทำซ้ำเช่นนี้ และด้วยความเคารพผมว่าบางคนที่ไม่ทราบว่าคนที่เรารักจากไปด้วยความเจ็บปวด ขนาดไหนคงเริ่มตระหนักเมื่อพิธีครั้งนี้สิ้นสุดลง

เมื่อไม่นานมานี้ ผมได้อ่านงานเขียนวิจารณ์อาจารย์นิธิ เอียวศรีวงศ์ กรณีรับเป็นกรรมการปฏิรูปของอาจารย์สมศักดิ์ เจียมธีรสกุล ผมนึกถึงคำภาษาอังกฤษที่อาจารย์สมศักดิ์ใช้และหาคำแปลที่ลงตัวในภาษาไทยไม่ได้ นั่นคือคำว่า decency เมื่อมาประสบเหตุการณ์ที่ก่อให้เกิดความเจ็บปวดตอกย้ำซ้ำเติม ผมรู้สึกได้ถึงความหมายและสัมผัสของคำๆนี้ แต่ก็ยังนึกถึงคำแปลไม่ออกอยู่ดี แต่ที่แน่ใจ นั่นคือสิ่งที่อาจารย์สมศักดิ์เรียกว่า “ความจริงใจ” ที่มีอยู่ในตัวตนของกรุงเทพมหานครและท่านผู้ว่าการฯ ที่ดูจะไม่แตกต่างจากปัญญาชนบริการทั้งหลายเท่าไรนัก

ในฐานะที่เป็น ประชาชนธรรมดาคนหนึ่งในจำนวนครอบครัวผู้เสียชีวิต ผมไ่ม่สามารถรับประกันได้ว่าเหตุการณ์ความรุนแรงทางการเมืองที่รัฐบาลกระทำ ต่อประชาชนและทำให้มีผู้เสียชีวิตจำนวนมากจะไม่เกิดขึ้นอีก แต่เครือญาติเริ่มหาทางรวมตัวเพื่อทวงถามความยุติธรรมให้กับผู้เสียชีวิต ผู้บาดเจ็บ และผู้ที่อาคารบ้านเรือนถูกทำลายเสียหาย

แน่นอนว่า ระหว่างทางแห่งการค้นหาความจริงนี้ พวกเราคงต้องเผชิญหน้ากับความเจ็บปวดที่คงกรีดลึกลงไปในแผลเดิมซ้ำแล้วซ้ำ เล่า แต่ผมหวังว่าสักวันความเจ็บปวดนี้อาจจะมีประโยชน์สำหรับพวกเราประชาชนธรรมดา ทุกคน ไม่ว่าเราจะชอบมันหรือไม่ก็ตาม

หมายเหตุ: Bangkok Shopping Week จะเริ่มกิจกรรมช็อปกระหน่ำในวันเสาร์ที่ 18 กันยายน ยาวจนถึงวันจันทร์ที่ 11 ตุลาคมนี้ ที่ Urban Space ราชประสงค์ ถ้าว่างก็แวะไปจับจ่ายใช้สอยหน่อยครับ

* ชื่อบทความนำมาจากชื่อภาพยนตร์ “Someday This Pain Will Be Useful to You” อ่านรายละเอียดได้ในนิตยสาร Bioscope ฉบับที่ 106 กันยายน 2553 ปก “อินทรีแดง” เดือด! หน้า 11

ข่าวส่งเสริมคนดี

จำนวนผู้เข้าเยี่มมชม

link to affordable web hosting
Powered by web hosting provider .

สถิติการเข้าชม DMNEWS

eXTReMe Tracker